บทที่ 26 เชิญค่ะ ประธานลี่
เพราะไม่ได้นอนมาทั้งคืน ก่อนมาที่ห้องนี้ สวี่รั่วฉิงจึงแวะแต่งหน้า
เมื่อรอยคล้ำใต้ตาถูกปกปิด สวี่รั่วฉิงในตอนนี้จึงมีใบหน้ากระจ่างใสน่ามอง เรียวขายาวเอนพิงผนังอย่างสบายๆ จากนั้นก็ล้วงหยิบคีย์การ์ดที่ลี่ถิงเซิ่งให้เธอออกมาจากกระเป๋าเสื้อ แล้วแกว่งคีย์การ์ดไปมาต่อหน้าพนักงาน
“ประธานลี่ให้ฉันมาปรุงน้ำหอม” ริมฝีปากสีแดงสวยของสวี่รั่วฉิง ขยับพูดเบาๆด้วยน้ำเสียงไพเราะน่าฟัง เหมือนที่เอาไว้ใช้อ่อยประธานลี่อย่างที่คนอื่นเล่าต่อๆกันมา!
เธอชายตามองพนักงานที่มองมาที่เธออย่างอึ้งๆด้วยความแพรวพราว จากนั้นก็ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “ถ้าไม่เชื่อ โทรไปถามประธานลี่ดูไหมล่ะ?”
พนักงานเริ่มอึกอัก ผู้หญิงคนนี้หน้าไม่อายจริงๆ แม้แต่ผู้หญิงด้วยกันเองก็ยังคิดจะอ่อยเหรอ!
เธอไม่มีทางติดกับอีกฝ่ายหรอกนะ!
เป็นแค่ผู้ช่วย จะมาปรุงน้ำหอมได้ยังไง? ในบริษัทมีนักปรุงน้ำหอมชั้นนำตั้งหลายคน แอนนาเชี่ยวชาญเท่านักปรุงน้ำหอมพวกนั้นหรือเปล่าล่ะ?
“คอยดูเลยนะ ฉันจะโทรไปถาม!ถ้าคุณกล้าโกหกฉัน ก็อย่าคิดว่าเรื่องมันจะจบง่ายๆล่ะ!”
สวี่รั่วฉิงยักไหล่ เอนพิงผนังอย่างไม่แยแสอะไรทั้งสิ้น
เธอพลิกคีย์การ์ดในมือเล่นไปมา
คีย์การ์ดที่ลี่ถิงเซิ่งให้เธอมา ไม่เห็นจะมีประโยชน์อะไร ขนาดพนักงานยังสงสัยเลย
ไม่กี่นาทีต่อมา พนักงานก็วางสาย แล้วหลีกทางให้สวี่รั่วฉิง
สวี่รั่วฉิงยิ้มร่า จากนั้นก็เอ่ยล้อขึ้นมาว่า “โทรถามประธานลี่แล้วเหรอ? รู้หรือยังว่าฉันไม่ได้โกหก?”
พนักงานย่นจมูกอย่างไม่พอใจ
“นี่คุณกำลังประชดฉันเหรอ? อย่างฉันนี่นะจะโทรไปถามประธานลี่โดยตรงได้!”
อีกฝ่ายเหลือกตาใส่สวี่รั่วฉิง “ถ้าจะเข้าก็รีบเข้า อย่ามัวชักช้า!ประธานลี่นี่ก็จริงๆเลย คนปรุงน้ำหอมเป็นก็มีตั้งเยอะแยะ.....ขนาดคุณสวี่รั่วยีอยากใช้ห้องปรุงน้ำหอมที่บริษัท ก็ยังไม่อนุญาตเลย”
พนักงานบ่นอุบอิบ
สวี่รั่วฉิงมองเธอ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก จากนั้นก็เก็บคีย์การ์ดไว้ในกระเป๋า แล้วเดินเข้าไปข้างใน
นี่สวี่รั่วยียังไม่เคยใช้ห้องนี้เลยเหรอ?
เธอคือนักปรุงน้ำหอมมือหนึ่งในเมืองหลินชวนไม่ใช่เหรอ?
ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของสวี่รั่วยีกับลี่ถิงเซิ่งจะไม่ธรรมดาเหมือนอย่างป่าวประกาศตามสื่อต่างๆนะเนี่ย
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ไม่ว่าใครเดินผ่านห้องปรุงน้ำหอม ต่างก็ได้กลิ่นหอมตลบอบอวลที่เจือปนไปด้วยกลิ่นจางๆของดอกไม้หลากหลายชนิด ราวกับเดินหลงเข้าไปในโลกเทพนิยาย
“ตอนนี้ใครใช้ห้องนี้อยู่เหรอ?” นักปรุงน้ำหอมที่เลิกงานแล้วต่างพากันหยุดเดิน พร้อมกับทำการคาดเดา
น้ำหอมเหมือนจะเป็นแค่ผลิตภัณฑ์ทดลอง แต่ผลิตภัณฑ์ทดลองสามารถมีหลายระดับได้ขนาดนี้เลยเหรอ........
ถ้าเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปอย่างสมบูรณ์ต้องหอมจนน่าทึ่งมากแน่ๆ
พนักงานคนก่อนหน้านี้ไม่มีความรู้เรื่องน้ำหอมเท่าไหร่ เมื่อได้ยินนักปรุงน้ำหอมในบริษัทเอ่ยชื่นชมแบบนี้ ก็แอบสะท้านใจ “ผู้ช่วยแอนกำลังใช้อยู่ค่ะ”
“ผู้ช่วยแอน?”
“ผู้ช่วยแอนที่อ่อยประธานลี่เพื่อหวังขึ้นเตียงกับเขาคนนั้นน่ะเหรอ?”
“ทำไมฉันได้ยินว่าผู้ช่วยแอนอะไรนั่น มีผู้ชายในบริษัทแอบชอบเธอเยอะมากเลยล่ะ”
ชั่วขณะ ทุกคนก็จับกลุ่มเม้าท์กัน
ภายในห้อง สวี่รั่วฉิงที่ทดลองผลิตภัณฑ์สำเร็จ กลับขมวดคิ้วมุ่น
กลิ่นมันไม่เหมือนที่เธอจินตนาการเอาไว้เลย
เธออยากปรุงกลิ่นที่สามารถทำให้คมดมรู้สึกได้ถึงเวลาที่กำลังเดินผ่านไปและช่วงเวลาในอดีต
สวี่รั่วฉิงเก็บโต๊ะทดลองเรียบร้อย ก็หยิบน้ำหอมที่ทำการทดลองเอากลับบ้านไปด้วย
เขาครุ่นคิดอยู่สักพัก ก็พูดเสียงทุ้มลึกว่า “ส่วนผสมไม่เลวเลย แต่ว่ากลิ่นที่ชวนให้ติดใจยังเบาบางเกินไป ถ้าเป็นสามีภรรยาฮิลล์ ก็คงไม่หยิบน้ำหอมตัวนี้ติดมือไปแน่”
“อย่างนี้นี่เอง” สวี่รั่วฉิงเก็บน้ำหอมกลับมาที่โต๊ะของตัวเอง แล้วเริ่มขบคิด
ลี่ถิงเซิ่งคิดเหมือนเธอเลยว่ากลิ่นที่ชวนให้ติดใจมันเบาบางเกินไป สำหรับคนที่มีประสาทสัมผัสไวในด้านดมกลิ่น น้ำหอมที่กลิ่นไม่ค่อยชวนให้ติดใจไม่สามารถส่งผลต่อความรู้สึกได้หรอก และไม่สามารถทำให้รู้สึกเต็มอิ่มกับความเพลิดเพลินได้แน่ๆ
ไม่นานสวี่รั่วฉิงก็จมอยู่กับงาน เธอเริ่มปรับแก้ส่วนประกอบน้ำหอมใหม่อีกครั้ง
ลี่ถิงเซิ่งหรี่ตาลง ดวงตาเปี่ยมไปด้วยความชื่นชม
หลังจากทำงานหามรุ่งหามค่ำ ตกดึกลี่ถิงเซิ่งก็กลับมาที่คฤหาสน์ เขาถอดเสื้อสูทออก ในตอนที่กำลังเดินไปที่ห้องหนังสืออย่างเคยชิน เสียงอ่อนหวานของหญิงสาวก็เรียกเขาเอาไว้ “ถิงเซิ่ง เรามาคุยกันสักหน่อยได้ไหม?”
สวี่รั่วยีมองมาผู้ชายตรงหน้าอย่างกล้าๆกลัวๆ
หลังจากที่เธอขอโทษแอนนา เธอก็ไม่ได้เห็นถิงเซิ่งที่บ้านเลยสักครั้ง
เพราะกลัวว่าจะทำให้ลี่ถิงเซิ่งโกรธ เธอจึงทำได้แค่โทรไปถามหลี่อาน
แต่คำตอบที่หลี่อานตอบกลับมามีแต่ “ประธานลี่กำลังยุ่งอยู่กับงาน ต้องขอโทษด้วยนะครับ”
เป็นตั้งประธานบริษัท จะยุ่งอะไรนักหนา!
สวี่รั่วยีไม่เชื่อ วันนี้เธอได้รู้ข่าวจากทางตระกูลสวี่ ว่าสามีภรรยาฮิลล์กำลังมาเยือนเมืองหลินชวน และลี่ถิงเซิ่ง ก็นัดพบปะกับสามีภรรยาฮิลล์ในวันเสาร์หน้า
เธอว่าจะถือโอกาสนี้ให้ลี่ถิงเซิ่งพาเธอไปงานด้วย
เพราะถึงยังไงเธอก็เป็นคู่หมั้นของลี่ถิงเซิ่ง คู่ควงในคืนนั้น แน่นอนว่าควรเป็นเธอ!
เมื่อดวงตาเรียบนิ่งของลี่ถิงเซิ่งกวาดมองใบหน้าอ่อนหวานของสวี่รั่วยี เขาก็ขมวดคิ้วมุ่น
สักพัก เขาก็เดินไปนั่งที่โซฟาอย่างสบายใจ
แขนวางเรียวยาวไว้บนหัวเข่า พร้อมกับขยับริมฝีปากพูดว่า “สวี่รั่วยี คุณคิดจะทำอะไรอีก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ