ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 1350

ซู่เป่ามองไปข้างหลังภูเขาหินเยือกเย็นสีดํา

หลังจากค้อนทองคำม่วงระเบิดตัวเองไปแล้ว ก็แทบไม่เหลือแม้ผุยผง

ซู่เป่า อดใจหายไม่ได้ ฆ อยู่กับเธอมาตั้งแต่ยังเด็กต่อไปคงไม่ได้เห็นเงามันอีกแล้ว

ซืออี้หรัน เห็นสายตาหดหู่ของเธอแล้วก็เดินเข้าไปพูดว่า "ไปกันเถอะไปดูโซ่ตรวนเก้าวิญญาณกัน แล้วก็รีบออกไปจากที่นี่กันเถอะ "

ซู่เป่าพยักหน้า ใช่ ยังมีเรื่องของ พระแม่ธรณีอีก

จุดประสงค์ที่มามายังประตูเก้าวิญญาณนี้ก็เพื่อช่วยปลดโซ่ตรวนให้กับนาง

ซู่เป่าเดินไปที่ประตูเก้าวิญญาณที่เงียบสงบ ซืออี้หรันก็เดินตามหลังเธอไป

เขาเพิ่งบรรลุได้พลังจิตเทพมา หนึ่งเลยคือความแปลกใหม่ สองคือตรวจสอบสถานการณ์โดยรอบตามความเคยชิน ดังนั้นเขาจึงใช่จิตเทพตรวจดูสภาพแวดล้อมโดยรอบอย่างต่อเนื่อง

ตอนนี้จิตเทพของเขามีระยะเพียงประมาณสิบเมตรเท่านั้น เขาตรวจสอบอย่างละเอียดรอบหนึ่งก่อนจะเตรียมตัวออกเดิน แต่จู่ ๆ ก็หยุดเดิน

ใต้ ภูเขาหินเยือกเย็นที่อยู่ไม่ไกล มีแสงสะท้อน สะท้อนวิบวับเป็นสีม่วงอ่อนอ่อนอ่อน

ซืออี้หรันเดินไปหยิบขึ้นมาดูพบว่าเป็นเศษซากค้อนทองคำม่วง

มันแตกเป็นเศษเล็กเศษน้อย เล็กกว่าเล็บนิ้วก้อยของเขาอีก

เขาค้นหาอีกรอบทันทีและพบว่าเหลือเพียงเศษเล็กเศษน้อยเท่านั้น

ซืออี้หรันอยากตะโกนเรียกซู่เป่า แต่หลังจากหยุดคิดไปครู่หนึ่งเขาก็ใส่ค้อนจื่อจินลงในแหวนของเขาอย่างเงียบ ๆ

ถ้าเอาซีคอนไปให้เธอตอนนี้นอกจากจะทำให้เธอเสียใจเราก็คงช่วยอะไรไม่ได้เลย

ไว้สักวันเค้าคงหาวัสดุที่เหมือนกับคำม่วงได้แล้วสร้างมันขึ้นมาใหม่

ถึงเวลานั้นค่อยเอาให้เธอดีกว่า

"พี่อี้หรัน?" ซู่เป่าซึ่งยืนอยู่หน้าประตูเก้าวิญญาณ หันหลังกลับมาเร่งรัดซืออี้หรัน

ซืออี้หรันตอบว่า "มาแล้ว" และรีบเดินไปหาซู่เป่า

"ตํานานเล่าว่าประตูเก้าวิญญาณมีเพียงจักรพรรดิชิงหัวเท่านั้นที่สามารถเปิดได้" ซู่เป่ามองเขา "พี่อี้หรัน พี่เปิดมันได้ไหม"

ซืออี้หรันก็ยกฝ่ามือขึ้นมาแปะลงไปบนประตูเก้าวิญญาณ

ประตูที่สูงตระหง่านทำให้ทั้งสองคนรู้สึกว่าตัวเองตัวเล็กมาก ถ้าออกแปลงผักเฉยเฉยคงผลักไม่ออกแน่แล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึงประตูเก้าวิญญาณที่มีการป้องกันอาณาเขตด้วยแล้ว

"ผลักไม่ออก..." ซืออี้หรันขมวดคิ้ว

เขาแอบใช้พลังหยินช่วยก็แล้ว ใช้จิตเทพก็แล้ว แต่ประตูเก้าวิญญาณ ก็ไม่ขยับเขยื้อนเลย

ซู่เป่าแปลกใจ "เอ๊ะ มีแต่จักรพรรดิชิงหัวเท่านั้นที่สามารถเปิด ประตูเก้าวิญญาณนี้ได้ไม่ใช่หรือ แล้วทำไมประตูถึงไม่เปิดให้เจ้าของล่ะ"

ซืออี้หรัน รู้สึกละอายใจเล็กน้อย "เอ่อ คือ..."

แล้วเขาก็เห็นเธอเคาะประตูเก้าวิญญาณแล้วพูดว่า ฮัลโหล... เข้าใจภาษามนุษย์ไหม จักรพรรดิชิงหัวมาแล้ว เปิดประตูสิ"

เด็กหญิงอายุ 9 ขวบหน้าตาประณีตและสวยงามมาก แม้ว่าหลังจากเพิ่งต่อสู้มาใบหน้าของเธอซีดเซียวไปหน่อย แต่พอเธอเอียงคอเล็กน้อย เมื่อเทียบกับประตูเก้าวิญญาณแล้วก็ดูตัวเล็กไปเลย

น่ารักจัง...

ซืออี้หรันกระแอมไอ เขาหูแดงเล็กน้อย ได้แต่ด่าตัวเองว่าสกปรก

เขาก้มหน้าก้มตาและพูดเสียงงึมงำว่า "พี่จะลองอีกครั้งนะ"

หนุ่มน้อยออกแรง ถึงขั้นออกจนสุดแรง หน้าที่ซีดเซียวเริ่มมีเลือดฝาด แต่ประตูเก้าวิญญาณไม่ขยับเลย

ฮ่า ๆ ๆ พี่อี้หรันที่ดูมาดเท่ ไม่คิดว่าจะมีมุมน่ารักกับเขาเหมือนกัน

ซืออี้หรันมองเธอหันหลังกลับไป

แล้วเขาก็รู้สึกว่ามี ไอร้อนผุดขึ้นมาจากในเสื้อมันอบจนเขารู้สึกหน้าร้อนไปหมด

ซู่เป่า: แค่ก ๆ ๆ... ห๊า? พี่อี้หรันเป็นอะไร พี่อยากกินอะไร"

เพื่อปกปิดความจริงที่ตัวเองแอบขำ

เธอเลยหยิบปลาภูเขาหิมะพันลี้ออกมาจาก น้ำเต้าวิญญาณ

แล้วก็ถือโอกาสปล่อยเจ้าอสูรน้อยออกมาด้วยเลย

ตอนที่เจ้าอสูรน้อยออกมา แก้มสองข้างของมันป่องเหมือนว่าแอบกินอะไรอยู่

"จึ๊ ๆ ?" มันทําหน้างงงวย

โลกภายนอกน้ำเต้าวิญญาณเป็นโรคที่แตกต่างกันออกไปยิ่งระดับของเธอยิ่งสูงเท่าไหร่กฎในโลกภายในน้ำเต้าวิญญาณก็จะ สมบูรณ์แบบขึ้นเรื่อย ๆ

ผีขี้ขลาดผีหลายใจเลือกที่จะออกมา ฝึกตนในยมโลกส่วนผีตัวอื่นเลือกที่จะฝึกตนอยู่ในโลกน้ำเต้าวิญญาณต่อไป

ตอนที่ปล่อยเจ้าอสูรน้อยออกมาสู้เปล่าก็ลองมองดูผีในน้ำเต้าวิญญาณน่าจะไปฝึกตนกันที่โลกใบเล็กแล้ว

ถึงได้ปล่อยให้เจ้าอสูรน้อยแอบขโมยของกิน

"กินอะไร อ้าปากให้ฉันจะดูซิ อ้า~" ซู่เป่าอยากเห็นว่าเจ้าอสูรน้อยกินอะไรเข้าไป เพราะสิ่งที่พี่หลายใจปลูกเอาไว้ในนั้นต้องวิญญาณไม่ได้มีแค่ผลไม้วิเศษ

แต่ยังมีผลไม้แปลกแปลกอีกมากมากมาย อย่างเช่นผลที่กินเข้าไปแล้วจะต้องเอามือสองข้างตบหน้าอก แดง แล้วก็ยังมีผลที่กินแล้ว หรือถึงขั้นหน้าคว่ำสัตว์ผีน้อยกลับคิดว่ามิลี่เ เจ้าอสูรน้อยคิดว่าซู่เป่าจะแย่งอาหารจากปากของมัน มันก็เลยหันหน้านี้ไปอีกทางแล้วหันก้นให้ซู่เป่าแทน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน