ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 1351

ซู่เป่ามองดูอสูรน้อยที่กำลังเฝ้าอาหารอยู่ด้วยท่าทางกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

เข้าไปถึงในปากของมันแล้ว จะมีใครเข้าไปล้วงออกมาได้!

ระหว่างที่ซู่เป่ากับอสูรน้อยคุยกันอย่างถูกคอ ซืออี้หรันก็ยกหม้อขึ้นมาโดยไม่พูดไม่จา

เขาจัดการปลาภูเขาหิมะพันลี้จนสะอาดหมดจด เอาเครื่องในของปลาและเกล็ดปลาออกทั้งหมด ใช้น้ำในบึงเหมันต์ล้างให้สะอาด จากนั้นก็เททิ้งไปยังที่ไกล

อสูรน้อยจ้องตาค้าง

มันร้องขึ้นมาอย่างโมโห ท่าทางช้ำใจสุดขีด เจ้าคนฟุ่มเฟือย!

มันวิ่งออกไป และคุ้ยของที่ถูกเททิ้ง ห่อกลับมาไว้ทั้งหมด

ถึงยังไงมันก็คือสัตว์ชนิดหนึ่ง ปลาภูเขาหิมะพันลี้ไม่เหม็นและไม่คาว สำหรับมันแล้วถือว่าเป็นของชั้นเลิศ

ไส้ปลาเครื่องในปลาถือเป็นของล้ำค่าในเมืองหลี โรงน้ำชาที่ซู่เป่ากับบรรพบุรุษไปกินข้าวด้วยกันนั้น ไม่ใช่ว่าใครก็จะสามารถเข้าไปได้ และอาหารจานเด็ดในโรงน้ำชาคนทั่วไปก็ไม่มีปัญญาที่จะสั่งมากิน

ไส้ปลาเครื่องในปลาที่หลงเหลือในอาหารจานเด็ดของโรงน้ำชา จะถูกห่อเก็บไว้อย่างดีและส่งไปยังภัตตาคารอีกแห่ง ภัตตาคารนั้นก็เป็นภัตตาคารระดับสูง ถึงแม้จะเป็นผัดไส้ปลาก็ต้องใช้หินสีชาดจำนวนหลายก้อน

อสูรน้อยจะทนเห็นไส้ปลาเครื่องในปลาถูกทิ้งไปอย่างฟุ่มเฟือยได้ยังไง!

เสียดายที่ถูกน้ำในบ่อเหมันต์ราดจนซึมลงดินไปแล้ว…อสูรน้อยจึงรู้สึกเจ็บปวดใจอย่างมาก

เมื่อเก็บไส้ปลาเครื่องในปลาไว้เรียบร้อย เขาก็ค้นไปค้นมาสักพัก จนสุดท้ายค้นเจอกระทะใบเล็กหนึ่งอัน

ปลาภูเขาหิมะพันลี้มีขนาดใหญ่ ไส้ปลาก็ใหญ่ตามไปด้วย เขาใส่ไส้ปลาเข้าไปหนึ่งเส้น กระทะก็เต็มพอดี

อสูรน้อยยื่นกรงเล็บออกไป แล้ววางหม้อไว้ข้างกองไฟที่ซืออี้หรันก่อขึ้นมา เพื่ออาศัยไฟนั้นย่างไส้ปลา

ซู่เป่าทำเสียงประหลาดใจ “แกเอากระทะใบนี้มาจากที่ไหน?”

เธอยื่นมือไปลูบขนตรงลำคอของอสูรน้อย จนทำให้ใบหน้ากลมๆของมันปิดบังคอเอาไว้ ใต้คอมีปลอกคอโลหะรัดเอาไว้

ซู่เป่าใช้จิตเทพลองสัมผัสดู ทันใดนั้นก็ต้องถอยหลังออกมา

ที่แท้ปลอกคอนี้ก็คือที่เก็บสิ่งของของอสูรน้อย คล้ายกับแหวนเก็บสิ่งของ

อสูรน้อยตัวนี้มีปลอกคอเก็บสิ่งของด้วย…ผีบำเพ็ญที่ฝึกบำเพ็ญจนถึงขั้นพญาผี ส่วนใหญ่แล้วต่างก็ยังไม่มีแหวนที่สามารถเก็บสิ่งของได้แม้แต่วงเดียว

“แกเองก็เก่งไม่เบาเลยนะ?” ซู่เป่ารู้สึกตะลึง

อสูรน้อย “จ๊ากๆ!”

กรงเล็บน้อยๆของมันยกกระทะขึ้นมา ข้างในกระทะใบเล็ก ไส้ปลากำลังเริ่มมีควันลอยฟุ้ง

กลิ่นหอมโชยมาแตะจมูกของมัน จนมีน้ำลายไหลออกมาจากปาก

ซู่เป่าส่ายหน้า และไม่อยากสนใจมันอีก

เมื่อเห็นซืออี้หรันจัดการกับปลาภูเขาหิมะพันลี้เสร็จแล้ว และได้ตัดเป็นท่อนๆใส่ลงไปต้มในหม้อ

ซู่เป่าก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ เธอเก็บ “ผักกาด” “เห็ด” ที่ผีหลายใจปลูกไว้ในน้ำเต้าวิญญาณออกมาเล็กน้อย เมื่อจัดการให้สะอาดก็ใส่ลงไปในหม้อพร้อมกัน

เวลานี้ในกระทะใบเล็กของอสูรน้อยที่กำลังย่างไส้ปลานั้นก็ส่งกลิ่นหอมโชยออกมา

ซู่เป่ากลืนน้ำลายเข้าไปและพูดว่า “พี่อี้หรัน หนูก็อยากกินปลาย่าง!”

ทำแต่ต้มปลามาตลอด จนรู้สึกเริ่มกินเบื่อแล้ว

เปลี่ยนรสชาติบ้าง!

เมื่อคิดจะทำก็ทำ ซู่เป่าจับปลาภูเขาหิมะพันลี้ออกมาหนึ่งตัว

(ปลาภูเขาหิมะพันลี้: เปลี่ยนไปกินอย่างอื่นแทนได้ไหม? อ้าว ไหนบอกว่ากินจนเบื่อแล้วไง? แต่ละวันพวกมันต้องอยู่อย่างหวาดระแวง! )

ซู่เป่าถกแขนเสื้อขึ้นมา และพูดออกมาอย่างกระตือรือร้น “พี่อี้หรันหนูจะย่างปลาให้พี่กิน!”

“อร่อย!” ซู่เป่าพูดชมเชย “พี่อี้หรันมีฝีมือยอดเยี่ยมจริงๆ!”

มิน่าล่ะถึงตดได้อย่างแรง ก่อนหน้านี้คงจะกินปลาย่างหมูย่างเข้าไปจำนวนมาก

ซืออี้หรันไม่รู้ว่าซู่เป่ากำลังคิดอะไรอยู่ ไม่งั้นศรีษะก็คงไม่เอียงไปอยู่ที่ด้านล่างเท้า

เขากระตุกมุมปากเล็กน้อย พลิกปลาไปมาอย่างละเอียด ตั้งใจทำการปิ้งย่าง แล้วยื่นให้ซู่เป่า

ปลาย่างไม้ที่สอง ยื่นให้อสูรน้อย

อสูรน้อยมองตากลมโลก

ฮือๆ ลุงให้ข้า ข้าก็มีปลาย่างกินด้วยหรือ??

“ว้าว! อร่อย! อร่อยมากเลย!”

“พี่อี้หรัน พี่ทำน้ำจิ้มได้อร่อยจริงๆ จิ้มกับรองเท้าก็ยังอร่อย!”

ซืออี้หรันรู้สึกจนปัญญา “พวกเราจิ้มปลาไม่ได้หรือ?”

จิ้มรองเท้าคือผีอะไร

เสียงของซู่เป่าดังขึ้นอีกครั้ง “อืมๆ หนูหมายถึงพี่ทำน้ำจิ้มได้อร่อยไง! จิ้มกับอะไรก็อร่อย รอให้พวกเราไปถึงประตูจิ่วโยว แล้วจะหักแผ่นประตูออกมาจิ้มกิน!”

กลิ่นหอมอบอวล ควันไฟลอยฟุ้ง

กลิ่นหอมกับควันไฟลอยขึ้นพร้อมกัน จนไปถึงบนประตูจิ่วโยว รมอยู่ที่ “ใบหน้า” ของมัน

ประตูจิ่วโยว “…”

ข้าเป็นใครข้าอยู่ที่ไหน ทำไมถึงมีคนมาปิ้งย่างอยู่ตรงหน้า ยังพูดอีกว่าจะหักประตูออกมาจิ้มกิน?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน