ศาสตราจารย์ฮั่วจ้องรุ่นน้องของตัวเองคนนี้อยู่นาน จากนั้นละสายตาไปมองเฉินโม่ที่อยู่ด้านหลังศาสตราจารย์เสิ่น พูดอย่างทอดถอนใจเล็กน้อยว่า “รุ่นน้อง นายรับศิษย์ดีตั้งคนหนึ่งเลยนะ! ครั้งนี้ฉันไม่น้อยใจเลยที่แพ้!”
ศาสตราจารย์เสิ่นได้ยินคำพูดนี้ จึงรู้ว่าศาสตราจารย์ฮั่วไม่ได้มีเจตนาไม่ดี จึงโล่งใจไปได้เยอะ
“รุ่นพี่ อันที่จริงพี่ชนะแล้ว ผลงานของเฉินโม่ไม่เกี่ยวกับผมสักนิด พี่ก็รู้ว่าผมสอนข้อมูลความรู้พวกนั้นให้เขาไม่ได้!” ศาสตราจารย์เสิ่นก็ซื่อสัตย์ พูดออกมาตรงๆ ไม่ปิดบัง
ศาสตราจารย์ฮั่วสีหน้าเคร่งขรึม “แพ้ก็คือแพ้ ฉันยอมรับว่าแพ้จากใจ บางทีการแข่งขันไม่ได้อาศัยแค่ความสามารถ ดวงก็เป็นส่วนสำคัญมากอีกส่วนหนึ่ง นายได้เจอนักเรียนแบบนี้ เป็นดวงของนาย ดังนั้นฉันจึงยอมรับว่าแพ้จากใจ!”
“ใช่ ดวงผมดีกว่าพี่”
ศาสตราจารย์เสิ่นรู้สึกปลง อันที่จริงเขานับถือรุ่นพี่ของตัวเองคนนี้ในบางด้านเป็นอย่างมาก อย่างเช่น การยอมรับความพ่ายแพ้อย่างเปิดเผยแบบนี้
ศาสตราจารย์ฮั่วหันหลังเดินออกไป ก่อนไปพูดทิ้งท้ายว่า “แต่การแข่งขันระหว่างเราสองคนยังไม่จบ จำไว้ว่าสักวันหนึ่งฉันจะเหนือกว่านาย! ถ้าชีวิตนี้ฉันอยู่เหนือนายไม่ได้ ฉันจะให้นักเรียนของฉันสานต่อปณิธานของฉัน จนกว่าสักวันจะเหนือกว่านาย!”
สีหน้าศาสตราจารย์เสิ่นหนักใจเล็กน้อย ขนาดเฉินโม่ยังอดถามด้วยความอยากรู้ไม่ได้ “ศาสตราจารย์เสิ่น คุณกับรุ่นพี่มีความแค้นใหญ่หลวงอะไรกันเหรอครับ ต้องยึดติดถึงขนาดนี้เลยเหรอครับ”
ใบหน้าของศาสตราจารย์เสิ่นเหมือนกำลังนึกย้อนอดีต แต่เหมือนนึกถึงเรื่องอะไรที่น่าอายขึ้นมาได้ ใบหน้าชราแดงเล็กน้อย
“อันที่จริงเกี่ยวกับอาจารย์แม่ของพวกนาย เฮ้อ เป็นเรื่องในอดีตทั้งนั้น ไม่ต้องพูดก็ได้!” เหมือนศาสตราจารย์เสิ่นมีความกังวลใจที่ยากจะพูดออกมา อยากรักษาศักดิ์ศรีเอาไว้เมื่ออยู่ต่อหน้านักเรียน สุดท้ายจึงไม่ได้พูดออกมา
ถึงเขาไม่พูด พวกเฉินโม่ก็พอเดาได้ว่าตอนนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่ คิดไม่ถึงว่าคนบื้อไม่เข้าใจเรื่องความรัก แบบศาสตราจารย์เสิ่น จะโชคดีได้ใช้ชีวิตกับสาวงามด้วย!
ขณะที่ทุกคนกำลังจะเตรียมกลับ จู่ๆ อานเข่อเยว่ตามมา
มองดาวโรงเรียนผู้งดงามของวิทยาลัยชิงหวาคนนี้ หวางเฉิงและนักเรียนชายอีกสองสามคนแววตาลุกโชน
แต่พวกเขารู้ดี ดาวโรงเรียนคนนี้ไม่ได้มาหาพวกเขาแน่นอน
เฉินโม่ขมวดคิ้วอีกครั้ง ไม่ได้พูดอะไรต่อ ทั้งสองยืนเผชิญหน้ากันอยู่แบบนี้ ดึงดูดให้นักเรียนที่เดินไปมาจำนวนมากมามุงดู
“ทำไม” อานเข่อเยว่ถามสิ่งที่ทำให้เฉินโม่จับต้นชนปลายไม่ถูก
“ฉันไม่เข้าใจว่าเธอจะสื่ออะไร” เฉินโม่พูดอย่างราบเรียบ
“ทำไมต้องทำกับฉันแบบนี้” อานเข่อเยว่สะเทือนใจเล็กน้อย ความโมโหอย่างมากออกมาจากน้ำเสียง
เหมือนเฉินโม่จะเข้าใจแล้ว มองอานเข่อเยว่ด้วยสายตานิ่งๆ เสียงนิ่งดั่งน้ำ “นี่ต้องถามตัวเธอเอง”
“เรื่องที่นายเล่าตอนสุดท้าย นายกำลังพูดถึงฉันใช่ไหม! เหอะๆ ไม่ลืมความตั้งใจแรกเริ่ม ถึงจะประสบความสำเร็จได้ในที่สุด” รอยยิ้มขมขื่นที่เยาะเย้ยตัวเอง ลอยขึ้นมาบนหน้าอานเข่อเยว่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แดนนิรมิตเทพ
แปลต่อหน่อยครับ...
อ่านต่อไม่ได้เลย...
เงียบสนิท...
ตั้งแต่ตอน1299ถึง1420ไม่มีเลยค่ะตอนขาดหายไปเลย ขอร้องทางทีมงานอัพเดทต่อด้วยนะคะ...
ขอร้องทางทีมงานอัพเดทให้ถึงตอนจบด้วยนะคะ😭...
ไม่เขียนต่อแล้วหรือครับ...