อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม นิยาย บท 232

คำพูดประโยคเดียว ทำให้บรรยากาศในโรงเตี๊ยมหนักอึ้งลงไปมาก

ถ้าหากจอมมารไม่มา แม้วรยุทธของหัวหน้ากองธงกล้วยไม้จะสูงส่งแค่ไหน ไม่ช้าก็ต้องจับตัวเขาได้อยู่ดี

แต่การมาด้วยตนเองของจอมมาร เรื่องก็จะยุ่งยากอยู่บ้าง

ที่สำคัญคือ การออกศึกของหน่วยย่อยแห่งกองธงกล้วยไม้ เผ่าเทียนเฟิ่นต้องแทรกเข้ามาอย่างแน่นอน คู่ต่อสู้ที่ใหญ่ที่สุดของพวกเขาคือเผ่าเทียนเฟิ่น

"รีบสู้รีบจบ เด็ดศีรษะของหัวหน้ากองธงกล้วยไม้มา แล้วล่อจอมมารมา"

ซูมู่เงยหน้าขึ้นมาทันที เอ่ยอย่างประหลาดใจ"เจ้าบ้าไปแล้วหรือ เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าที่มาครั้งนี้จะเป็นหัวหน้าเผ่าเทียนเฟิ่น ลำพังเจ้าคนเดียวจะต่อกรกับหัวหน้าเผ่าเทียนเฟิ่นและจอมมาร เจ้าคิดว่าเจ้าจะชนะได้หรือ จอมมารมอบให้เป็นหน้าที่ข้า เจ้าก็ตั้งใจต่อกรกับเผ่าเทียนเฟิ่นเถอะ"

"ไม่ทันแล้ว "ดวงตาดุดันของเย่จิ่งหานคู่นั้นมองไปทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ ที่นั่นมีกลิ่นอายแห่งพลังที่แข็งแกร่งกำลังคืบคลานเข้ามาใกล้ ด้วยความรวดเร็ว

ถ้าหากเขาเดาไม่ผิด เผ่าเทียนเฟิ่นและจอมมารกำลังไล่ตามกันมา

เย่จิ่งหานให้คนเข็นเขาออกไป พลางพูดขึ้นว่า "ถ้าหากเจ้าต้องการช่วยข้า ก็ช่วยข้าหาตัวกู้ชูหน่วนให้พบ"

"ข้าดูแล้วหญิงสาวคนนั้นฉลาดเป็นกรด และเจ้ายังส่งคนมากมายไปตามหานาง นางไม่มีทางเป็นอะไรแน่ ตอนนี้ที่เจ้าควรนึกถึงคือตัวเจ้าเอง"

"หากยังหาตัวนางไม่พบ ข้าไม่อาจวางใจได้"

ในใจของซูมู่นั้นปฏิเสธ แต่เขาเองก็รู้ดี เย่จิ่งหานกับเผ่าเทียนเฟิ่นมีบัญชีแค้นต่อกัน ไม่อาจรับประกันได้ว่าคนของเผ่าเทียนเฟิ่นจะไม่แบ่งออกเป็นสองทาง เพื่อตามล่ากู้ชูหน่วนด้วย

เขาถอนหายใจเฮือกหนึ่ง "ก็ได้ๆ ข้าจะไปตามหานาง แต่ว่าเจ้าต้องการจะเก็บเด็กคนนั้นเอาไว้จริงๆหรือ"

พูดถึงเรื่องลูก ซูมู่กับเย่จิ่งหานต่างก็มีความกังวลเล็กน้อย

แววตาเย็นชาของเย่จิ่งหานมีประกายไฟผุดขึ้นมา "เจ้าช่างพูดมากเสียจริง"

เย่จิ่งหานโบกมือไปมา ส่งสัญญาณให้พวกเขาถอยออกไป น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นช้าๆว่า

"ในเมื่อมาแล้ว ไยจึงไม่ออกมาอย่างเปิดเผยเล่า"

พูดจบ ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ก็มีชายสวมชุดสีขาวราวกับเทพบุตรคนหนึ่ง เหาะออกมากลางอากาศ ค่อยๆลงสู่พื้น

ชายชุดขาวมีอายุใกล้เคียงกับเย่จิ่งหาน ต่างก็มีอายุประมาณยี่สิบต้นๆ บนใบหน้าสวมหน้ากากผีเสื้อเอาไว้ บดบังใบหน้าที่งดงาม เหลือไว้เพียงดวงตาที่แฝงไปด้วยรอยยิ้มคู่นั้น

เขาสวมชุดสีขาวทั้งตัว สะอาดสะอ้าน ราวกับเทวดาตกสวรรค์ ผมดำขลับราวกับเส้นไหมถูกรวบขึ้นไปครึ่งหนึ่ง เมื่อลมอ่อนพัดผ่าน ปลิวไสว สะท้อนแสงเรืองรองของดวงจันทรา ราวกับเทพเจ้าลงมาเยือนโลกมนุษย์

หนึ่งขาวหนึ่งน้ำเงิน หนึ่งคนยืนหนึ่งคนนั่ง ทั้งสองต่างก็สวมหน้ากาก มองใบหน้าของอีกฝ่ายไม่ชัดเจน ได้แต่ยืนและนั่งอยู่ตรงนั้น ความน่าเกรงขามบนร่างของทั้งสองคนกลับเพียงพอที่จะทำให้วิเคราะห์ทุกสิ่งได้

"ไม่พบกันนาน " ชายชุดขาวเปิดปากพูดขึ้นก่อน น้ำเสียงเขากังวานสดใส อ่อนโยนสุภาพ แฝงด้วยรอยยิ้ม เพียงแต่รอยยิ้มนี้มีความเย็นชาแฝงอยู่ด้วยหลายส่วน  

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม