“คุณท่านล่ะ? คุณท่านล่ะ?” สีหน้าของหยุนเทียนหลิงเต็มไปด้วยความอึ้ง เขานั่งอยู่บนรถเข็นและกล่าวพึมพำกับตัวเอง หยุนคงเป็นความหวังสุดท้ายในการแก้แค้นของเขา และตอนนี้แม้แต่ความหวังสุดท้ายของเขาก็พังทลายลงแล้ว
“คุณท่าน แพ้แล้ว!” หยุนเหล่ยก้มหน้าด้วยความเจ็บปวด
สมาชิกทุกคนของตระกูลหยุนรู้สึกสิ้นหวัง หยุนคงที่แข็งแกร่งขนาดนี้ก็ยังแพ้ แล้วจะยังมีสมาชิกคนไหนของตระกูลหยุน ที่สามารถจัดการชายหนุ่มที่เหมือนเทพเจ้าคนนี้ได้ล่ะ?
“หยุนคงแพ้แล้ว!”
ขณะเดียวกัน เสียงหนึ่งดังอยู่ในสมองของหยูหมั่นกวนและผู้นำตระกูลหวาง รวมทั้งเหล่าสมาชิกของตระกูลบู๊
“แพ้แล้ว คุณท่านหยุนแพ้เช่นกัน!” ทุกคนเกิดความคิดนี้พร้อมกัน
หลังจากตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ทุกคนได้สติกลับมา ต่างมองเฉินโม่ด้วยสีหน้าเคารพยำเกรง
เล่ชิงชางมองเฉินโม่ที่รูปร่างหน้าตาธรรมดามาก คนใหญ่คนโตที่โลดแล่นอยู่ในเมืองจงไห่มานานหลายสิบปีอย่างเล่ชิงชาง ตอนนี้เขามีความรู้สึกผสมปนเป และรู้สึกว่าตนเองสูญเสียของล้ำค่าไป
“สามารถเอาชนะหยุนซานด้วยหมัดเดียว ฆ่าหยุนคงตายด้วยสามหมัด ฮ่า ๆ ต่อให้ทั่วหัวเซี่ย แล้วจะมีสักกี่คนที่สามารถทำเช่นนี้ได้?”
“แต่ผมกลับเป็นคนที่ผลักเขาออกไปด้วยมือตนเอง แล้วเลือกคนพิการของตระกูลหยุน จนถูกคนอื่นด่าทอไปทั่ว และทำให้ลูกสาวเสียใจ!”
“ผมเป็นคนที่ฉลาดมาทั้งชีวิต แต่ก็ยังมีช่วงเวลาที่โง่เขลา!”
“ถ้าตระกูลเล่ได้รับความช่วยเหลือจากเขา ใช่ว่าจะไม่มีความหวังที่จะกลายเป็นตระกูลมหาอำนาจ!”
“แต่ผมกลับล่วงเกินเขา”
เล่ชิงชางเต็มไปด้วยความเสียใจ และดูเหมือนว่าเขาจะแก่ไปสิบปีทันที
สีหน้าของเล่หรูเฟิงแดงก่ำ แทบอยากจะหารอยแตกบนดินแล้วมุดเข้าไป
เมื่อมองท่าทางที่สงบของเฉินโม่แล้ว และนึกถึงคำพูดที่ตนเองพูดกับเฉินโม่ที่มหาวิทยาลัยหัวหนาน ทำให้เล่หรูเฟิงรู้สึกหน้าร้อนเผ่า
เจียงเสวี่ยรู้สึกอึ้ง จึงถึงตอนนี้แล้วเธอยังไม่อยากจะเชื่อว่าเฉินโม่จะสามารถเอาชนะหยุนคงได้
“เขา...ทำไมจู่ ๆ เขาถึงกลายเป็นคนแข็งแกร่งขนาดนี้ เขา.....เขา.....” เจียงเสวี่ยพูดอะไรไม่ออก เมื่อนึกถึงคำพูดที่เธอพูดโจมตีเฉินโม่แล้ว ตอนนี้เจียงเสวี่ยสั่นไปทั้งตัว ถ้าเฉินโม่แก้แค้นเธอ ก็ไม่มีใครสามารถช่วยเธอได้เช่นกัน
หยูหมั่นกวนมองเฉินโม่ด้วยความเคารพยำเกรง “สามารถเอาชนะหยุนซานด้วยหมัดเดียว ฆ่าหยุนคงตายด้วยสามหมัด เกรงว่าคงมีเพียงเขาเท่านั้น ที่สามารถฝึกลูกศิษย์อย่างนักพรตเฉินได้!”
สีหน้าของผู้นำตระกูลหวางเต็มไปด้วยความครุ่นคิด และกล่าวว่า “คุณจำสิ่งที่นักพรตเฉินพูดก่อนหน้านั้นได้ไหม?”
หยูหมั่นกวนมองผู้นำตระกูลหวางด้วยความสงสัยเล็กน้อย
ผู้นำตระกูลหวางกล่าวว่า “นักพรตเฉินบอกว่าเขาเพิ่งฝึกได้เพียงไม่กี่เดือน แต่พวกเราไม่เชื่อ แม้แต่หยุนคงยังหัวเราะเยาะว่านักพรตเฉินคุยโวโอ้อวดอย่างไร้ยางอาย!”
หยูหมั่นกวนพยักหน้า “ผมจำได้ เขาเคยพูดแบบนี้ ตอนนั้นผมยังพูดโต้แย้งเขาอีกด้วย”
ทันใดนั้น หยูหมั่นกวนก็รู้สึกตกใจ “คุณหมายความว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แดนนิรมิตเทพ
แปลต่อหน่อยครับ...
อ่านต่อไม่ได้เลย...
เงียบสนิท...
ตั้งแต่ตอน1299ถึง1420ไม่มีเลยค่ะตอนขาดหายไปเลย ขอร้องทางทีมงานอัพเดทต่อด้วยนะคะ...
ขอร้องทางทีมงานอัพเดทให้ถึงตอนจบด้วยนะคะ😭...
ไม่เขียนต่อแล้วหรือครับ...