เพียงแต่ไม่เปิดปากถาม
ทุกคนเงยหน้ามองไป แต่เห็นเพียงซ่างกวนฉู่อ่านหนังสือด้วยความสบายอารมณ์ ราวกับไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องของกู้ชูหน่วน สราญรมย์ มิช่วงชิงสิ่งใดเหมือนเช่นเคย
แต่หากพินิจโดยละเอียด ก็จะมองออกว่ามือที่เขาพลิกเปิดหน้าวุ่นวายเล็กน้อย
ด้วยการเกลี้ยกล่อมอย่างไม่หยุดหย่อนของทุกคน กู้ชูหน่วนที่แต่ไรมาไม่ฟังผู้ใดกลับรับปากเขียนต่อ
เพียงแต่ นางไม่ได้เขียนเอง แต่เรียกให้ชิงเฟิงมาเขียนแทนนาง
ชิงเฟิงตะลึง “พระชายา เหตุใดจึงให้เป็นข้าน้อยล่ะพ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยเขียนหนังสือได้ไม่ดี”
“ก็เพราะเจ้าเขียนไม่ดีถึงให้เข้าฝึกมากหน่อยอย่างไร อีกอย่างเย่จิ่งหานก็อยากอ่านต่อมากไม่ใช่หรือ? เจ้าที่เป็นลูกน้องไม่ต้องแบ่งเบาความกังวลของนายหรืออย่างไร?”
ชิงเฟิงพูดไม่ออกโดยพลัน
แกล้งเขาชัดๆ ยังพูดเป็นเหตุเป็นผลอีก
“พระชายา ข้าน้อยยังมีธุระ ขอตัวกลับก่อนพ่ะย่ะค่ะ”
“ถ้าเจ้าไป เช่นนั้นเรื่องนี้ก็หยุดที่ตรงนี้แล้วกัน ต่อไปข้าจะไม่เขียนอีก”
ครั้นถ้อยคำนี้ออกมา คนในวิทยาลัยจะให้ชิงเฟิงไปได้ที่ไหน แต่ละคนขวางทางไปของเขาจนหมด
หากมิใช่คนสนิทของเทพสงคราม พวกเขาก็กดศีรษะชิงเฟิงนานแล้ว ใช้กำลังบีบบังคับ
ชิงเฟิงฉุนเล็กๆ “ทำไมทุกครั้งต้องเป็นข้าน้อยด้วยพ่ะย่ะค่ะ?!”
กู้ชูหน่วนกินผลไม้ของว่างไป ก็หัวเราะเอ่ยไป “ใครให้เย่จิ่งหานเร่งขนาดนั้นเล่า?”
“ฝ่าบาทก็ส่งเสียวหลี่จือมาเร่ง แล้วฝ่าบาทยังให้เสียวหลี่จือมาแจ้งให้พระชายาแก้บทเหมือนกัน”
“แต่คนที่มาเป็นคนแรกคือเจ้า ถ้าท่านอ๋องของเจ้าไม่เริ่ม ฮ่องเต้เย่จะส่งเสียวหลี่จือมาถ่ายทอดรับสั่งหรือ?”
เสียวหลี่จือปาดเหงื่อไม่หยุด
ค่อยยังชั่ว ดีที่ระหว่างทางเขามีเรื่องนิดหน่อย จึงทำให้การเดินทางล่าช้า มิเช่นนั้นวันนี้คนที่ถูกจับมาเขียนแทนก็คือเขา
หากสอดคล้องกับความชอบของฝ่าบาทยังพอทำเนา แต่หากพระชายาเขียนเนื้อเรื่องที่ไม่สอดคล้องกับความชอบของฝ่าบาท เช่นนั้นที่โชคร้ายก็มีเพียงพวกเขาเหล่านี้ที่เป็นลูกน้อง
คำพูดเดียวของกู้ชูหน่วน กลับทำให้ชิงเฟิงไร้คำพูดโต้แย้ง ได้แต่อดกลั้นจนหน้าแดงก่ำ
กลับเห็นกู้ชูหน่วนจู่ๆ ก็ทำหน้าขึงขัง “ให้เจ้าเขียนก็เขียน พูดพล่ามมากทำไม? เสียเวลา!”
“พ่ะย่ะค่ะ” ชิงเฟิงฝืนใจสุดๆ
ให้เขาวิวาทยังดี แต่ให้เขียนหนังสือกลับทรมานยิ่งกว่าอาบเลือดในสงคราม
กู้ชูหน่วนกระดิกขาไขว่ห้าง ปากก็พูดออกมายาวเหยียด
ชิงเฟิงร้อนใจเอ่ย “พระชายาช้าหน่อยพ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยไม่ทัน”
“ไม่ทันมันเรื่องของเจ้า ถึงอย่างไรเรื่องต่อจากนั้นที่ข้าควรพูดก็พูดไปหมดแล้ว”
ในมุมที่คนอื่นมองไม่เห็น ซ่างกวนฉู่ลูบปิ่นระย้าหยกขาว ยกมุมปากน้อยๆ
เรื่องถัดจากนี้ แม้เขาไม่ชอบเท่าไร แต่ก็ไม่รู้สึกแย่
หากสามารถเขียนให้หยางฉู่ลั่วลงเอยกับเฟิงหลิงได้ เช่นนั้นจะยิ่งดี
ในวังหลวง
ฮ่องเต้เย่โมโหจนขว้างปาสิ่งของ
“ไม่ใช่ให้เจ้าบอกกู้ชูหน่วนแล้วหรือ ต้องเขียนให้เซวียนหยวนจิ่นเจ๋อมีจุดจบที่ดี ทำไมตอนท้ายเซวียนหยวนจิ่นเจ๋อเสียแคว้นแล้วแขนยังขาดอีก? แล้วถึงขนาดว่าถูกจองจำอยู่ในคุกหลวงเหมือนตายทั้งเป็น ถูกทรมานทุกค่ำคืน?”
เสียวหลี่จือไม่กล้าส่งเสียง ได้แต่ยืนสั่นพั่บๆ อยู่ด้านข้าง
เรื่องพระชายาเป็นคนเขียน ถ้อยคำที่ควรกล่าวก็กล่าวแล้ว พระชายาจะเขียนอย่างนี้ เขาจะทำอะไรได้?
“กู้ชูหน่วนคิดจะทำอะไร? นางจะก่อกบฏหรือ? ในเรื่องนางเขียนว่าเซวียนหยวนจิ่นเจ๋อสิ้นแคว้น หรืออยากเสียดสีอย่างลับๆ ว่าแคว้นเย่ข้าจะล่มสลายแล้ว นี่นางทำผิดมหันต์ ต้องประหารเก้าชั่วโคตร!”
“ฝ่าบาทอย่าทรงกริ้วพ่ะย่ะค่ะ ไม่ว่าพระชายาหานจะมีความคิดเช่นนี้หรือไม่ เราก็ไม่มีหลักฐานนะพ่ะย่ะค่ะ อย่างไรนี่เป็นเพียงเรื่องแต่งเท่านั้น”
“ฝ่าบาท พระชายาหานกล่าวแล้ว ตัวละครนี้ตายแล้ว ตายแล้วก็คือไม่มีแล้ว แก้ไม่ได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“เรื่องนี้มิใช่นางเป็นคนเขียนหรือ? ให้นางดัดแปลงสักหน่อย ให้เซวียนหยวนจิ่นเจ๋อฟื้นจากความตายก็ได้แล้วนี่”
“ฝ่าบาท ข้าน้อยก็เกลี้ยกล่อมแล้ว แต่พระชายาหานกล่าวว่าเซวียนหยวนจิ่นเจ๋อตายแบบจริงแท้แน่นอนแล้ว ฟื้นคืนชีพไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ”
ฮ่องเต้เย่ “...”
ฮ่องเต้เย่กลั้นลม ขึ้นก็ขึ้นไม่ได้ ลงก็ลงไม่ได้ แทบอยากมุ่งหน้าไปจับตาดูนางเขียนใหม่ด้วยตนเอง
แต่ในฐานะที่เขาเป็นประมุขแห่งแว่นแคว้น หากทำเรื่องเช่นนี้จริง วันพรุ่งขุนนางใหญ่ทั้งบุ๋นและบู๊ก็ต้องว่าเขาแน่
เขาจึงได้แต่โมโหเดินวนอยู่ในห้องทรงอักษร
หากรู้แต่แรกก็ไม่อ่านต้นฉบับของนางแล้ว ยิ่งอ่านก็อย่างอารมณ์เสีย
ในจวนอ๋องหาน
สีหน้าอ๋องหานดีกว่าฮ่องเต้เย่ไม่มาก
เขาเดือดพลุ “ไม่ใช่ให้ชิงเฟิงไปบอกนางให้แก้เนื้อเรื่องแล้วหรือ? ทำไมไม่เพียงไม่เปลี่ยนเนื้อเรื่อง ยังเขียนว่าหยางฉู่ลั่วกับฉู่หยู่เฉินสะบั้นสัมพันธ์สามีภรรยา นางหมายความว่าอย่างไร? ต้องการตัดขาดสัมพันธ์กับข้าหรือ?”
เจี่ยงเสวียปาดหน้าผาก “เออ...พระชายาน่าจะแค่แต่งเรื่องไปอย่างนั้นเองกระมังพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องดีกับพระชายาเช่นนี้ พระชายาจะตัดสัมพันธ์กับท่านอ๋องได้ลงคออย่างไรพ่ะย่ะค่ะ?”
เย่จิ่งหานพลิกอีหน้า สีหน้าแย่ยิ่งกว่าเดิม
“ลูกของหยางฉู่ลั่วในเรื่องตายแล้ว นางคนนี้คิดจะทำอะไร หรือนางไม่ต้องการลูกในท้องแล้ว? เจี่ยงเสวีย สั่งการลงไป ระยะนี้จับตามองพระชายาให้ดี คุ้มครองพระชายาให้ดี จะให้เด็กในท้องนางเกิดเรื่องไม่ได้เด็ดขาด”
“พ่ะย่ะค่ะ...”
“ยังนี่อีก...นางถึงกับเขียนว่าหลังจากหยางฉู่ลั่วตัดขาดกับฉู่หยู่เฉินแล้ว ต่างฝ่ายต่างไป นางต้องการไปจากข้าหรือ? เฮอะ! นางอยู่เป็นคนของข้า ตาย ก็เป็นผีของข้าได้เท่านั้น!”
เจี่ยงเสวีย “...”
“ทิ้งสามีแล้ว ยังถึงกับรับสมัครหาคู่ แล้วยังรับสมัครไอ้หน้าจืด จงใจเมินฉู่หยู่เฉิน เจี่ยงเสวีย เจ้าไปสืบอีก ข้างกายนางยังมีไอ้หน้าจืดอีกหรือไม่!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม
อ่านๆ ไปแล้วก็รู้สึก ประสาท เว่อวัง คิดว่าอ่านจะซ่อนความอะไรไว้ แต่จนถึงตอนนี้ ยังไม่เจอเลย ลำไยมาก...
บางทีก็เบื่ออีนางเอกนี่ กำเริบเสิบสานกวนตีนได้สุดยอด ไล่ออกจากแคว้นก็ได้แล้ว...
ตอนที่1142-1190หายไปค่ะ...
ตอนที่ 1142-1190 หายไปค่ะ...