ลู่ม่านมองเฉินจื่ออานที่ทำหน้าราวกับไม่ใส่ใจเลยสักนิดอย่างไม่พอใจ ที่แท้ก็เป็นคนซื่อบื้อจริงๆ
ถ้าหากเฉินชิวหยู่ไม่ชื่นชอบเขา ในเมื่อนางปฏิเสธการจับคู่ของพ่อแม่ได้ เช่นนั้นนางก็ไม่มีความจำเป็นต้องไปหาเฉินจื่ออานเพื่อสารภาพรักแล้ว ฉะนั้น คำอธิบายของเฉินจื่ออานนั้นฟังไม่ขึ้นเลย
เพียงแต่ เฉินจื่ออานบอกว่าเขาไม่เคยชื่นชอบเฉินชิวหยู่ ลู่ม่านมองออก ว่าเขาไม่ได้โกหก
นางเองก็เคยมีคนที่เคยรักมาก่อน ในยุคปัจจุบัน นางก็มีแฟนเก่าไม่ใช่หรือไง ถ้าหากจะเอาเรื่องพวกนี้มาเป็นข้อต่อรองกับเฉินจื่ออานละก็ ฟังดูไม่มีเหตุผลเอาซะเลย
ลู่ม่านคิดถึงตรงนี้ก็ยิ้มออกมา ตอนแรกตนเองได้คุยกับเฉินจื่ออานเรียบร้อยแล้วมิใช่หรือ จะประคับประคองซึ่งกันและกัน เชื่อใจซึ่งกันและกันมิใช่หรือ หรือว่าเธออยู่ในฐานะสาวน้อยมานาน ก็เลยมีนิสัยขี้น้อยใจขึ้นมาอย่างนั้นหรือ
เฉินจื่ออานที่อยู่ทางด้านหลังเห็นว่าลู่ม่านไม่พูดจา ก็ร้อนใจขึ้นมาอีกครั้ง “เสี่ยวม่าน ทำไมเจ้าไม่พูดจา สิ่งที่ข้าพูดล้วนเป็นความจริง ถ้าหากข้าโกหกละก็ ข้า ……ขอให้ข้าถูกฟ้าผ่า”
ลู่ม่านรู้สึกอบอุ่นหัวใจขึ้นมา หมุนร่างไปจ้องมองเฉินจื่ออาน “ใครว่าเจ้าพูดโกหกกันเล่า”
“น้องนาง เจ้าเชื่อข้าใช่หรือไม่ ”เฉินจื่ออานจึงโล่งอก รั้งตัวลู่ม่านเข้ามาในอ้อมอกอีกครั้ง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเสียใจ
“น้องนาง เมื่อครู่ข้าตกใจมากจริงๆ ”
“หืม”ลู่ม่านไม่เข้าใจ
เฉินจื่ออานถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “ข้าเห็นป้าหนิวต้องจากไปเช่นนั้น รู้สึกไม่สบายใจจริงๆ คนเป็นๆทั้งคน ต้องจากไปเพราะเรื่องเข้าใจผิดเล็กน้อยเท่านั้น ข้ากลัวจริงๆ น้องนางเดิมทีเจ้าก็เป็นนางฟ้าที่ฟ้าประทานมาให้ข้า ถ้าหากเป็นเพราะเจ้าเข้าใจผิด แล้วไปจากข้า……”
“ตาทึ่ม”ลู่ม่านตัดบทเขาอย่างไม่พอใจ
“น้องนางว่าข้าเป็นอะไร ข้าก็เป็นอย่างนั้น ”เฉินจื่ออานพูดอย่างเอาใจ ฝีมือในการเกี้ยวสาวยิ่งอยู่ก็ยิ่งพัฒนาขึ้นแล้ว ลู่ม่านทำเสียงหึในลำคอ
เปลี่ยนกิริยาใหม่เพื่ออิงแอบอยู่ในอ้อมอกของเฉินจื่ออาน “ป้าหนิวตายไปแล้ว หวังต้าลี่ตัวคนเดียวก็น่าสงสารมาก วันหน้า พวกเราต้องช่วยเหลือเขาให้มาก……”
“อืม ต้องช่วยอยู่แล้ว”เฉินจื่ออานพูด
พูดจบ ทั้งสองคนก็เงียบไปชั่วครู่ ในที่สุดก็นอนหลับไป
เมื่อตื่นขึ้นมา ก็เป็นเวลาเย็นแล้ว เรื่องที่ป้าหนิวฆ่าตัวตายได้กระจายไปทั่วทั้งหมู่บ้านแล้ว คนในหมู่บ้านได้ออกหน้าช่วยจัดงานศพให้
ตาแก่เฉินพยายามฝืนร่างกายของตนลุกขึ้นมาเพื่อไปดูป้าหนิวเป็นครั้งสุดท้าย และพาเฉินหลี่ซื่อไปด้วย บอกว่าจะไปขอขมาป้าหนิว แต่ว่าหวังต้าลี่ไม่ยอมให้พวกเขาเข้าใกล้ร่างของป้าหนิว สุดท้ายพวกเขาได้แต่กลับบ้านไป
เหยาซื่อได้พูดคุยกับลู่ม่านเป็นการส่วนตัวว่า “เกรงว่าหวังต้าลี่คงจะแค้นใจตระกูลเฉินของพวกเจ้าแล้ว ตอนนี้เขาทำงานอยู่ในโรงงานของเจ้า เจ้าต้องระวังตัวไว้บ้าง”
แม้ลู่ม่านจะรู้สึกว่า น่าจะไม่เป็นไร แต่อย่างไรเสียกันไว้ย่อมดีกว่าแก้ ยังไงนางก็ต้องระวังตัวไว้บ้าง
ผ่านไปแล้วสามวัน หลังจากหวังต้าลี่จัดการเรื่องงานศพเสร็จแล้ว ก็มาทำงานปกติ
ลู่ม่านได้สอบถามจากผู้ดูแล ผู้ดูแลบอกว่าหวังต้าลี่ก็เหมือนเดิมทุกอย่าง ไม่มีทีท่าที่ผิดแปลกไป
ลู่ม่านจึงวางใจ รู้สึกว่าตนเองนั้นคิดมากไปเอง
บวกกับหวังต้าลี่ทำงานในโรงงานได้ไม่เลวเลย ภายใต้การตัดสินใจของผู้ดูแลหวังต้าลี่ถูกย้ายตำแหน่งไปยังฝ่ายเครื่องปรุงรส
ที่นั่นเมื่อเทียบกับฝ่ายบรรจุแล้ว งานเบากว่ามาก อีกทั้งเป็นเพราะต้องใช้ทักษะในการทำงานฉะนั้นจึงทำให้ค่าแรงสูงขึ้นอยู่บ้าง
แม้ว่าอาการบาดเจ็บของตาแก่เฉินจะสาหัสมาก แต่วันที่สองเขาก็ลุกขึ้นจากเตียงแล้ว
ได้ยินว่าหวังต้าลี่มาทำงาน เขาก็มาเยี่ยม แต่หวังต้าลี่ไม่ยอมพบเขา
ตอนเย็น ลู่ม่านเพิ่งจะออกมาจากโรงงาน ก็ได้ยินจากเหอเยว่ว่าตาแก่เฉินมาหานาง หากนางกับเฉินจื่ออานไม่ยุ่ง ก็ให้ไปพบเขา หลังจากเลิกงาน
เฉินจื่ออานพยักหน้า คิดถึงท่าทีจริงจังของเฉินหลี่ซื่อเมื่อครู่นี้ อาจเป็นเพราะการตายของแม่หม้ายหนิว ทำให้นางรู้สึกเกิดความหวาดกลัวขึ้นในใจกระมัง
เอาเงินนั้นส่งกลับไป เฉินจื่ออานพูดว่า “ข้ามีเงิน ข้าให้เขาเองก็ได้ ตอนนี้พวกท่านมีเงินทองไม่มาก เก็บไว้ใช้เองเถอะ”
“เอาไป”ตาแก่เฉินแน่วแน่มาก “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพวกเจ้า เป็นบาปกรรมที่แม่เจ้าก่อขึ้น พวกเจ้าต่างก็แยกบ้านออกไปแล้ว ไม่ควรจะเข้ามายุ่งเรื่องพวกนี้”
หยุดไปชั่วครู่ ตาแก่เฉินก็พูดว่า “ภายหน้า เจ้ายังจะเข้าร่วมการสอบบัณฑิตอีกมิใช่หรือ ถ้าหากมีคนเอาเรื่องนี้ไปเป็นจุดอ่อนของเจ้า เช่นนั้นคงไม่ดีแน่”
นี่เป็นครั้งแรกที่ตาแก่เฉินคิดแทนในมุมของเฉินจื่ออาน จะบอกว่าไม่ซาบซึ้งก็เป็นไปไม่ได้ เฉินจื่ออานนั้นรู้สึกซาบซึ้งจริงๆ
“ท่านพ่อ……”
“อืม”ตาแก่เฉินตอบรับเสียงหนึ่ง เอ่ยอย่างจริงจังว่า “ทำตามที่ข้าบอกเถอะ”
“ได้”ความห่วงใยจากคนใกล้ชิด เฉินจื่ออานจะไม่รับได้อย่างไร รับถุงเงินนั้นมา เก็บไว้ที่หน้าอก เฉินจื่ออานจึงถามถึงบาดแผลของตาแก่เฉิน
ตาแก่เฉินพูดยิ้มๆว่า “ดีขึ้นมากแล้ว เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง”
ขณะที่กำลังพูด ด้านนอกประตูมีเสียงของเฉินหลี่ซื่อดังขึ้น “หลิ่วเอ๋อ อย่างน้อยเจ้าก็ควรจะกินสักหน่อย”
เฉินหลิ่วเอ๋อหลังจากทำร้ายตาแก่เฉินจนบาดเจ็บ ก็กลายเป็นคนไร้ชีวิตชีวา มีท่าทีเหมือนกับตอนที่ถูกหลี่ยวี่ทิ้งไปคราวนั้นไม่มีผิด
ตาแก่เฉินเองก็น่าจะได้ยินเช่นกัน เห็นดังนั้นก็ได้แต่ถอนหายใจ
“เฮ้อ จื่ออาน เรื่องน้องสาวเจ้า เจ้าคงต้องใส่ใจสักหน่อยแล้ว”
เฉินจื่ออานไม่เข้าใจความหมายของคำพูดนั้น “ทำไมหรือ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เป็นพอ.ที่กลับกรอก เป็นที่พึ่งไม่ได้เลย ยอกจะออกจากครอบครัวเลวๆนี่ไม่จริงอีก ภาระของนางเอก ถ่วงแข้งถ่วงขาจริงๆ...
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...