“ทำไมเธอถึงดื้อรั้นเหมือนเขาเลย!” เล่หรูหั่วถอนหายใจเบาๆ แต่อันที่จริงตนเองก็เป็นแบบนี้ไม่ใช่หรือ? พวกเธอเป็นคนประเภทเดียวกัน ดังนั้นจึงอยู่ด้วยกันได้
หยุนเทียนหลิงโกรธมาก ด้วยฐานะอย่างเขา เคยเห็นผู้หญิงสวยๆ มามาก จึงย่อมไม่สงสารและอ่อนโยนกับมู่หรงยานเอ๋อร์เพียงเพราะความงามของเธอ
“ดูท่าทางเธอนี่เตือนดีๆ ไม่ฟัง ต้องบังคับถึงจะฟัง!”
มู่หรงยานเอ๋อร์เงยหน้าขึ้น จ้องไปที่หยุนเทียนหลิงอย่างไม่เกรงกลัว
จี๋ต๋าจิ่วตูมองไปที่คนสองคนที่กำลังจะขัดแย้งกัน แล้วหันไปหาเจี่ยจวินเซี่ย “ไอ้เจี่ย เราจะไม่สนใจหน่อยเหรอ?”
เจี่ยจวินเซี่ยขมวดคิ้วแน่น ถ้าเขาไม่สนใจ แล้วจะทนดูมู่หรงยานเอ๋อร์เสียเปรียบเฉยๆ เหรอ?
ทุกคนรู้ว่ามู่หรงยานเอ๋อร์และเฉินโม่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ถ้าพวกเขาทำเพิกเฉย หากเฉินโม่กลับมาแล้วจะอธิบายกับเฉินโม่ว่าอย่างไร?
“ไป!” หลังจากเลือกอย่างยากลำบาก เจี่ยจวินเซี่ยก็ก้าวไปข้างหน้าอย่างเด็ดเดี่ยว แม้ว่าจะเป็นการล่วงเกินตระกูลหยุน เขาก็ไม่สามารถทนเห็นมู่หรงยานเอ๋อร์ได้รับความอัปยศได้
“นี่คือประโยคที่ผมรอฟังจากนาย!” จี๋ต๋าจิ่วตูกล่าวด้วยความดีใจ
“เพื่อนนักเรียนหยุนเทียนหลิง ทำแบบนี้กับผู้หญิงสองคน ไม่คิดว่ามันเกินไปหน่อยเหรอ!” เสียงแผ่วเบาของเจี่ยจวินเซี่ยดังขึ้นมา หลายคนในหอพัก 306 ยืนขวางอยู่หน้ามู่หรงยานเอ๋อร์ เผชิญหน้ากับหยุนเทียนหลิง
เสิ่นเจี้ยนเหวินที่นั่งอยู่ข้างหลังหยุนเทียนหลิงมาตลอด มีความดีใจระคนแปลกใจปรากฏขึ้นในแววตาอย่างไม่ทราบสาเหตุ เขาเดินเข้ามาพร้อมกับลูกสมุน มายืนอยู่ข้างหยุนเทียนหลิง
“ว่าไง? เฉินโม่ไม่อยู่ กลายเป็นพวกคุณที่ต้องออกหน้าแทนเขาแล้วเหรอ? คนหอพัก 306 อย่างพวกคุณ ชอบหาแสงแบบนี้เหรอ?” เสิ่นเจี้ยนเหวินเยาะเย้ย
หยุนเทียนหลิงเหลือบมองเสิ่นเจี้ยนเหวินอย่างเฉยเมย เขาย่อมมองออกว่าเสิ่นเจี้ยนเหวินต้องการประจบประแจงเขา คนประเภทนี้เขาเคยเห็นมามากมาย แน่นอนว่าในเวลาแบบนี้ เขาปฏิเสธไม่ได้แน่นอน มีคนออกหน้าแทนเขา เขาแค่รอชุบมือเปิบ
“นายคือใคร?” หยุนเทียนหลิงแสร้งถามขึ้น
เสิ่นเจี้ยนเหวินรีบโค้งคำนับแล้วพูดว่า “กระผมเสิ่นเจี้ยนเหวิน จากตระกูลเสิ่นแห่งเมืองหนานหัว ขอคารวะคุณชายหยุน!”
อย่างไรก็ตาม คนที่อยากเข้าหาคนของตระกูลหยุนมีมากเกินไป กู่ซื่อซวินใช้เวลาสามปีติดต่อกัน เอาของกำนัลไปมอบให้ตระกูลหยุนทุกปี ถูกปฏิเสธอยู่หน้าประตู เกือบจะกลายเป็นเรื่องตลกในโลกฝึกบู๊
แน่นอน กู่ซื่อซวินจะไม่บอกเรื่องนี้กับกู่หลินเฟิง แต่กู่หลินเฟิงเคยได้ยินเรื่องนี้มาบ้าง แต่เขาไม่เชื่อว่าบิดาจะต่ำต้อยขนาดนี้
เมื่อหยุนเทียนหลิงพูดต่อหน้าแบบนี้ กู่หลินเฟิงเชื่อแล้ว
ชั่วขณะหนึ่ง ความรู้สึกอัปยศอดสูปกคลุมทั่วทั้งตัวกู่หลินเฟิง ทำให้ใบหน้าของเขาร้อนรุ่ม
เสิ่นเจี้ยนเหวินเห็นสีหน้าท่าทางของกู่หลินเฟิง ก็รู้ว่าสิ่งที่หยุนเทียนหลิงพูดนั้นเป็นความจริง เขายิ้มเย้ยหยันทันทีและกล่าวว่า “ที่แท้ตระกูลกู่ก็เคยมีประวัติอันรุ่งโรจน์ เปิดหูเปิดตาฉันจริง ๆ!”
กู่หลินเฟิงดวงตาแดงก่ำ กัดฟันกรอด “ตระกูลหยุน รังแกกันเกินไปแล้ว!”
หยุนเทียนหลิงยิ้มอ่อน สีหน้าไม่แยแส “แล้วจะทำไม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แดนนิรมิตเทพ
แปลต่อหน่อยครับ...
อ่านต่อไม่ได้เลย...
เงียบสนิท...
ตั้งแต่ตอน1299ถึง1420ไม่มีเลยค่ะตอนขาดหายไปเลย ขอร้องทางทีมงานอัพเดทต่อด้วยนะคะ...
ขอร้องทางทีมงานอัพเดทให้ถึงตอนจบด้วยนะคะ😭...
ไม่เขียนต่อแล้วหรือครับ...