แดนนิรมิตเทพ นิยาย บท 973

เห็นเฉินโม่เดินต่อ พวกนักบู๊ด้านหลังนั่งไม่ติดทันที

“พวกเราก็ไปกันเถอะ!” หลี่เจ๋อพูดกับอาจารย์ของตัวเอง

“ไป!”

พวกหยางหมิงหยู่เงียบไม่พูดอะไร เดินตามเฉินโม่เงียบๆ ตั้งนานแล้ว

นักบู๊ทั้งหมดเดินตามหลังเฉินโม่ เดินต่อไปข้างหน้าเรื่อยๆ

เดินได้อีกระยะหนึ่ง มีตำหนักปรากฏขึ้นด้านหน้าทุกคนอีกครั้ง ล่างบันไดหินด้านหน้าตำหนัก มีนักบู๊ยืนอยู่หลายสิบคน

ดูเหมือนทางเข้าเขาซูคงมีเยอะมาก

เห็นนักบู๊อย่างพวกเฉินโม่มา สีหน้าคนพวกนั้นราบเรียบ ไม่มีความตกใจสักนิด

เฉินโม่มองป้ายด้านบนตำหนัก ด้านบนมีตัวอักษรสีเทาสามตัว: ตำหนักชางหยุน!

ผู้อาวุโสที่อยู่ข้างๆ พูดอย่างตกใจ “ตำหนักชางหยุนเหรอ หรือจะเป็นวิมานของนักพรตชางซง เซียนผู้เป็นอิสระคนสุดท้ายเมื่อพันปีก่อน”

เฉินโม่มองผู้อาวุโสคนนั้น แล้วถามว่า “นักพรตชางซงเหรอ เป็นใครมาจากไหน”

“จากบันทึกในหนังสือโบราณของโลกฝึกบู๊ นักพรตชางซงเป็นเซียนคนสุดท้ายเมื่อพันปีก่อน ถ้าพูดในตอนนี้น่าจะเป็นคนที่ทะลุแดนเทพไปแล้ว!”

เฉินโม่พูดในใจ “เหนือกว่าแดนเทพ มีแดนที่สูงยิ่งกว่าตามคาด เรียกว่าเซียนก็ไม่เกินไป แต่ไม่รู้ว่าเซียนอิสระท่านนี้พละกำลังเป็นยังไง”

“เฉินโม่ ทำไมคนพวกนี้ไม่เข้าไป ยืนตรงนี้ทำไม” เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนถามอย่างสงสัย

เฉินโม่มองตำหนักแวบหนึ่ง แล้วพูดอย่างราบเรียบ “มีค่ายกล!”

“เธอไม่ต้องรู้ชื่อฉันหรอก และเธอก็ไม่มีทางได้อะไรจากฉันด้วย กลับไปเถอะ” เฉินโม่พูดอย่างเย็นชา เขามองเพียงแวบเดียวก็มองออกว่าผู้หญิงที่ชื่อเซี่ยฉิง มีความคิดลึกซึ้ง เขาไม่อยากสนทนากับคนแบบนี้

เซี่ยฉิงโมโหเล็กน้อย นี่เป็นครั้งแรกที่เธอโดนเมินใส่ หลังจากบอกที่มาของตัวเอง

“อย่าบอกนะว่าเขาไม่เคยได้ยินชื่อสำนักเฟยหยู่” เซี่ยฉิงคิดในใจ ถ้ารู้จักสำนักเฟยหยู่ คนอื่นแทบจะประจบสอพลอกันไม่ทัน เขาไม่ควรเฉยเมยใส่แบบนี้

นักบู๊หนุ่มที่อยู่ข้างๆ ยิ้มเย็นชาแล้วพูดว่า “คิดไม่ถึงว่าเซี่ยฉิง สำนักเฟยหยู่ หนึ่งในสี่จตุรเทพของสายเลือดบู๊โบราณ จะมีตอนที่โดนคนเมินใส่ด้วย!”

เซี่ยฉิงจ้องเขาเขม็ง แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “นายไม่ต้องยุ่ง!”

สายตาของเซี่ยฉิงมองมาที่เฉินโม่อีกครั้ง แล้วถามต่อ “นายไม่ใช่สายเลือดบู๊โบราณเหรอ”

เฉินโม่ดูไม่ชอบใจเล็กน้อย เหมือนผู้หญิงคนนี้มีความคิดดันทุรัง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แดนนิรมิตเทพ