บทที่ 8 กลิ่นน้ำหอมที่คุ้นเคย
“ผู้ช่วยหลี่ ยังมีเรื่องอะไรอย่างอื่นที่จะต้องบอกกับฉันอีกไหมคะ? ถ้าไม่มีแล้ว ก็บอกฉันด้วยว่างานของฉันในวันนี้จะต้องทำยังไง แล้วห้องทำงานอยู่ที่ไหน” สวี่รั่วฉิงกะพริบตาปริบๆ แสร้งทำเป็นไม่เห็นท่าทางเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนั้นของหลี่อาน
พอหลี่อานตั้งสติกลับมาได้ ก็พาสวี่รั่วฉิงมาที่ห้องทำงานของเธอ ซึ่งก็อยู่ข้าง ๆ ห้องทำงานประธานของลี่ถิงเซิ่ง
“ผู้ช่วยแอน ต่อไปที่นี่ก็จะเป็นห้องทำงานของคุณ วันนี้คุณลองศึกษาคุ้นเคยกับขั้นตอนการทำงานดูก่อน ผมได้สรุปนิสัยและความชอบของประธานลี่ไว้แล้ว และก็วางอยู่บนโต๊ะของคุณ ในระหว่างที่ทำงานจะต้องหลีกเลี่ยงของที่ประธานลี่ไม่ชอบให้หมด ไม่งั้นคุณจะต้องโดนไล่ออกแน่!”
สวี่รั่วฉิงพยักหน้า เพื่อแสดงให้เห็นว่าตัวเองจะต้องดูบันทึกความชอบของประธานลี่ดี ๆ ให้หมดอย่างแน่นอน และจะจดจำไว้ในใจ
หลังจากที่ส่งหลี่อานจากไปแล้ว สวี่รั่วฉิงก็มองดูเอกสารอย่างหนาฉบับหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับความชอบของลี่ถิงเซิ่งที่วางอยู่บนโต๊ะ แล้วก็แบะปากอย่างหมดคำพูด
เธอเอาเอกสารเลื่อนไปไว้อีกข้างหนึ่ง แล้วก็แกะพัสดุออก ข้างในเป็นตัวอย่างน้ำหอมที่สวี่รั่วยีส่งมาพอดี
ในฐานะที่เป็นนักปรุงน้ำหอม สวี่รั่วฉิงมีความภาคภูมิใจของตัวเอง นั่นก็คือจะไม่มีทางเลียนแบบน้ำหอมของคนอื่นอย่างแน่นอน
ถ้าหากว่าน้ำหอมที่สวี่รั่วยีส่งมา เป็นของที่บุคคลผู้มีชื่อเสียงทำขึ้นมาแล้วละก็ ถึงเธอจะเก็บเงินของสวี่รั่วยีมาแล้ว และอยากจะแก้แค้นสวี่รั่วยี แต่ก็จะไม่มีทางอนุญาตให้ตัวเองทำผิดหลักมนุษยธรรมแน่
สวี่รั่วฉิงเปิดน้ำหอมออก แล้วดมดูเบา ๆ ทีหนึ่ง
ชั่วขณะหนึ่ง ดวงตาที่เต็มไปด้วยความสว่างสดใสของเธอ แต่ม่านตากลับหดขึ้นทีหนึ่ง
กลิ่นแบบนี้!
สวี่รั่วฉิงกลัวว่าการประสาทสัมผัสกลิ่นของตัวเองจะผิดพลาดไป และลองตั้งสมาธิ แล้วสูดดมกลิ่นเบา ๆ อีกครั้ง
คิ้วเรียวยาวขมวดขึ้นอย่างไม่รู้ตัว ใบหน้าที่สวยงามเรียวเล็กราวเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้นมา
ตัวอย่างน้ำหอมที่สวี่รั่วยีส่งมานี้ เป็นน้ำหอมที่เมื่อหลายปีก่อนตอนที่เธออยู่ที่บ้านนอกกับแม่บ้านหวัง แล้วแม่บ้านหวังปรุงขึ้นมาให้เธอโดยเฉพาะพอดี
ขอแค่สูดดมเบา ๆ ทีหนึ่ง จิตใจก็จะได้รับการผ่อนคลาย
ก่อนที่จะกลับบ้านตระกูลสวี่นั้น แม่บ้านหวังตั้งใจเตรียมไว้ให้เธอหลายขวด
สวี่รั่วฉิงคิดว่าน้ำหอมเหล่านั้นเป็นของมีค่ามาก แต่ว่าตามที่โดนสวี่รั่วยีทำร้าย ถ้าไม่เกินความคาดหมายแล้วละก็น้ำหอมเหล่านั้นที่แม่บ้านหวังทำให้เธอ ก็คงจะตกไปอยู่ในมือของสวี่รั่วยีแล้ว
หลายปีมานี้ คาดว่าสวี่รั่วยีคงจะใช้น้ำหอมจนหมดแล้ว แต่ว่ายังคงลุ่มหลงอยู่กับกลิ่นนี้อยู่ เพราะฉะนั้นจึงได้แต่ต้องมาขอความช่วยเหลือกับนักปรุงน้ำหอมที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่างแอนนา
สวี่รั่วยีไม่ได้เป็นคนโง่ ตอนนี้บนโลกใบนี้คนที่จะสามารถปรุงน้ำหอมกลิ่นนี้ออกมาได้ ก็มีแต่แอนนาเท่านั้นแล้ว
แต่ว่าสวี่รั่วยีฝันก็คงจะคิดไม่ถึงหรอกว่า นักปรุงน้ำหอมที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่างแอนนาจะเป็นพี่สาวสวี่รั่วฉิงที่เธอทำร้ายไปเมื่อหลายปีก่อนได้!
ในดวงตาที่สว่างสดใสของสวี่รั่วฉิงมีแสงเย็นยะเยือกกะพริบผ่านไปอย่างรวดเร็วทีหนึ่ง
เธอเปิดโน้ตบุ๊คออก แล้วก็หาอีเมลของสวี่รั่วยีขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
“ฉันได้รับตัวอย่างน้ำหอมแล้ว คุณสวี่ต้องการให้ฉันปรุงกลิ่นตามตัวอย่างทุกอย่างเลยไหม?”
มุมปากของสวี่รั่วฉิงมีรอยยิ้มที่เหมือนยิ้มแล้วก็ไม่ยิ้มแฝงอยู่
สวี่รั่วยีขอให้เธอช่วยปรุงน้ำหอมที่เหมือนกับเปี๊ยบ จะต้องไม่ใช่เพื่อเอาไปใช้เองง่าย ๆ แบบนั้นแน่
แล้วความคาดเดาของสวี่รั่วฉิงก็ได้รับการยืนยันอย่างรวดเร็ว
สวี่รั่วยีพูดกลับมาในอีเมลตอบกลับว่า “ใช่ จะต้องให้มีผลที่พอผู้ชายได้กลิ่นแล้วก็จะรู้สึกผ่อนคลายและนอนหลับได้นะ”
ผู้ชายเหรอ? ครู่เดียวสวี่รั่วฉิงก็จับใจความสำคัญได้แล้ว
ผู้ชายที่สามารถทำให้สวี่รั่วยียอมเสียเงินมากมายและรีบมาให้ตัวเองช่วยปรุงน้ำหอมให้ จะต้องเป็นลี่ถิงเซิ่งแน่
สวี่รั่วฉิงยิ้มเย็นออกมาจนมีเสียง
น้องสาวของเธอ เพื่อที่จะให้ได้เป็นคุณนายน้อยลี่ ก็ใช้ใจไปไม่น้อยเลยเหมือนกัน
ในเมื่อรู้เป้าหมายที่สวี่รั่วยีให้ตัวเองปรุงน้ำหอมให้แล้ว เธอก็ไม่รังเกียจหรอกที่จะให้สวี่รั่วยีได้ลองลิ้มลองว่าอะไรคือความรู้สึกที่โดนคนอื่นหลอกไปขายแล้วยังมาช่วยเขานับเงินอีก
……
หัวคิ้วคมคายขมวดเข้าหากัน กลิ่นนี้ทำให้ความคิดที่กำลังวุ่นวายอยู่ของเขาสงบลงมาทันที และยังมีความรู้สึกอย่างหนึ่งที่ทำให้เขาอยากจะนอนหลับลึก ๆ ไปมากเลยขึ้นมา
“คุณใช้น้ำหอมอะไร?” ลี่ถิงเซิ่งถามขึ้นอย่างไม่จำเป็นต้องวิเคราะห์เลย
สวี่รั่วฉิงอึ้งไปเล็กน้อย
นี่ก็เป็นปัญหาด้วยเหรอ? ที่ลี่ถิงเซิ่งเรียกเธอมาก็เพราะว่าจะถามเธอว่าใช้น้ำหอมอะไรงั้นเหรอ?
ปากแดงระเรื่อของสวี่รั่วฉิงขยับขึ้นเบา ๆ ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความอ่อนโยนและความมีเสน่ห์ที่อธิบายไม่ชัดอย่างหนึ่งอยู่ “ประธานลี่ คุณนี่พูดคำพูดอะไรกัน ฉันเป็นนักปรุงน้ำหอม น้ำหอมที่ใช้ก็ต้องเป็นน้ำหอมที่ตัวเองปรุงขึ้นมาอยู่แล้วซิ”
หัวคิ้วของลี่ถิงเซิ่งขมวดกันมากยิ่งอีก กลิ่นน้ำหอมบนตัวสวี่รั่วฉิง ทำให้เขามีความรู้สึกเหมือนคุ้นเคยอยู่อย่างหนึ่ง
ชั่วขณะหนึ่ง เขานึกไม่ออกว่าตกลงเคยได้กลิ่นแบบนี้มาจากที่ไหน
และอย่างรวดเร็ว ลี่ถิงเซิ่งก็ผ่อนคลายหัวคิ้วออก ทั้งสองมือประสานเข้าด้วยกัน “เมื่อวานตอนที่คุณมาสมัครงานได้พูดถึงสองสามีภรรยาฮิลล์ และบอกว่าจะสามารถทำให้ลี่ซื่อกรุ๊ปร่วมงานกับสองสามีภรรยาฮิลล์ได้”
พอสวี่รั่วฉิงเห็นว่าลี่ถิงเซิ่งไม่ได้ไล่ถามต่อ ก็ค่อยโล่งใจไปได้เปลาะหนึ่ง
ที่เธอสามารถประสบผลสำเร็จได้อย่างตอนนี้ นอกเหนือจากพรสวรรค์แล้ว ก็ยังมีการชี้แนะที่ผ่านมาของแม่บ้านหวังด้วย
ถ้าหากสวี่รั่วยีใช้พวกน้ำหอมไม่กี่ขวดที่แม่บ้านหวังให้ตัวเองอยู่บ่อย ๆ จริงละก็ บางทีลี่ถิงเซิ่งอาจจะดมออกว่ากลิ่นน้ำหอมบนร่างกายตัวเองเหมือนกับกลิ่นน้ำหอมของสวี่รั่วยีเป็นอย่างมาก
ยังดีที่ลี่ถิงเซิ่งไม่ได้ถามต่อ สวี่รั่วฉิงยิ้มขึ้นเล็กน้อย แล้วตอบปัญหาของลี่ถิงเซิ่งอย่างค่อยเป็นค่อยไป “ใช่ค่ะท่านประธานลี่ ฉันเคยพูดไว้ว่าจะสามารถช่วยคุณให้ได้ร่วมงานกับสองสามีภรรยาฮิลล์”
ลี่ถิงเซิ่งไม่ใช่ผู้ชายที่จะหลอกลวงได้ง่าย ๆ ตั้งแต่ที่เขารับช่วงลี่ซื่อกรุ๊ปมา ใช้เวลาไม่กี่ปีสร้างอาณาจักรธุรกิจอันหนึ่งขึ้นมาได้ ก็มากพอที่จะทำให้เห็นถึงพรสวรรค์และความกล้าหาญของเขาแล้ว
สวี่รั่วฉิงพูดขึ้นอย่างมั่นใจในตัวเองว่า “สองสามีภรรยาฮิลล์มีความสนใจในน้ำหอมมากเป็นพิเศษมาตลอด และในขณะเดียวกันแบรนด์ซิลวี่ก็เป็นหนึ่งในแบรนด์เสื้อผ้าที่ใหญ่ที่สุดของโลก ถ้าอยากจะร่วมงานกับสองสามีภรรยาฮิลล์ ก็สามารถเริ่มต้นจากสองจุดนี้ก่อน เอาเสื้อผ้าและน้ำหอมมาผสมผสานให้เข้ากันอย่างสมบูรณ์แบบ”
พูดแล้ว สวี่รั่วฉิงก็ลุกขึ้นยืน แล้วค่อย ๆ เดินไปที่โต๊ะ ดวงตาที่สว่างสดใสและบริสุทธิ์คู่หนึ่ง จ้องมองเจ้านายตัวเองจากที่สูงลงที่ต่ำ
“และฉัน สามารถปรุงน้ำหอมที่พวกเขารักมากที่สุดออกมาได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ