อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม นิยาย บท 1065

“มอบดอกบัวศักดิ์สิทธิ์ออกมา”

กู้ชูหน่วนมองดูทุกคนอย่างเย้ยหยัน แม้ว่าจะถูกคนทั้งโลกรุมประณามก็ไม่มีความกลัวแม้แต่น้อย ทำให้คนมากมายที่อยู่ในสนามรู้สึกเลื่อมใสเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้

“พวกเจ้าทุกคนล้วนต้องการดอกบัวศักดิ์สิทธิ์งั้นหรือ? แต่มีดอกบัวศักดิ์สิทธิ์เจ็ดสีมีเพียงดอกเดียว ดอกบัวศักดิ์สิทธิ์สามสีก็มีเพียงดอกเดียว พวกเจ้ามีคนมากมายขนาดนี้ ข้าจะให้ใครดีล่ะ?”

ทุกคนจ้องมองกันไปมา แต่กลับไม่มีคนตอบ

กู้ชูหน่วนหัวเราะเยาะเย้ยเสียงหนึ่ง แล้วกล่าวต่อ “พวกเจ้าต้องการดอกบัวศักดิ์สิทธิ์เจ็ดสีก็ได้ เพียงแค่ฆ่าไป๋หลี่ป้าซะ ทันทีที่ไป๋หลี่ป้าตาย ข้าก็จะมอบดอกบัวศักดิ์สิทธิ์ให้ด้วยมือของข้าเอง”

“สารเลว เจ้าคิดจะให้พวกเราฆ่ากันเองหรือ?”

“เงื่อนไขของข้าคือสิ่งนี้ หากพวกเจ้าไม่ทำ งั้นก็ขอโทษด้วย ข้าไม่มีทางจะมอบดอกบัวศักดิ์สิทธิ์ออกไปได้”

“เจ้าไม่มอบออกมา พวกเราก็จะสังหารเจ้าตอนนี้”

“ต้องการดอกบัวศักดิ์สิทธิ์ไม่มี ต้องการชีวิตก็มีแค่ชีวิตเดียว”

คำพูดไร้ยางอายเช่นนี้ของกู้ชูหน่วน กระตุ้นให้คนจำนวนมากไม่พอใจ

ไป๋หลี่เฉิงกล่าว “ไม่ต้องไปพูดจาไร้สาระกับนาง จัดการนางให้ได้ก่อน หากว่านางไม่มอบออกมา ก็ค่อยลงโทษสถานหนัก”

“คำพูดนี้ของพี่ไป๋หลี่มีเหตุผล ให้คนมา จับตัวมู่หน่วนให้ข้า”

ประมุขพรรคไห่เทียนออกคำสั่งคำหนึ่ง เหล่าลูกศิษย์พรรคไห่เทียนขึ้นหน้าไปตามๆกัน

พรรคอื่นๆก็ไม่ยอมแพ้ ต่างพากันเข้าร่วมด้วยแล้ว

กู้ชูหน่วนหัวเราะเยาะอย่างเย็นชาเสียงหนึ่ง ยกมือขึ้นหอกวาดลงมา ทุกหอกที่เข้าไปล้วนตีจนหลายคนล้มลง

การเคลื่อนไหวของนางคล่องแคล่วว่องไว กระบวนท่าแปลกประหลาดเป็นพิเศษ เผชิญหน้ากับการโจมตีของทุกคน สุขุมเย็นชาสงบนิ่ง การเข้าออกมีระดับ

บรรดาผู้คนอยากจะจับตัวนางให้ได้ในเวลาอันสั้น แต่ก็ล้มเหลวติดกันอย่างต่อเนื่อง

ทว่าหนึ่งคนสู้กับฝูงชนจำนวนมาก ไม่ว่ากู้ชูหน่วนจะเก่งกาจอย่างไรก็ไม่สามารถสู้ได้

ยิ่งไปกว่านั้นนางยังได้รับบาดเจ็บอีกด้วย และวิทยายุทธของคนในสนามจำนวนไม่น้อยก็ไม่ได้ด้อยไปกว่านาง

ในการต่อสู้แบบเวียนเทียน กู้ชูหน่วนที่มีแผลเก่าอยู่แล้วก็ได้แผลใหม่เพิ่ม เลือดสดแทบจะย้อมเวทีทั้งสนามจนแดง

กำลังร่างกายของนางยืนหยัดไม่อยู่ขึ้นเรื่อยๆ กระบวนท่าช้าลงเรื่อยๆ เป็นเช่นนี้ต่อไปจะต้องยืนหยัดได้อีกไม่นานแน่

“ท่านปู่ ท่านไม่ได้บอกว่านางเป็นหลานสะใภ้ของท่านหรือ พวกเราจะมองดูนางตายไปเช่นนี้รึไงขอรับ”

“เจ้าคิดว่าข้าไม่อยากช่วยนางงั้นเหรอ?”

“ปัง......”

กู้ชูหน่วนถูกแทงเข้าที่ท้องอีกมีดหนึ่ง เลือดสดเปื้อนย้อมเสื้อผ้าของนางอีกครั้ง

ผู้เฒ่าหนิงทนดูไม่ได้อีกต่อไป คิดจะเข้าร่วมในการต่อสู้ทันที

ไป๋หลี่ป้าขัดขวางอยู่เบื้องหน้าของเขา กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เจ้าบ้านหนิง เบื้องล่างมีคนมากมายหลานหน้า หากว่าทำร้ายถูกท่านขึ้นมาก็จะไม่เป็นการดีแล้ว ท่านว่าไหมล่ะ?”

คำพูดนี้เป็นการพูดข่มขู่โดยไม่ต้องสงสัย

ผู้เฒ่าหนิงมองดูประมุขของแต่ละพรรคที่ยืนจ้องมองตาเป็นมันอยู่ข้างๆ มือสองข้างกำหมัดแน่นอย่างอดไม่ได้

“ไป๋หลี่ป้าเอ๋ยไป๋หลี่ป้า เพื่อดอกบัวศักดิ์สิทธิ์สองดอก เจ้าก็สามารถไร้ยางอายอย่างถึงที่สุดได้ขนาดนี้”

“นั่นข้าก็ทำเพื่อขจัดภัยให้แก่แคว้นปิง”

“ถุย จิตใจเจ้าเป็นยังไงความคิดเจ้าเป็นยังไง ทั้งโลกล้วนรู้กันกระจ่าง”

“หากว่าเจ้าบ้านหนิงจะคิดเช่นนี้ให้ได้ งั้นข้าก็จนปัญญา”

“หึ ทำแต่เรื่องชั่วร้ายทุกอย่าง เจ้าควรระวังฟ้าผ่า” ผู้เฒ่าหนิงสะบัดแขนเสื้อจากไป ไม่กล้ามองแม้กระทั่งสภาพอันน่าอนาถของกู้ชูหน่วน

หนิงเทียนโย่วเห็นผู้เฒ่าหนิงจากไป ก็คว้าแขนของเขาไว้แน่น “ท่านปู่ ท่านจะไม่ยุ่งแล้วจริงๆหรือ?”

“จะยุ่งได้ยังไง? พ่วงชีวิตนับพันของคนตระกูลหนิงเข้าไปด้วยงั้นหรือ? และนางก็คงไม่หวังจะให้พวกเราเข้าไปก้าวก่ายด้วย ไป กลับตระกูลหนิง”

“ข้าไม่กลับ ท่านไม่ช่วยข้าช่วย”

“เจ้าไอ้เด็กหัวรั้น คำพูดของข้าใช้การไม่ได้แล้วใช่หรือไม่?”

“ก็แค่ตายไม่ใช่รึไง มีอะไรน่ากลัว”

“ไอ้เด็กดื้อ เจ้าเป็นทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลหนิง หากว่าเจ้าตาย ตระกูลหนิงก็ไร้คนสืบทอดแล้ว เจ้าไม่ไปก็ต้องไป”

สีหน้าของหนิงเทียนโย่วเปลี่ยนไปทันที รู้โดยประมาณแล้วว่าผู้เฒ่าหนิงต้องการจะทำอะไร ถอนเท้าก็คิดจะวิ่งหนีไปช่วยเป็นแรงเสริม

ผู้เฒ่าหนิงตีให้เขาหมดสติไปทันที แล้วให้ลูกศิษย์คนอื่นแบกหนิงเทียนโย่วจากไป

เขามองไปทางกู้ชูหน่วนที่ค่อยๆยืนหยัดไม่ไหวด้วยความรู้สึกผิด ถอนหายใจยาวๆ

“นังหนูหน่วน ข้าช่วยเจ้าไม่ได้แล้ว เจ้ารักษาตัวเองให้ดีๆ”

ตระกูลหนิงที่เป็นถึงหนึ่งในสี่ของตระกูลใหญ่ก็ไร้ความสามารถ มู่หน่วนก็ยิ่งไร้ความสามารถเข้าไปอีก ทำได้เพียงมองดูกู้ชูหน่วนถูกฟันครั้งแล้วครั้งเล่าโดยทำอะไรไม่ได้ แม้ว่าจะต้องฝืนทนก็ไม่ยอมพ่ายแพ้

เจ้าบ้านมู่กับเจ้าบ้านรองและเจ้าบ้านสามก็ล้วนทนดูไม่ไหว

มู่ซินร้อนใจจนอยู่ไม่สุข ตะโกนเสียงสูงอย่างต่อเนื่องว่า “อาหน่วน เจ้ารีบยอมแพ้เถอะ เราเอาดอกบัวศักดิ์สิทธิ์คืนให้พวกเขาไปซะ อาหน่วน....”

สองสามครั้งที่เกือบจะตาย เคล็ดวิชากลืนพลังของนางก็ไม่ได้มีการเปิดใช้งานอีก

ทำไมนางถึงไม่ใช้เคล็ดวิชากลืนพลังล่ะ?

ตั้งใจปกปิดหรือ?

ทั้งโลกล้วนรู้ว่านางมีเคล็ดวิชากลืนพลัง นางไม่มีอะไรให้ปิดบังแล้ว

ยอมตายก็ไม่ใช้

เกรงว่านางคงจะไม่รู้ว่าใช้การยังไงสินะ?

แล้วก่อนหน้านี้นางใช้เคล็ดวิชากลืนพลังได้อย่างไร?

ปัง.......

ในที่สุดกู้ชูหน่วนก็ล้มลงแล้ว หอบหายใจหนักไม่หยุด มือข้างหนึ่งของไป๋หลี่ป้ายันอยู่บนกระหม่อมของนาง

“พูด ดอกบัวศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่ไหน?”

กู้ชูหน่วนฝืนเคลื่อนสายตาออกไป

“หากว่าเจ้าไม่บอก ข้าจะใช้เคล็ดวิชาเสาะหาวิญญาณซะเดี๋ยวนี้ ทันทีที่ใช้เคล็ดวิชาเสาะหาวิญญาณแล้ว แม้ว่าเจ้าจะไม่ตาย ก็จะกลายเป็นคนเสียสติ”

“ที่แท้ตระกูลไป๋หลี่หนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ ก็ล้วนอาศัยวิชาลับนอกรีตเหล่านี้สินะถึงได้ยึดครองทวีปปิงหลิงไว้ได้ วิชากลับสู่สภาพเดิมอะไร เคล็ดวิชาเสาะหาวิญญาณอะไร หึ......นับว่าข้าได้เปิดหูเปิดตาแล้ว”

“เจ้าไม่พูดก็อย่าหาว่าข้าอำมหิต”

ฝ่ามือของไป๋หลี่ป้าหดลงเล็กน้อย ก็สามารถใช้เคล็ดวิชาเสาะหาวิญญาณได้แล้ว

มือที่ถือถ้วยชาของเวินเส้าหยีสั่นเทาทันที

คิดไม่ถึงว่าเย่จิ่งหานยังจะไม่ออกมาอีก

เขาอดกลั้นความโกรธได้ดีซะจริงๆ

ทันทีที่ใช้เคล็ดวิชาเสาะหาวิญญาณ ผู้หญิงคนนี้ก็ถูกทำลายแล้ว

ขณะที่เวินเส้าหยีลังเลว่าจะลงมือหรือไม่ กลับเห็นพายุลมอันบ้าคลั่งโจมตีมาอย่างฉับพลัน จากนั้นแรงกดดันอันมหาศาลก็ทำให้ทุกคนอดไม่ได้อยากจะหมอบคลานลงไป

ไป๋หลี่ป้าของตระกูลไป๋หลี่ก็ถูกพายุลมอันบ้าคลั่งสะเทือนจนถอยไปสองสามก้าว หน้าผากมีเหงื่อเย็นไหลออกมาไม่หยุด ราวกับว่ากำลังต้านทานพลานุภาพของแรงสังหารอันมหึมานี้อยู่

แรงพลัง......แข็งแรงมาก......

ศักยภาพนี้........อย่างน้อยก็ถึงระดับหกแล้วสินะ?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม