สมาชิกที่เหลือของตระกูลมู่เข้าใจเจตจำนงของมู่จือเสว๋ทันที และตะโกนด้วยความโกรธเช่นกัน “ถูกต้อง เจ้าเด็กคนนี้กล้าดูหมิ่นสำนักยาเซียนของพวกเรา ต้องให้คำอธิบายแก่พวกเรา!”
เฉินโม่กล่าวเยาะเย้ย “พวกแกต้องการอธิบายอย่างไร?”
“มอบสูตรยาของแกออกมาทั้งหมด! มิเช่นนั้นก็อย่าคิดว่าแกจะออกไปจากที่นี่ได้” ผู้อาวุโสสามคำราม
“นี่ถึงจะเป็นจุดประสงค์ที่แท้จริงของพวกแก!” เฉินโม่เยาะเย้ย
“อยากได้ของของฉัน เกรงว่าพวกแกยังไม่มีคุณสมบัติเพียงพอ” เจตนาฆ่าปรากฏอยู่ในดวงตาของเฉินโม่
ความจริงแล้ว ด้วยความแข็งแกร่งของเฉินโม่แล้ว เขาสามารถแย่งชิงวัตถุดิบยาจากสำนักยาเซียนได้โดยตรง แต่เฉินโม่ไม่คิดจะใช้กำลังรังแกคนอื่น แต่ใช้สิ่งของแลกเปลี่ยนกับสำนักยาเซียน เพราะเพียงแค่สูตรยาใด ๆ หนึ่งสูตร ก็สามารถทำให้สมาชิกของสำนักยาเซียนรู้สึกว่ามันเป็นของล้ำค่า
แต่นึกไม่ถึงว่าสมาชิกของสำนักยาเซียนจะโลภมาก และอยากได้ผลประโยชน์จากเขาอีก แล้วเฉินโม่จะยอมรามือได้อย่างไร?
“เจ้าหนู ยังไม่เคยมีสมาชิกโลกฝึกบู๊ของหัวเซี่ยคนใดกล้าดูหมิ่นสำนักยาเซียน นึกไม่ถึงว่าแกจะจองหองขนาดนี้ ในเมื่อพูดด้วยดี ๆ แล้วไม่ยอมทำตาม ก็คงต้องใช้กำลังบังคับ!” มู่จือเสว๋ลุกขึ้นและกล่าวด้วยสีหน้าโกรธเคือง
“หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว ฉันยังมีสูตรยาอีกมากมาย ขอเพียงแค่พวกแกมีความสามารถที่จะทำให้ฉันนำออกมา ฉันก็จะให้พวกแกทั้งหมด!” เฉินโม่กล่าวอย่างเย็นชา
“จองหอง!” สมาชิกของตระกูลมู่ต่างดุด่า
มู่จือเสว๋กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “พวกเรา รีบจัดการเจ้าเด็กจองหองที่ดูหมิ่นสำนักยาเซียน!”
“เดี๋ยวก่อน!” มู่เจิ้งเฟิงที่สีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เขาเดินไปยืนขวางอยู่หน้ามู่จือเสว๋
สีหน้าของมู่จือเสว๋เปลี่ยนไป และกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เจิ้งเฟิง หลีกไป!”
มู่เจิ้งเฟิงโค้งตัวและกล่าวว่า “ผู้นำตระกูล เหตุผลที่ว่าทำไมสำนักยาเซียนถึงสามารถกลายเป็นตระกูลอันดับหนึ่งในโลกแห่งการกลั่นยาได้ ไม่ได้เป็นเพราะสูตรยาและยาวิเศษ แต่เป็นเพราะชื่อเสียงที่นักปราชญ์บรรพบุรุษของสำนักยาเซียนสั่งสมมา ผมหวังว่าผู้นำตระกูลจะสามารถรักษาเจตนาที่แท้จริง และอย่าให้ความโลภบังตา!”
มู่เจิ้งเฟิงเงยหน้าและถอนหายใจ “เฮ้อ ไม่ช้าก็เร็วตระกูลมู่จะถูกทำลายด้วยน้ำมือของพวกคุณ!”
หลังจากกล่าวจบ มู่เจิ้งเฟิงก็กลับมานั่งด้วยสีหน้าจำใจ
สีหน้าของมู่จือเสว๋ยังคงน่าเกลียด ถ้าไม่ใช่เพราะฝีมือการกลั่นยาของมู่เจิ้งเฟิงดีที่สุดในตระกูลมู่ เขาจะไม่ยอมให้มู่เจิ้งเฟิงกำเริบเสิบสานเช่นนี้
“เจ้าหนู แกจะยอมมอบตัวดี ๆ หรือจะให้พวกเราลงมือจัดการเอง” มู่จือเสว๋มองเฉินโม่ แล้วกล่าวอย่างเย็นชา
“ฉันไม่มีนิสัยมอบตัว ทำให้ฉันเห็นว่าตระกูลมู่ของพวกแกนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน!” เฉินโม่กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แล้วขจัดพลังทิพย์ที่อยู่บนหน้า และกลับสู่หน้าตาดั้งเดิมทันที
มู่เจิ้งเฟิงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยสีหน้าหดหู่ ตอนนี้สีหน้าของเขาเปลี่ยนแปลงทันที และอุทานด้วยความตกใจว่า “นายคือเฉินไต้ซือ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แดนนิรมิตเทพ
แปลต่อหน่อยครับ...
อ่านต่อไม่ได้เลย...
เงียบสนิท...
ตั้งแต่ตอน1299ถึง1420ไม่มีเลยค่ะตอนขาดหายไปเลย ขอร้องทางทีมงานอัพเดทต่อด้วยนะคะ...
ขอร้องทางทีมงานอัพเดทให้ถึงตอนจบด้วยนะคะ😭...
ไม่เขียนต่อแล้วหรือครับ...