“แต่มันแก้ปัญหาได้แค่ชั่วคราว” สวี่รั่วยีคืนเอกสารในมือให้มู่ชิง “ได้ลองใคร่ครวญถึงปัญหาระยะยาวหรือยัง? ยอดขายน้ำหอมของแอนนาในครั้งนี้แซงหน้าน้ำหอมของฉันในไตรมาสที่แล้ว!ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป……”
สวี่รั่วยีหน้านิ้วคิ้วขมวด มาตรฐานของเธอไม่เคยสู้แอนนาได้เลย ถ้าหากตอนนี้ขายน้ำหอมไม่ได้เลยล่ะก็ ตระกูลลี่จะยังอยากเกี่ยวดองกับตระกูลสวี่ไหม?
ยิ่งเมื่อนึกถึงคำพูดปกป้องสวี่รั่วฉิงของลี่ถิงเซิ่งในวันงานเลี้ยง สวี่รั่วยีก็ยิ่งกัดฟันแน่น
เล็บที่ตกแต่งมาอย่างสวยงาม จิกลึกเข้าไปในฝ่ามือของเธอ
“คุณหนู อย่าเพิ่งใจร้อนสิ”มู่ชิงเอ่ยพูดให้สวี่รั่วยีสบายใจ “ผมจะช่วยปรุงน้ำหอมให้ในชื่อของคุณ แต่คุณอย่าเพิ่งใจร้อน ถ้าใจร้อน คงปรุงน้ำหอมได้ไม่ดี มารอดูดีกว่าว่าหลังจากที่น้ำหอมของแอนนาขาดตลาด จนลูกค้าหาซื้อไม่ได้มันจะเป็นยังไง ถ้าหากลูกค้าหาซื้อไม่ได้ ก็จะเลิกให้ความสำคัญเองล่ะ”
มุมปากของมู่ชิง แฝงไปด้วยรอยยิ้มร้ายกาจ
ถ้าไม่นอกเหนือจากที่มู่ชิงคาดการณ์เอาไว้ วันแรกหลังจากที่น้ำหอมของสวี่รั่วฉิงขายหมด บนอินเทอร์เน็ตต้องมีข้อตำหนิและคอมเม้นต์วิจารณ์มากมายแน่นอน
“ก็ไม่ใช่ว่าจะดีซะหน่อย? ไม่แน่อาจจะเป็นการตลาดอีกรูปแบบหนึ่งก็ได้ พอของขายหมด แล้วมีคนซื้อเยอะ ทุกคนก็ต้องคิดว่าเป็นของดี เพราะงั้นก็จะยิ่งไปจองซื้อ ถ้าเป็นอย่างนี้เป้าหมายของลี่ซื่อกรุ๊ปก็จะไม่สำเร็จเหรอ?”
“ถึงจะไม่ได้ซื้อเอง แต่ได้ยินเพื่อนบอกมาว่า กลิ่นก็งั้นๆ”
“บังเอิญจัง ฉันเองก็คิดก็แบบนั้นเหมือนกัน!อย่างมากก็รออีกอาทิตย์หนึ่ง ถ้าหลังจากนั้น ฉันก็ไม่อยากซื้อแล้ว!”
เมื่อสวี่รั่วยีอ่านคอมเม้นบนอินเทอร์เน็ต ก็ยกยิ้มออกมาอย่างลำพองใจ
“ถือโอกาสนี้ เตรียมปล่อยโฆษณาน้ำหอมของเราในไตรมาสนี้กันเถอะ”สวี่รั่วยีเอ่ยพูดกับพ่อของตัวเองว่า “พ่อคะ นี่ถือเป็นโอกาสดีเลยนะ ถึงตอนนี้น้ำหอมของบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปจะยังเป็นที่นิยมอยู่ แต่ถ้าพวกเขาไม่มีสินค้า ต่อให้ผลิตใหม่ อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาตั้งเดือนหนึ่ง ขอแค่เราคว้าโอกาสนี้เอาไว้ รีบปล่อยโฆษณาน้ำหอมออกไป ยอดขายในเดือนนี้ ต้องได้เยอะแน่ๆ”
ประธานสวี่มองลูกสาวของตัวเอง จากนั้นก็ดับบุหรี่ลงบนถาดรองเศษบุหรี่
“ช่วงนี้แกไม่ค่อยได้ติดต่อกับถิงเซิ่งใช่ไหม?” ประธานสวี่กดเสียงหนัก น้ำเสียงเต็มไปด้วยความไม่พอใจ “แกไม่รู้สักนิดเลยเหรอว่าบริษัทของพวกเขาผลิตน้ำหอมออกมาในปริมาณที่เยอะขนาดไหน?”
สวี่รั่วยีถูกแทงใจดำ จึงกัดริมฝีปากแน่น “แล้วฉันจะไปทำอะไรได้!ตอนนี้ลี่ถิงเซิ่งเอาแต่สนใจแอนนาอะไรนั่น ไม่แม้แต่จะกลับมาที่คฤหาสน์ มีแต่ฉันอยู่คฤหาสน์คนเดียว มันจะไปมีประโยชน์อะไร?”
ประธานสวี่เงียบ
เริ่มแรกเขาไม่ได้เห็นด้วยกับการแต่งงานระหว่างสวี่รั่วยีและลี่ถิงเซิ่ง
เขารู้ดีว่าลี่ถิงเซิ่งเป็นคนยังไง ด้วยความที่อีกฝ่ายสืบทอดลี่ซื่อกรุ๊ปมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก สไตล์การทำงานจึงแยบยล มองอะไรแค่แวบเดียวก็ดูออกแล้ว
สภาพการเงินของสวี่ซื่อกรุ๊ปไม่ค่อยดีเท่าไหร่ จึงต้องรีบเกี่ยวดองกับตระกูลอื่นเพื่ออุดรูรั่ว
และลี่ซื่อกรุ๊ปก็คือตัวเลือกที่ดีที่สุด
ด้วยเหตุนี้ประธานสวี่จึงยินยอมเห็นด้วยกับคุณนายสวี่
ถ้าสวี่รั่วยีได้แต่งงานกับลี่ถิงเซิ่ง วิกฤติของสวี่ซื่อกรุ๊ปก็จะได้รับการแก้ไข
“งั้นฉันขอถามแกหน่อย ถ้าเกิดปล่อยโฆษณาออกไปตอนนี้ จะขาดทุนหนักเหมือนตอนน้ำหอมของแกก่อนหน้านี้ไหม?”
สีหน้าของสวี่รั่วยีขุ่นมัวเล็กน้อย “แต่ว่าตอนนี้ก็ไม่มีวิธีอื่นแล้ว ปล่อยโฆษณาออกไปตอนนี้ยังดีกว่าอยู่เฉยๆ นี่เป็นจังหวะที่ดีที่สุดแล้วนะคะ!”
เพื่อที่จะเหยียบหัวแอนนา สวี่รั่วยียอมทำทุกอย่าง
ประธานสวี่ครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วแจ้งกับแผนกโฆษณาว่า ให้รีบปล่อยโฆษณาน้ำหอมในไตรมาสแรกของสวี่ซื่อกรุ๊ปทันที
อย่างที่สวี่รั่วยีคาดการณ์เอาไว้ เนื่องจากน้ำหอมของสวี่รั่วฉิงขาดตลาด จึงทำให้หลายๆคนหาซื้อไม่ได้ ทันทีที่ผู้คนรู้ว่าสวี่ซื่อกรุ๊ปก็กำลังจะปล่อยน้ำหอมตัวใหม่ออกมา ก็อดที่่จะตื่นเต้นขึ้นมาไม่ได้
“ไหนๆตอนนี้ก็หาซื้อน้ำหอมของแอนนาไม่ได้ ลองน้ำหอมของสวี่รั่วยีดูจะเป็นไรไป?”
“ใช่ เงินแค่ไม่กี่ร้อย มากสุดก็เทียบเท่าค่าเนื้อย่างมื้อหนึ่งเอง!”
เมื่อหลี่อานเห็นว่าสวี่ซื่่อกรุ๊ปปล่อยโฆษณาออกมาในจังหวะเวลานี้ ก็เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งว่าคิดจะหาประโยชน์จากช่องโหว่ของลี่ซื่อกรุ๊ป
เมื่อสักครู่สวี่รั่วฉิงเพิ่งติดต่อกับซูจิ่วเอ๋อร์ พร้อมกับบอกเรื่องที่เธอกำลังจะกลับฝรั่งเศสให้เพื่อนรักรู้ด้วย
เผอิญว่าตระกูลซูมีสวนดอกไม้แปลงใหญ่ที่ฝรั่งเศสพอดี เธอเลยว่าจะไปเลือกดูวัตถุดิบเสียหน่อย
ถึงยังไงลี่ถิงเซิ่งก็เป็นคนจ่ายเงิน ถ้าไม่ไปใช้ก็คงสูญเปล่า
ยังเหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วโมงถึงจะได้ขึ้นเครื่อง สวี่รั่วฉิงหยิบหูฟังออกมาเปิดเพลงฟัง เตรียมที่จะงีบสักหน่อย
ทว่าสายของลี่ถิงเซิ่งกลับโทรเข้ามาเสียก่อน
“เตรียมขึ้นเครื่องแล้ว?” เสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่ม รื่นหูราวกับเสียงเชลโล
สวี่รั่วฉิงค่อนข้างประหลาดใจ เธอนึกว่าลี่ถิงเซิ่งจะโทรมาถามเรื่องงานเสียอีก
คำพูดที่เตรียมเอาไว้ จึงติดอยู่ในลำคอทั้งหมด
สวี่รั่วฉิงตอบอืมกลับไป จากนั้นก็พูดว่า “ห้าโมงถึงจะขึ้นเครื่อง”
ชายหนุ่มขานรับเสียงต่ำ หลังจากที่เงียบอยู่สักพัก เขาก็เอ่ยถามว่า “อีกสามวันตอนกลับ ผมจะไปรับคุณ”
สวี่รั่วฉิงไม่ทันได้ตอบอะไร ก็มีเสียงลูกน้องของลี่ถิงเซิ่งดังขึ้นมาในสาย ลี่ถิงเซิ่งจึงทิ้งท้ายไว้ว่า”แล้วเจอกัน” จากนั้นก็วางสายไป
สวี่รั่วฉิงมองโทรศัพท์เงียบๆ
เดี๋ยวนะ!เธอพาลูกมาด้วย!จะให้ลี่ถิงเซิ่งรู้ไม่ได้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ