เฉินโม่หันหน้าถลึงตาจ้องใส่กู่เยว่เหอในฉับพลัน “หาที่ตาย!”
ประกายสีทองพุ่งออกมาจากไรฟัน ตรงเข้าฟันใส่ไปที่กู่เยว่เหอ
“อะไรนั่น!” ทุกคนที่อยู่ต่างก็ตกตะลึง มองไปที่กระบี่สับสวรรค์ที่ลอยมาบนฟ้า สีหน้ามึนงง
“นี่เหมือนกับที่มีเล่ากันถึงกระบี่บินของเซียนกระบี่นะ!ดูท่าว่าอาจารย์เทพท่านนี้อาจเป็นได้ว่าก็คือเซียนกระบี่นั่นเอง!”
ผู้เฒ่าท่านหนึ่งที่อยู่ข้างล่างพูดออกมาด้วยความตื่นกลัว มองไปที่เฉินโม่ด้วยสายตาหวาดเกรง
“อาจารย์เทพเซียนกระบี่!”
คนทั้งหมดหลายคนเริ่มพูดย้ำชื่อนี้ต่อ ๆ กันไป
พวกเขาต่างมองไปที่เฉินโม่ ต่างแสดงออกในความยำเกรง
เวลานี้เฉินโม่ในสายตาของพวกเขา เปรียบได้เป็นคนแดนฟ้า ไม่มีใครกล้าสบตาตรง ๆ ด้วย!
กู่เยว่เหอในเวลานี้ก็ตื่นกลัวสุดขีด กระแสที่ส่งมาจากกระบี่สับสวรรค์ชนิดหนึ่งสร้างความหวาดหวั่นให้เขา ทำให้เขามีความคิดขนาดว่าอยากคุกเข่าลงขอสวามิภักดิ์
“ทุเรศ!” กู่เยว่เหอกัดฟันแน่น พยายามขัดขืนกับอารมณ์นั้น เขาจะยอมแพ้ไม่ได้ หากแม้แค่ความกดดันจากอาวุธของเฉินโม่ยังต้านไม่อยู่ แล้วเขายังจะเอาหน้าที่ไหนไปยืนอยู่เป็นที่หนึ่งในวงการปรุงกลั่นยา!
“ไปให้พ้นจากกู!” กู่เยว่เหอเปลี่ยนเส้นทางหมัด หันกลับไปที่กระบี่สับสวรรค์ ตั้งใจจะฟันปัดทิ้งการจู่โจมของกระบี่สับสวรรค์
แต่ เขามองเฉินโม่ต่ำไป และก็ประเมินพลังฝีมือตัวเองไว้สูงเกินไป เขานั้นเพิ่งเข้าถึงขั้นแดนดั่งเทพ แล้วจะไปขวางรับกระบี่สับสวรรค์ของเฉินโม่ได้ยังไง
ดาบฟันลงไป เฉียบพลันเด็ดขาด ตัวของกู่เยว่เหอถูกกระบี่นี้ฟันขาดไปครึ่งท่อน
เย่ซูซูที่อยู่ยืนข้าง ๆ มู่เจิ้งเฟิง อดไม่ได้ผวาตื่นกลัว กาฆ่าของเฉินโม่เฉียบขาดจนหล่อนเกิดความหวาดหวั่นอย่างบอกไม่ถูก หล่อนหักหลังออกมาจากสำนักยาเซียน ขโมยคัมภีร์เซียนยามาเข้าสวามิภักดิ์สำนักตันจง โทษของหล่อนจะยิ่งหนักสาหัสกว่ากู่หลานสองพ่อลูกเสียอีก
“อาจารย์อา ฉันรู้ว่ากู่เยว่เหอเอาคัมภีร์เซียนยาไปเก็บซ่อนอยู่ที่ไหน!” เย่ซูซูมองไปที่มู่เจิ้งเฟิงแล้วพูดขึ้นในทันทีนั้น
มู่เจิ้งเฟิงยิ้มเยือกส่ออาการเหยียดหมิ่น “อ้าว คุณหญิงน้อยเย่พูดหมายความว่ายังไงหรือ?”
เย่ซูซูคุกเข่าลงไปในทันทีนั้น น้ำตาไหลพราก “อาจารย์อา ฉันผิดไปแล้ว ความจริงตั้งแต่ออกจากสำนักยาเซียนมาแล้วนั้น ฉันก็รู้สึกตัวว่าผิดแล้ว อีกทั้งคนสำนักตันจงก็มองฉันเป็นคนนอก คอยกีดกันฉันมาตลอด หลายปีที่อยู่กับสำนักตันจงมา ก็ไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย”
“ตอนนี้ ฉันถึงได้เข้าใจแล้ว บุญคุณที่สำนักยาเซียนที่มีต่อฉันเมื่อก่อนนั้นสูงล้ำขนาดไหน หลายปีมานี้ฉันก็จมอยู่ในห้วงทุกข์ของความละอายใจมาตลอด ฉันไม่หวังขอให้อาจารย์อายกโทษให้ฉัน เพียงแต่ขอร้องท่านให้ฉันได้กลับเข้าไปอยู่สำนักยาเซียน แค่นั้นแม้ตายฉันก็ยังได้ตาหลับ!”
พูดจบ เย่ซูซูก็กราบลงแทบเท้ามู่เจิ้งเฟิง
มู่เจิ้งเฟิงสะบัดเสียงฮึ “โบสก์ของสำนักเซียนยาจะเล็กเกินไป วางพระรูปองค์ใหญ่อย่างคุณคงไม่ได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แดนนิรมิตเทพ
แปลต่อหน่อยครับ...
อ่านต่อไม่ได้เลย...
เงียบสนิท...
ตั้งแต่ตอน1299ถึง1420ไม่มีเลยค่ะตอนขาดหายไปเลย ขอร้องทางทีมงานอัพเดทต่อด้วยนะคะ...
ขอร้องทางทีมงานอัพเดทให้ถึงตอนจบด้วยนะคะ😭...
ไม่เขียนต่อแล้วหรือครับ...