แดนนิรมิตเทพ นิยาย บท 831

เฉินโม่วิ่งไปตลอดทาง ไม่มีเวลามาสนใจว่าจะทำให้คนอื่นรู้สึกตกตะลึง คนธรรมดาส่วนใหญ่มองเห็นเพียงเงาที่ประกายผ่านเท่านั้น

เฉินโม่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสาเหตุใด ถึงได้ทำให้งานแต่งงานเร็วกว่ากำหนดหลายปี จากความทรงจำชาติก่อนของเขาแล้ว เล่หรูหั่วกับหยุนเทียนหลิงแต่งงานกันหลังจบมหาวิทยาลัย

เพื่อยับยั้งการแต่งงาน เขาให้เฉินซงจื่อไปโจมตีตระกูลเล่ที่เมืองจงไห่ ถ้าตระกูลเล่ไม่ใช่ตระกูลใหญ่ที่สุดในโลกมนุษย์ของเมืองจงไห่แล้ว เช่นนั้นตระกูลหยุนก็ไม่สนใจตระกูลเล่อย่างแน่นอน ซึ่งจะสามารถยับยั้งไม่ให้ตระกูลเล่และตระกูลหยุนเชื่อมสัมพันธ์ด้วยการแต่งงานได้

เพียงแต่เฉินโม่รู้สึกว่าแค่โจมตีตระกูลเล่ยังไม่เพียงพอ ดังนั้นเขาก็เลยทำให้ขาของหยุนเทียนหลิงหักทั้งสองข้าง ทำให้หยุนเทียนหลิงกลายเป็นคนพิการ เมื่อเป็นเช่นนี้ ตระกูลเล่ก็จะไม่ให้เล่หรูหั่วแต่งงานกับคนพิการ

เพียงแต่ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงโชคชะตาได้ แม้แต่การเกิดใหม่ของเฉินโม่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโชคชะตาได้เช่นกัน

เขาพยายามทุกวิถีทางเพื่อยังยั้งไม่ให้เล่หรูหั่วแต่งงานกับหยุนเทียนหลิง แต่เขาไม่รู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำ กลายเป็นตัวเร่งให้เล่หรูหั่วแต่งงานกับหยุนเทียนหลิงเร็วขึ้น

ถ้าเฉินโม่รู้ว่าความจริงว่างานแต่งงานที่เกิดขึ้นเร็วกว่ากำหนดนั้นเป็นเพราะเขา เกรงว่าเฉินโม่คงจะโทษตัวเองแน่นอน

แต่ไม่ว่าจะเป็นเพราะสาเหตุใดที่ทำให้งานแต่งงานเกิดขึ้นก่อนกำหนด เฉินโม่จะไม่ยอมให้งานแต่งงานดำเนินต่อไปอย่างแน่นอน

ความเสียใจของชาติก่อน ที่ทำให้เขารู้สึกหดหู่เป็นเวลา หกร้อยปี ชาตินี้เฉินโม่จะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นอีก

ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นศัตรูกับคนทั้งโลกก็ตาม!

เฉินโม่กังวลว่าเขาจะยับยั้งงานแต่งงานไม่ทัน ดังนั้นเขาจึงรีบโทรไปหาเฉินซงจื่อ แล้วให้เฉินซงจื่อไปยับยั้งงานแต่งงานก่อน

ดูเหมือนว่าเฉินซงจื่อจะสามารถรับรู้ถึงความโกรธ ที่ไม่สามารถควบคุมของเฉินโม่ผ่านการคุยกันทางโทรศัพท์ได้ เฉินซงจื่อลงมือจัดการอย่างรอบคอบทันที

“หลินฝาน นายไปเรียกคนขับรถที่ชื่อเสี่ยวหลี่มา ผมจะออกไปข้างนอก!”

“ครับ!” หลินฝานตอบ

“เดี๋ยวก่อน ไม่ต้องแล้ว ผมไปเองดีกว่า!” เฉินซงจื่อกลัวจะไปไม่ทัน ดังนั้นเขาจึงเปิดหน้าต่างกระจก แล้วกระโดดลงไปต่อหน้าหลินฝานที่มองด้วยสายตาตกใจ

ชายคนนั้นมองเฉินซงจื่อที่กำลังจะร่อนลงมาจากกลางอากาศด้วยสีหน้าอึ้ง “ที่รัก เธอดูสิ มีคนกำลังบินอยู่บนท้องฟ้า คราวนี้ผมไม่ได้โกหกเธอจริงๆ!”

“บินบ้าบออะไร นายมันเป็นคนหลอกลวง พวกเราเลิกกันเถอะ!”

ตั๋วตั๋วพักอาศัยอยู่บนชั้นที่สิบสาม และปีนี้เขาอายุเจ็ดขวบแล้ว ตั๋วตั๋วเป็นเด็กที่ชอบจินตนาการ นับตั้งแต่เขาได้ดูหนังสไปเดอร์แมนแล้ว เขาก็มักจะเพ้อฝันว่าสักวันหนึ่งตนเองจะสามารถบินอยู่บนท้องฟ้าได้

ตั๋วตั๋วกำลังหมอบอยู่บนระเบียงและมองขึ้นไปบนท้องฟ้า เขาเห็นเฉินซงจื่อเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว

“คุณพ่อ คุณแม่ รีบมาดูสิ ที่แท้มีสไปเดอร์แมนจริง ๆ ประเทศของพวกเราก็มีเหมือนกัน ตอนนี้เขากำลังบินอยู่บนท้องฟ้า!”

น้ำเสียงที่โกรธของแม่ดังขึ้นมาทันที “พ่อตั๋วตั๋ว ต่อไปนายห้ามพาตั๋วตั๋วไปดูหนังอีกน่ะ!”

“ฮ่า ๆ น้อมรับคำสั่งของคุณภรรยา!”