“นี่.....ข้า....”
สีหน้าเฉินต้าจ้วงตื่นเต้น อ้ำๆอึ้งๆพูดอะไรไม่ออกอยู่นาน จนสีหน้าเฉินต้าจ้วงแดงหมดแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงแทบอยากที่จะช่วยเฉินต้าจ้วงพูดออกมา
แต่นางไม่ใช้พยาธิในใจเฉินต้าจ้วง ช่วยไม่ได้ ดังนั้นจึงได้แต่นั่งเงยหน้ามองดูเฉินต้าจ้วงอยู่ตรงนั้น อดทนรอเขาพูดออกมา
“พวกเจ้ากำลังทำอะไรอยู่?”
เสียงทุ้มเสียงหนึ่งดังขึ้น
ลั่วเสี่ยวปิงหันกลับมามอง กลับเห็นฉีเทียนเห้าอุ้มเล่อเล่อไว้ข้างมือ ด้านข้างมีอานอานเดินตาม กำลังเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
อือ?
สีหน้าแย่ขนาดนี้ ใครหาเรื่องเขาหรือ? สีหน้าลั่วเสี่ยวปิงมึนงง
ส่วนฉีเทียนเห้า หลังจากเห็นสายตามึนงงของลั่วเสี่ยวปิง เดิมตอนที่เข้ามาแล้วเห็นเฉินต้าจ้วงหน้าแดงราวกับกำลังจะสารภาพรักลั่วเสี่ยวปิงแล้วโกรธจัดนั้นก็จางหายลง
ผู้หญิงคนนี้ ช่าง....
สายตาฉีเทียนเห้าที่มองดูลั่วเสี่ยวปิงค่อนข้างไม่รู้จะพูดยังไง แต่สายตาที่กวาดมองเฉินต้าจ้วงนั้นเฉียบคมยิ่งนัก
ในใจเฉินต้าจ้วงสั่นกระตุก ตกใจจนรีบก้มหน้าก้มตา ไม่กล้ามองฉีเทียนเห้าอีก
ฉีเทียนเห้าทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น อุ้มเล่อเล่อไปด้านข้างลั่วเสี่ยวปิง ภาพครอบครัวสามพ่อแม่ลูกพร้อมหน้าพร้อมตากัน แลดูกลมกลืนกันมาก ราวกับบุคคลไม่สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมได้
อานอานมองดูการกระทำของฉีเทียนเห้า ก็แอบเม้นริมฝีปากเล็กน้อย ในใจพูดขึ้นว่า ปัญญาอ่อน
“แม่” หลังจากอานอานพูดว่าฉีเทียนเห้าเสร็จ ก็เดินมานั่งด้านข้างลั่วเสี่ยวปิงอย่างว่าง่าย ไม่แม้แต่จะมองฉีเทียนเห้าอีก แต่ภาพครอบครัวสามพ่อแม่ลูกพร้อมหน้าพร้อมตากันกลายเป็นสี่พ่อแม่ลูกพร้อมหน้าพร้อมตากัน ยังคงแลดูกลมกลืนกันมาก
เฉินต้าจ้วงมองดูภาพนี้ ในใจค่อนข้างผิดหวังเล็กนี้ แต่ไม่นานก็หายแล้ว
สำหรับลั่วเสี่ยวปิง เขาไม่กล้ามีความคิดอย่างอื่น
แน่นอน เมื่อก่อนเขาเคยคิด
แต่นั่นก็เป็นเพราะลั่วเสี่ยวปิงใจดีมีเมตตา บวกกับเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่มีแผลเป็นและบนใบหน้ามีแผลเป็น
ในขณะที่มีสภาพแย่เหมือนกัน อีกฝ่ายก็นิสัยดี ยังมีบุญคุณที่ช่วยชีวิตแม่ของตนไว้ เฉินต้าจ้วงมีความคิดเป็นอื่นก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ
ยังไงก็มีลั่วเสี่ยวเหมยเป็นบทเรียน ผู้หญิงในสายตาเฉินต้าจ้วง ไม่กล้ามองรูปลักษณ์ภายนอกอีก ต้องดูนิสัยเป็นหลัก
และลั่วเสี่ยวปิงในตอนนี้ เฉินต้าจ้วงไม่กล้ามีความคิดเป็นอื่นอีก
เฉินต้าจ้วงที่รู้ตัวเองดี ไม่ช้าก็เอาความคิดอื่นโยนทิ้งไป อาจเป็นเพราะมีพวกฉีเทียนเห้ามา ไม่ต้องเผชิญหน้ากับลั่วเสี่ยวปิงตามลำพัง ดังนั้นต่อให้เฉินต้าจ้วงค่อนข้างกลัวฉีเทียนเห้า แต่ก็ไม่มีความตื่นเต้นเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว
“น้องเสี่ยวปิง ได้ยินว่าเจ้าอยากปลูกผักนอกฤดู?” เฉินต้าจ้วงพูดถึงจุดประสงค์ที่ตนเองมา
อือ?
ลั่วเสี่ยวปิงตกตะลึง ไม่คิดว่าที่เฉินต้าจ้วงมาหาตนเอง เพราะเรื่องนี้
แต่เรื่องที่นางจะปลูกผักนอกฤดูก็ไม่ใช่ความลับ หมู่บ้านเฉินเจียก็อยู่ใกล้ เฉินต้าจ้วงรู้เรื่องนี้ก็ไม่ถือว่าแปลก
แต่การที่เฉินต้าจ้วงมาถามตนเองนั้น ค่อนข้างแปลก
เห็นลั่วเสี่ยวปิงพยักหัว สีหน้าเฉินต้าจ้วงตื่นเต้นเล็กน้อย พร้อมพูดขึ้นว่า “น้องเสี่ยวปิง ไม่รู้ว่าบ้านข้าเข้าร่วมด้วยได้ไหม? ข้าปลูกกับเจ้าด้วย”
พูดพร้อมกับกลัวว่าลั่วเสี่ยวปิงไม่ตอบตกลง เฉินต้าจ้วงรีบพูดเสริมขึ้นว่า “น้องเสี่ยวปิง ข้ากับแม่มีประสบการณ์ในการปลูกผัก ขอเพียงบอกพวกเราว่าปลูกยังไง พวกเราทำได้ไม่น้อยหน้าคนอื่นแน่นอน”
ดูท่าทีแล้ว เฉินต้าจ้วงแลดูมั่นใจในการปลูกพืชผักมาก
เห็นเฉินต้าจ้วงมาคุยเรื่องงานกับลั่วเสี่ยวปิง ฉีเทียนเห้าค่อยวางใจ และไม่อยู่นาน พาลูกทั้งสองคนเข้าบ้านไป
รอสามพ่อลูกไปแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงค่อยถามคำถามที่ตนข้องใจขึ้นมาว่า “พี่ต้าจ้วงไม่ไปทำงานกับลุงเฉินหรือ?”
“ไม่เพียงเจ้า ยังมีคนในหมู่บ้านของเจ้า ใครอยากปลูกพืชผักนอกฤดูกับข้า ล้วนสามารถมาทำสัญญาได้ แต่....”
สีหน้าลั่วเสี่ยวปิงจริงจัง มองดูเฉินต้าจ้วงอย่างเคร่งขรึม พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าต้องรู้ว่า การปลูกผักในฤดูหนาวยังไม่มีคนเคยลอง จะทำกับข้า อาจจะเหนื่อยเปล่าทั้งฤดูหนาว”
นางมีความรู้ทางทฤษฎี นางก็สามารถให้เมล็ดพันธุ์อย่างดีที่ผ่านกระบวนการสเพซน้ำแร่วิญญาณ แต่อากาศฟ้าดินไม่สามารถกำหนดได้ นางไม่สามารถรับประกันรายได้ที่มั่นคง
อีกอย่างนางบอกว่าอาจจะเหนื่อยเปล่าทั้งฤดูหนาว แต่ไม่ได้บอกว่าพวกเขาจะขาดทุน
นางคิดดูแล้ว การลงทุนในเริ่มแรกนางสามารถช่วยได้
ผลกำไรจากการเก็บเกี่ยว นางจะพูดรับประกันไม่ได้
จากนั้นเฉินต้าจ้วงฟังคำพูดของลั่วเสี่ยวปิงแล้ว กลับไม่มีท่าทีที่จะล้มเลิกความตั้งใจ แลดูตื่นเต้นดีใจเสียมากกว่า
“น้องเสี่ยวปิง เจ้ายอมตกลงก็ดีที่สุดแล้ว ข้าขอบคุณเจ้าแทนพวกชาวบ้านด้วย” เฉินต้าจ้วงตื่นเต้นดีใจจนหน้าแดง
เขาคิดไม่ถึงว่าลั่วเสี่ยวปิงจะคิดสนับสนุนคนในหมู่บ้านของเขา ถือเป็นข่าวดีอย่างมาก
ลั่วเสี่ยวปิง “…..” เรื่องนี้ยังไม่ประสบความสำเร็จเลย ทำไมถึงขอบคุณแล้วล่ะ
“อะแค่ก….” ลั่วเสี่ยวปิงไอขึ้นมาเล็กน้อย ตัดทอนความตื่นเต้นดีใจของเฉินต้าจ้วง พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้ายังไม่ได้กลับไปถามคนในหมู่บ้าน ยังไม่ต้องรับปากอะไรก็ได้”
ยังไงคนในหมู่บ้านของตนก็มีเพียงครอบครัวผู้ใหญ่บ้านที่ยอมทำร่วมกับนาง หมู่บ้านเฉินเจียก็อาจเป็นเช่นนี้
อีกอย่าง “ยังมีสิ่งที่ข้าพูด ทำงานร่วมกับข้าอาจมีความเสี่ยง….” นางยังสงสัยเฉินต้าจ้วงมองข้ามความเสี่ยงที่นางพูดขึ้นมาหรือเปล่า
“แม่ข้าบอกว่าน้องเสี่ยวปิง เป็นคนมีความคิดเป็นของตนเอง สิ่งที่คิดจะทำจะต้องไม่ผิดแน่” เฉินต้าจ้วงพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจังว่า “อีกอย่าง คนในหมู่บ้านของพวกเราตอนนี้ ในมือพอมีเงินอยู่บ้างก็ล้วนเป็นเพราะน้องเสี่ยวปิง ต่อให้ขาดทุนแล้วไง?”
ลั่วเสี่ยวปิงสร้างบ้าน ทำให้คนหมู่บ้านเฉินเจียต่างได้มีเงินใช้อยู่บ้าง
ลั่วเสี่ยวปิง “….” นางคิดไม่ถึงว่าตนเองจะสามารถได้แฟนคลับตัวยงอย่างแม่ของเฉินต้าจ้วง และคำพูดของเฉินต้าจ้วง นางไม่รู้จะเถียงยังไงด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...