“คุณชายหวาง ถึงแม้ว่าคุณอยากจะแพ้ให้กับผม แต่ไม่ต้องแสดงชัดเจนขนาดนี้” ฉีหมิงซานมองนักมวยผอมบางที่หวางเส้าหยู่เลือก หัวเราะเยาะด้วยสีหน้าเหยียดหยาม
“ผมสงสัยว่านักมวยที่คุณเลือก จะสามารถต้านหมัดหนึ่งของเป้าหลงได้หรือเปล่า!” ชายผิวดำที่ฉีหมิงซานเลือกชื่อเป้าหลง
บรรดาคนที่กำลังเฝ้ามองด้วยความสนุกที่อยู่รอบ ๆ เริ่มสนทนากัน พวกเขามองหวางเส้าหยู่ด้วยสายตาสงสัย และไม่มีใครตั้งความหวังกับนักมวยผอมบางคนนี้
ความจริงแล้ว แม้แต่หวางเส้าหยู่เองก็ไม่ได้ตั้งความหวังกับนักมวยที่ชื่อเซี่ยหลางเช่นกัน การที่เขาเลือกเซี่ยหลางเป็นเพราะคำขอของหวงไต้ซือ
สำหรับหวงไต้ซือแล้ว หวางเส้าหยู่ไม่มีข้อสงสัย เพราะเขาไม่ใช่นักตุ้มตุ๋นในยุทธภพ แต่เป็นปรมาจารย์นักบู๊อย่างแท้จริง เป็นหนึ่งในสิบพยัคฆ์ที่มีชื่อเสียงของไห่ตงในช่วงปลายราชวงศ์ชิง และเป็นทายาทสืบทอดของหมัดเก้าพยัคฆ์
หวงไต้ซือเองก็เป็นยอดฝีมือแดนในชั้นสมบูรณ์อีกด้วย
แน่นอนว่าหวางเส้าหยู่ไม่ทราบความแข็งแกร่งเฉพาะของหวงไต้ซือ เพียงแต่พ่อของเขาเคยเห็นหวงไต้ซือต่อสู้กับคนห้าสิบกว่าคนและช่วยเขาออกมา
ในเมื่อหวงไต้ซือบอกว่าเขาทำได้ ถ้าเช่นนั้นเขาจะต้องทำได้อย่างแน่นอน
เมื่อเผชิญกับการเยาะเย้ยและความสงสัยของทุกคน หวางเส้าหยู่ทำได้เพียงแกล้งทำเป็นเย่อหยิ่งและกล่าวเยาะเย้ยว่า “คนเราไม่สามารถมองคนจากรูปลักษณ์ภาพนอกได้ ยอดฝีมือที่แท้จริง ไม่ใช่คนบ้าระห่ำสามารถเทียบได้ แล้วพวกคุณรู้ได้อย่างไรว่าเซี่ยหลางไม่ใช่ยอดฝีมือที่ปิดบังฝีมือของตนเองเอาไว้ล่ะ?”
“ฮ่า ๆ สภาพแบบนั้น ยังมีหน้ามาบอกว่าเป็นยอดฝีมืออีก เกรงว่าไม่เพียงพอให้เป้าหลงชกหนึ่งหมัดเสียด้วยซ้ำ!” ฉีหมิงซานหัวเราะเยาะ แล้วตะโกนใส่ฝูงชนที่เฝ้ามองด้วยความสนุกอยู่ด้านหลังว่า “ทุกคนอย่าพลาดโอกาส มีคนยินดีที่จะเป็นคนโง่ที่ยอมเสียเงินเปล่า ๆ ถ้าไม่หากำไรจากเขา ก็จะผิดต่อโอกาสที่ดีเช่นนี้!”
ผู้ชมต่างตื่นเต้นและวางเดิมพันทีละคน และพวกเขาเกือบทั้งหมดเดิมพันว่าเป้าหลงจะเป็นฝ่ายชนะ
หวางเส้าหยู่หัวเราะอย่างมีความสุข มองมู่หรงยานเอ๋อร์และกล่าวชมว่า “สาวสวยคนนี้สายตาเฉียบแหลมมาก ไม่เหมือนคนบางคนที่มองการณ์ตื้นเขิน!”
ฉีหมิงซานรู้สึกโกรธมาก แต่เขาไม่กล้าโกรธคุณหนูยานเอ๋อร์ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงเกลี้ยกล่อมด้วยรอยยิ้มขมขื่นว่า “คุณหนูยานเอ๋อร์ ถึงแม้ว่าคุณจะมีเงิน แต่คุณไม่ควรฟุ่มเฟือยแบบนี้ แค่มองแวบเดียวก็สามารถมองเห็นความแข็งแกร่งของเซี่ยหลางกับเป้าหลงได้แล้ว การที่คุณแบบนี้ เหมือนตั้งใจโยนเงินเข้าไปในกองไฟ?”
มู่หรงยานเอ๋อร์ไม่สนใจเขา เธอเพียงแค่กล่าวว่า “ฉันตัดสินใจแล้ว รีบเริ่มแข่งขันกันเถอะ!”
ฉีหมิงซานมองเฉินโม่ซึ่งกำลังนั่งเงียบ ๆ ในพื้นที่พักผ่อนด้วยสายตาเกลียดชัง เขารู้สึกว่าการที่มู่หรงยานเอ๋อร์ทำแบบนี้ ต้องได้รับคำสั่งจากเฉินโม่แน่นอน เพื่อตั้งใจทำให้เขาอับอาย
“ฮึ่ม อีกสักครู่เมื่อคุณสูญเสียเงินไปหนึ่งล้าน ผมจะคอยดูว่าคุณจะยังเชื่อฟังไอ้คนไร้ประโยชน์อีกไหม!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แดนนิรมิตเทพ
แปลต่อหน่อยครับ...
อ่านต่อไม่ได้เลย...
เงียบสนิท...
ตั้งแต่ตอน1299ถึง1420ไม่มีเลยค่ะตอนขาดหายไปเลย ขอร้องทางทีมงานอัพเดทต่อด้วยนะคะ...
ขอร้องทางทีมงานอัพเดทให้ถึงตอนจบด้วยนะคะ😭...
ไม่เขียนต่อแล้วหรือครับ...