“มู่หรงเค่อ คราวที่แล้วคุณได้ผลประโยชน์จากที่ดินหลงหัวทางตะวันตกของผม คราวนี้ผมจะทำให้คุณคืนผมทั้งต้นทั้งดอก!” เสิ่นฉีเซิ่งที่เป็นผู้ทรงอิทธิพลแห่งไห่ซี และเขารู้สึกไม่พอใจมู่หรงเค่อเสมอมา เป็นฝ่ายกล่าวกับมู่หรงเค่อก่อน
มู่หรงเค่อมองลุงสุ่ย อินทรีขาวกับอินทรีที่อยู่ข้างหลัง และกล่าวด้วยสีหน้าราบเรียบว่า “เสิ่นฉีเซิ่ง เมื่อยินยอมเดิมพัน ก็ต้องยอมรับเมื่อตนเองพ่ายแพ้ ถ้าคุณอยากได้ที่ดินผืนนั้นคืน คุณก็ใช้หลงหัวอีกครึ่งหนึ่งเดิมพันกับผม!”
“ตกลง ผมรับปากคุณ!” เสิ่นฉีเซิ่งกล่าวเยาะเย้ย แล้วประสานมือทั้งสองเป็นการคำนับให้ชายชราสวมชุดจงซานจวงสีดำที่อยู่ข้างหลัง “ต้องรบกวนคุณสือแล้ว!”
“มิกล้ารับ!” คุณสือยิ้มบาง ๆ กระโดดเบา ๆ แล้วปรากฏตัวอยู่บนเวที
มู่หรงเค่อถามเบา ๆ ว่า “ลุงสุ่ย คุณคิดว่าความแข็งแกร่งของบุคคลนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”
ลุงสุ่ยกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ไม่อาจหยั่งรู้ได้!”
สีหน้าของมู่หรงเค่อเคร่งขรึม มองเสิ่นฉีเซิ่งที่สีหน้าเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย “ดูเหมือนว่าคราวนี้คนแซ่เสิ่นจะเตรียมพร้อม!”
“คุณอินทรีทั้งสอง พวกคุณสามารถจัดการบุคคลนี้ได้ไหม?” มู่หรงเค่อมองอินทรีขาวกับอินทรี
อินทรีใหญ่กล่าวด้วยสีหน้าจองหองว่า “ถึงแม้ว่าผมจะมองไม่เห็นความแข็งแกร่งของเขา แต่ขอเพียงแค่เขาไม่ใช่ปรมาจารย์ พวกเราก็สามารถจัดการเขาได้!”
มู่หรงเค่อรู้สึกสบายใจเล็กน้อย “ถ้าเช่นนั้นก็รบกวนคุณอินทรีเป็นคนขึ้นไปประลองก่อน หวังว่าจะสร้างผลงานออกมาดี!”
“มิกล้ารับ!” สีหน้าของอินทรีใหญ่เต็มไปด้วยความลำพองใจ “คุณมู่หรง ทำไมเฉินไต้ซือที่คุณเชิญมายังไม่ปรากฏตัวออกมาอีก? คงไม่ใช่ตกใจจนหนีไปแล้ว?”
มู่หรงเค่อรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เขามั่นใจว่าเฉินโม่ไม่ตกใจและหนีไปอย่างแน่นอน เพียงแต่มู่หรงยานเอ๋อร์พาเฉินโม่ออกไปแต่เช้า จนถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่ปรากฏตัวออกมา ทำให้เขารู้สึกเศร้าเช่นกัน
“ลุงสุ่ย ติดต่อยานเอ๋อร์ เพื่อถามว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน?”
ลุงสุ่ยกล่าวด้วยสีหน้าจำใจว่า “เมื่อสักครู่ผมติดต่อแล้ว คุณหนูบอกว่าพวกเขาอยู่ที่นั่นแหละ เพียงแต่.....”
ลุงสุ่ยอยากจะพูดอะไรแต่ก็ไม่กล้าพูดออกมา
มู่หรงเค่อกล่าวว่า “มีอะไรก็พูดออกมาเถอะ!”
“เชิญ!” คุณสือทำท่าทางเชิญไปทางอินทรีใหญ่
“ลงมือเถอะ!” อินทรีใหญ่ไม่รับน้ำใจไมตรี และลงมือโจมตีทันที
แต่เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกคนอื่นหาว่าเป็นการลอบโจมตี กระบวนท่าแรกของอินทรีใหญ่เป็นการแสร้งโจมตีแล้วถอยกลับทันที
สีหน้าของคุณสือเคร่งขรึม เขาไม่พอใจกับท่าทางที่เย่อหยิ่งของอินทรีใหญ่ และตอนนี้เขาก็ไม่ได้เกรงใจแล้ว เขาระเบิดพลังออกมา แล้วปล่อยพลังหมัดไปหน้าอินทรีใหญ่ทันที
พวกเขาสองกระโดดลอยตัวไปมาอยู่บนเวที หมัดของพวกเขาเต็มไปด้วยพลัง ความแข็งแกร่งของพวกเขาไล่เลี่ยกัน ซึ่งทำให้ผู้ชมรู้สึกตื่นตาตื่นใจ
ใต้เวที สีหน้าของฉีหมิงซานเต็มไปด้วยความตกใจ “นี่เป็นยอดฝีมือยุทธภพที่อยู่ในตำนานเล่าขานใช่ไหม! ผมคิดว่ามันมีแต่ในนิยายเท่านั้น นึกไม่ถึงว่าจะมียอดฝีมือเช่นนี้อยู่จริง ๆ”
“โลกนี้กว้างใหญ่ไพศาลและยังมีอะไรที่พวกลูกไม่รู้อีกมากมาย ดังนั้นพวกลูกต้องเคารพและเกรงกลัวโลกใบนี้อยู่เสมอ!” ฉีฉางเฟิงกล่าวด้วยสีหน้าครุ่นคิด เผยให้เห็นความฉลาดหลักแหลม ดูเหมือนว่าการที่เขาสามารถสร้างตัวจากมือเปล่านั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แดนนิรมิตเทพ
แปลต่อหน่อยครับ...
อ่านต่อไม่ได้เลย...
เงียบสนิท...
ตั้งแต่ตอน1299ถึง1420ไม่มีเลยค่ะตอนขาดหายไปเลย ขอร้องทางทีมงานอัพเดทต่อด้วยนะคะ...
ขอร้องทางทีมงานอัพเดทให้ถึงตอนจบด้วยนะคะ😭...
ไม่เขียนต่อแล้วหรือครับ...