กู้ชูหน่วนทิ้งเศษเงินไว้หนึ่งตำลึง หันหลังแล้วเดินไปทางจวนแม่ทัพ
จวนของแม่ทัพเซียวไม่ได้งดงามโอ่อ่าเหมือนจวนอื่นๆ แต่กลับน่าเกรงขาม
ที่ประตูมีองครักษ์เฝ้าประตูสองคน นางเพิ่งจะเข้าใกล้ก็ถูกขวางไว้แล้ว
“รบกวนรายงานคุณชายน้อยเซียวหยู่เซวียนสักหน่อย บอกว่าเพื่อนสนิทของเขากู้ชูหน่วนมาหาเขา”
“กู้ชูหน่วน? คุณหนูสามลูกภรรยาหลวงจวนเฉิงเซี่ยง พระชายาหานของท่านอ๋องเทพสงคราม?”
องครักษ์เฝ้าประตูทั้งสองมองซ้ายขวาอย่างละเอียด
ทำไมพระชายาหานถึงแต่งตัวเป็นผู้ชาย?
“แม่นาง ไม่ว่าท่านจะเป็นพระชายาหานจริง ก็ขออภัยเป็นอย่างมาก หมู่นี่คุณชายน้อยไม่พบแขกขอรับ”
“ทำไม?”
“อันนี่......บอกให้ทราบไม่ได้ขอรับ ท่านเชิญเถอะขอรับ”
ท่าทีขององครักษ์เฝ้าประตูยังนับได้ว่าค่อนข้างให้เกียรติ แต่ก็มองออกได้จากแววตาของพวกเขาว่า พวกเขาไม่เชื่อว่านางคือพระชายาหาน
ก็ถูก นางแต่งตัวเช่นนี้ บวกกับไม่มีผู้ติดตามสักคน ใครจะเชื่อ
“กึก”เสียงหนึ่ง ประตูจวนแม่ทัพถูกเปิดออก ชายผู้สุภาพเรียบร้อย ท่าทางถ่อมตัวผู้หนึ่งเดินออกมาช้าๆ
ชายผู้นี้อายุเพียงยี่สิบต้นๆ ในมือถือพัดอันหนึ่ง หน้าตาหล่อเหลา หน้าตาท่าทางอิ่มเอิบ
“คุณชายรอง” ทั้งสองพากันทำความเคารพ
ผู้ชายโบกพัด บอกใบ้ให้พวกเขาลุกขึ้น
ออกจากประตูในพริบตานั้น เขาก็สังเกตเห็นกู้ชูหน่วนแล้ว
บางทีกู้ชูหน่วนอาจจะแต่งตัวเป็นผู้ชายด้วยความรีบร้อน เพียงแค่รวมผมสีดำสนิทไว้อย่างลวกๆเท่านั้น จึงทำให้คนมองออกได้ง่ายว่านางเป็นผู้หญิงที่ปลอมตัวเป็นผู้ชาย
นางสันหลังตรง ดวงตาที่สดใสฟันขาว มีโฉมหน้างดงามเป็นเลิศในปฐพีงามเป็นที่หนึ่งในแคว้น
แม้ว่านางจะไม่ได้พูดจา แต่เพียงแค่นางยืนอยู่ตรงนั้น ก็มีความรู้สึกสูงส่งเหนือกว่าสวรรค์ชั้นเก้า ความสูงศักดิ์ชนิดนี้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะบุคคล สลักไว้ในส่วนลึกของกระดูก ไม่ยอมให้คนดูหมิ่น
เซียวหยู่โหลวประสานมือทั้งสองข้างแสดงความเคารพ มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มบางๆ กล่าวอย่างอ่อนโยน “ข้าน้อยเซียวหยู่โหลว ไม่ทราบว่าแม่นางคือ......”
“กู้ชูหน่วน”
เซียวหยู่โหลวตกตะลึงเล็กน้อย แล้วยิ้มต่อ เหมือนดั่งบัวหิมะในภูเขาน้ำแข็งได้ผลิบานในชั่วข้ามคืน
“ที่แท้ก็เป็นท่าน ได้ยินชื่อเสียงมานาน น่าเสียดายที่ตอนจัดงานชุมนุมแข่งขันบุ๋น ข้าน้อยมีธุระ พลาดการต่อสู้ครั้งใหญ่นั่นไป พระชายาหานความสามารถมากล้น ช่างทำให้คนเลื่อมใสจริงๆขอรับ”
“เหอะเหอะ......คุณชายรองเซียวกับอาจารย์ซ่างกวนและคนอื่นๆเป็นสี่อัจฉริยะผู้ยิ่งใหญ่ในใต้หล้า ทักษะอันน้อยนิดของข้าจะกล้าไปสอนจระเข้ว่ายน้ำได้อย่างไร”
กู้ชูหน่วนหัวเราะอย่างไม่เป็นตัวเองเล็กน้อย
ลักษณะหน้าตาของคุณชายรองเซียวและเซียวหยู่เซวียนแทบจะถอดออกมาจากแม่พิมพ์เดียวกัน แต่นิสัยช่างแตกต่างกันเหลือเกิน
ยังไงนางก็ชอบความอิสรเสรีตรงไปตรงมาของเซียวหยู่เซวียนอยู่ดี การพูดจามีการศึกษาเช่นนี้ ถึงตายจริงๆ
“พระชายาหานถ่อมตนแล้ว ความสามารถที่พระชายาหานแสดงออกมาในงานชุมนุมแข่งขันบุ๋น ข้าน้อยละอายใจ แม้ว่าวันนั้นจะเข้าร่วม ก็ต้องแพ้เป็นแน่ ไม่ทราบว่าข้าน้อยจะขอบังอาจถามสักหน่อยได้หรือไม่ว่าวิชาความรู้ของท่านได้มาจากที่ใด ข้าน้อยจะไปเรียนรู้สักหน่อยขอรับ”
“อันนี้......เรียนรู้ด้วยตัวเอง ถูกแล้ว เซียวหยู่เซวียนอยู่บ้านหรือไม่?”
กู้ชูหน่วนไม่อยากคุยกับเขามากมาย จึงรีบเปลี่ยนหัวข้อ
หนอนหนังสือเช่นนี้ หากว่าได้คุยเรื่องวรรณกรรมขึ้นมา ก็คงสลัดไม่หลุดไปหลายวันหลายคืน
“น้องชายของข้าอยู่ในจวน หากว่าพระชายาหานมีธุระมาหาเขา ข้าน้อยก็จะพาท่านเข้าไป”
“เช่นนั้นก็ขอบคุณมาก”
ในนี้ไม่ได้ปลูกดอกไม้ใบหญ้าอะไร และไม่มีภูเขาปลอมน้ำตกอะไร ในสวนมีเพียงผักใบเขียว
อาจจะเป็นเพราะเห็นความสงสัยของกู้ชูหน่วน เซียวหยู่โหลวกล่าวอธิบายว่า “ท่านพ่อรักทหารเหมือนดั่งลูก ทั้งจิตใจคิดถึงแต่ใต้หล้า เขาใช้จ่ายเงินทั้งหมดสำหรับสิ่งของที่กองทัพต้องการ ตัดใจจ้างคนรับใช้ไม่ได้ จึงได้รับคนแก่ที่อยู่เพียงลำพังมาอยู่ในจวนเล็กน้อย อย่างแรกก็ให้สถานที่พักพิงกับคนชราเหล่านั้น อย่างที่สองก็ให้มีคนมาช่วยจัดการเรื่องงานในจวนขอรับ”
จิตใจของกู้ชูหน่วนรู้สึกปวดร้าว ฝืนกล่าวว่า “จวนแม่ทัพช่างมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครจริงๆ”
“ใช่ขอรับ ท่านพ่อบอกเสมอว่า ปลูกดอกไม้ใบหญ้าเหล่านั้น นอกจากจะสิ้นเปลืองที่ดินแล้ว ก็ไร้ประโยชน์ ปลูกผักผลไม้ยังดีซะกว่า แถมยังสามารถมอบให้ประชาชนที่ทุกข์ยากกินได้ด้วย ไม่กลัวว่าพระชายาหานจะหัวเราะ ผักเหล่านี้ รอจนเก็บได้แล้ว เหลือไว้ที่จวนไม่ถึงหนึ่งส่วน ทั้งหมดก็เอาให้ประชาชนทั้งหมด เงินเดือนของพวกเราสองสามพี่น้องก็ถูกท่านพ่อบังคับเก็บไปแล้ว มักจะหิวจนต้องไปฝากท้องกับพวกพ้อง ตอนนี้เพื่อนของข้าพอได้เห็นข้าแต่ละคนก็หลบอยู่ไกลๆ”
มุมปากของเซียวหยู่โหลวแขวนด้วยรอยยิ้มจางๆ
เขากำลังพูดเรื่องน่าอาย แต่สีหน้ากลับเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ ราวกับว่าปลูกผักเหล่านี้ มอบมันให้กับประชาชนที่ยากจน เขาก็เห็นด้วยอย่างยิ่ง
เมื่อมองดูเนื้อผ้าบนร่างกายของเขา ก็ทำมาจากผ้าหยาบๆเรียบง่ายเพียงเท่านั้น ยากจะจินตนาการได้จริงๆว่าเขาเป็นอัจฉริยะผู้ยิ่งใหญ่ในใต้หล้า
ยิ่งเป็นเช่นนี้ กู้ชูหน่วนก็ยิ่งทุกข์ใจ
หากว่าแม่ทัพใหญ่เซียวเป็นคนชั่วร้ายมากๆ นางก็ยังสามารถควักหัวใจเขาออกมาได้ หลอมเป็นเลือดหัวใจ
แต่บังเอิญแม่ทัพใหญ่เซียว เป็นคนดีมากๆคนหนึ่ง
เป็นคนดีผู้ยิ่งใหญ่ที่จงรักภักดีรักประเทศชาติ รักทหารเหมือนลูก
“ถึงแล้วขอรับ นี่ก็คือห้องนอนน้องชายของข้า พระชายาหานเชิญตามสบายขอรับ” เซียวหยู่โหลวยื่นกุญแจให้กู้ชูหน่วน อมยิ้มมุมปาก จากไปอย่างสง่างาม
ยังไม่ทันถึงห้องนอน ก็ได้ยินเสียงบ่นด่าเสียงคำรามด้วยความโกรธเคืองของเซียวหยู่เซวียนดังมาแต่ไกล
“ไปให้พ้น ไสหัวไปให้หมด ข้าจะบอกพวกท่านให้นะ แม้ว่าข้าจะตาย ข้าก็ไม่แต่งงานกับกู้ชูหยุน พวกท่านตัดใจซะเถอะ”
กู้ชูหน่วนกวาดตามองแม่กุญแจบนประตูของเขา เอากุญแจออก เปิดประตูห้อง
เงยหน้าขึ้นก็เป็นแจกันอันหนึ่งทุบเข้ามา
กู้ชูหน่วนแฉลบตัวทันที พอจะหลบผ่านไปได้ ตบหน้าอกของตัวเอง พูดด้วยความตกใจ “ข้าตกใจแทบตาย เสี่ยวเซวียนเซวียน เจ้าจะทุบลูกพี่ของเจ้าให้ตายหรือไง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม
อ่านๆ ไปแล้วก็รู้สึก ประสาท เว่อวัง คิดว่าอ่านจะซ่อนความอะไรไว้ แต่จนถึงตอนนี้ ยังไม่เจอเลย ลำไยมาก...
บางทีก็เบื่ออีนางเอกนี่ กำเริบเสิบสานกวนตีนได้สุดยอด ไล่ออกจากแคว้นก็ได้แล้ว...
ตอนที่1142-1190หายไปค่ะ...
ตอนที่ 1142-1190 หายไปค่ะ...