แพทย์หญิงข้ามภพ นิยาย บท 3

ชาวบ้านโดยรอบมองเหยาชิงหลีเหมือนกับว่าเห็นผีก็ไม่ปาน ต่างพากันตกตะลึงกันไปเป็นแถบ ๆ!

ในฐานะที่เป็นลูกสาว เหยาชิงหลีไม่เพียงแต่ต่อล้อต่อเถียงเหยาติ่งผู้เป็นพ่อเท่านั้น แต่ยังเอ่ยปากดูถูกเหยียดหยามเขาอีกด้วย ช่างเนรคุณยิ่งนัก!

“เจ้า!” เหยาติ่งเองก็ตะลึงไม่แพ้กัน เขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ “กล้าดียังไง...”

“ข้าพูดผิดตรงไหน?” เหยาชิงหลียังคงพูดต่อ “ในตอนนั้นท่านไม่มีอะไรเลยด้วยซ้ำ แม้แต่จะสอบเข้าเป็นจิ้นชื่อก็ยังก็สอบไม่ผ่าน ถ้าหากไม่ใช่เพราะท่านแม่ของข้ายอมแต่งงานกับบัณฑิตจน ๆ อย่างท่าน ท่านจะมีวันนี้อย่างนั้นหรือ? ถ้าไม่ใช่ท่านตาของข้าให้เงินทุนแก่ท่านเพื่อสร้างเนื้อสร้างตัว และยังช่วยแนะนำท่านให้ได้เป็นข้าราชการ คอยสนับสนุนท่านทุกย่างก้าว และปูเส้นทางราชการให้แก่ท่าน ตัวท่านจะมีบ้านเรือนใหญ่โตอาศัยอยู่อย่างตอนนี้งั้นหรือ? มีอนุอันงดงามได้กอดเช่นนี้งั้นหรือ? มีข้ารับใช้ให้เรียกใช้ทุกที่เช่นนี้งั้นหรือ? ”

ทุกคำที่เหยาชิงหลีพูดทำให้ใบหน้าของเหยาติ่งเขียวปั๊ดไปครู่หนึ่ง เพราะมันเป็นเรื่องราวในอดีตที่เขาไม่อยากเอ่ยพูดถึงมากที่สุด...

ชาวบ้านโดยรอบมองไปที่เหยาติ่งด้วยความประหลาดใจ คาดไม่ถึงว่ายังมีเรื่องแบบนี้อยู่ด้วย?

ตลอดเวลาที่ผ่านมา พวกเขารู้แค่เพียงว่าตระกูลเหยาเป็นตระกูลชนชั้นสูง และท่านเลขาธิการเหยาก็เป็นขุนนางสำคัญขั้นสองที่มีตำแหน่งสูงในราชสำนัก เป็นคนระดับสูงในกลุ่มชนชั้นสูง และเป็นหัวหน้าตระกูลผู้สูงส่งที่ไม่สามารถเอ่ยด้วยได้

คิดไม่ถึงเลยว่า เมื่อก่อนเขาก็เป็นแค่บัณฑิตจน ๆ คนหนึ่ง ที่แม้แต่สอบเข้าจิ้นชื่อก็ยังสอบไม่ผ่าน!

เหตุผลที่ร่ำรวยก็เป็นเพราะเกาะผู้หญิงกิน ได้แต่งงานกับคุณหนูผู้ร่ำรวย! ถึงได้เป็นขุนนาง และที่ไต่เต้าขึ้นไปเรื่อย ๆได้ ล้วนแต่เป็นเพราะอาศัยการเกาะชายกระโปรงของคุณหนูผู้ร่ำรวยผู้นั้น

และหญิงสาวชนชั้นสูงที่มีบุญคุณต่อเขาท่วมหัวเช่นนี้ คาดไม่ถึงว่าจะเป็นมารดาผู้ให้กำเนิดเหยาชิงหลีงั้นหรือ?

เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาที่ดูถูกเหยียดหยามและอยากรู้อยากเห็นมองมาที่เขา เหยาติ่งก็มีสีหน้าเขียวสลับดำไปมา ในใจรู้สึกอัดอั้นไปด้วยความโกรธ

“เหอะ ๆ ตอนนี้ได้ดีแล้ว ผลักดันท่านจนยืนได้ด้วยตัวเองและประสบความสำเร็จจนมีชื่อเสียง แต่ทว่าท่านแม่ของข้ากลับมาตายไปอย่างน่าประหลาดใจ! และตอนนี้ข้าก็ยังมาเสียชื่อเสียงในชั่วข้ามคืนอีก” เหยาชิงหลีมองเขาด้วยแววตาที่มีความนัยลึกซึ้ง

เหยาติ่งทำสีหน้าอึมครึมและพูดด้วยเสียงสั่นคลอนว่า “เจ้าหมายความว่าอะไร? หืม? เฉียวซื่อสำหรับข้าแล้ว...ข้าไม่เคยลืมนางเลย นางยังเป็นภรรยาที่ข้ารักอย่างลึกซึ้งเสมอมา ที่เจ้าชื่อเสียงเสื่อมเสีย นั่นเป็นเพราะตัวเจ้าทำตัวของเจ้าเอง เฉียวซื่อเป็นคนดีมีเมตตาและรู้จักมารยาทมากที่สุด อีกทั้งยังเป็นคนรักเกียรติรักศักดิ์ศรี ไม่ชอบคนเหลาะแหละและเสเพลอย่างมาก ส่วนเจ้า...ในฐานะที่เป็นลูกสาวของนาง กลับทำตัวเองตกต่ำ! ทำในสิ่งที่นางเกลียดชัง! ถ้าหากนางยังมีชีวิตอยู่ เมื่อคืนนี้คงจับเจ้าถ่วงน้ำไปนานแล้ว!”

“เมื่อวานพอรู้ว่าเจ้าให้กำเนิดลูกออกมาทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้แต่งงาน คนทั้งตระกูลต่างอยากจับเจ้าถ่วงน้ำ แต่นายท่านเห็นแก่ท่านพี่ที่เสียชีวิตไปแล้ว...จึงละเว้นชีวิตเจ้าเอาไว้” เกาซื่อก้าวออกมาข้างหน้าด้วยดวงตาแดงก่ำ

ผู้คนที่มุงดูต่างพยักหน้า “ท่านเลขาธิการเหยามีเมตตามากแล้ว”

“คนไร้ยางอายเช่นนาง ผู้หญิงที่สำส่อนแอบไปมีความสัมพันธ์กับชายไม่รู้หัวนอนไปเท้าอย่างนี้ ถ้าหากเป็นบ้านอื่นคงจับใส่เล้าหมูถ่วงน้ำไปนานแล้ว”

เหยาชิงหลีหัวเราะอย่างเย้ยหยัน “ข้าแอบไปมีความสัมพันธ์กับชายที่ไหนก็ไม่รู้งั้นหรือ? เหยาติ่ง นี่คือข้อหาที่ท่านยัดให้ข้าใช่หรือไม่?”

“คุณหนูของข้าไม่ได้ไปแอบมีความสัมพันธ์กับชายคนไหน!” ชิวอวิ๋นถูกซย่าเอ๋อร์พยุงลุกขึ้นมาแล้ว และนางก็พูดด้วยความตื่นตระหนก “คุณหนูของเราไปไหว้พระที่สำนักชี แต่กลางดึกกลับถูกคนลอบทำร้าย...ฮือ...”

ทุกคนต่างสบตากันไปมา ส่วนเหยาชิงหลีก็มองเกาซื่อด้วยสายตาเย็นชา “ในปีนั้นก็เป็นเพราะท่านแม่นั่นแหละที่พูดดันทุรังให้ข้าไปที่วัดซวีเย่ว์”

“อะไรนะ?” ชิวอวิ๋นร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ จากนั้นก็จ้องไปที่เกาซื่อ “ที่แท้เป็นท่าน! เป็นท่านที่จ้างคนมาทำลายความบริสุทธิ์ของคุณหนูเรา!”

คนโดยรอบมองหน้ากันไปมา

“เจ้า...” เกาซื่อมองไปที่เหยาชิงหลีด้วยสีหน้าเหลือเชื่อและมีน้ำตาไหลอาบหน้า

“นายหญิง...” แม่นมอูที่อยู่ข้างหลังเกาซื่อรีบเข้ามาประคองนางทันที “ท่านเป็นอะไรเจ้าคะ? ท่านอย่าทำให้ข้าตกใจสิเจ้าคะ?”

“ฮือ...” เกาซื่อยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาปิดหน้าปิดตาตัวเองอย่างมิดชิด และทำท่าทางเศร้าสร้อยมองไปที่เหยาชิงหลีอย่างไม่วางตา “แม้ว่าเจ้าจะไม่ใช่ลูกที่ข้าให้กำเนิด แต่ในเมื่อเจ้าเรียกข้าว่าท่านแม่ ข้าจึง...ปฏิบัติต่อเจ้าเหมือนเป็นลูกแท้ ๆ เสมอมา แต่ตอนนี้เจ้ากลับทำเรื่องแบบนี้...คาดไม่ถึงว่า...”

“คุณหนูใหญ่ ท่านยังมีหัวใจอยู่หรือไม่? นายหญิงก็ดีต่อท่านไม่น้อย! ท่านเป็นเด็กที่หัวช้าไม่ทันคน อยากได้อะไรก็ได้ไม่ทันสักอย่าง พอถึงวัยต้องพูดเรื่องแต่งงาน เหล่าคุณชายชั้นสูงทั้งหลายพอได้ยินว่าเป็นลูกสาวตระกูลเยี่ยก็พยักหน้าอยากแต่งงานด้วย แต่พอได้ยินเป็นว่าคุณหนูใหญ่เยี่ย ทุกคนต่างส่ายหัวและปฏิเสธ นายหญิงจึงไปขอร้องท่านปู่ให้บอกท่านย่า ในที่สุดก็หาคุณชายเหอที่เป็นคนดีเช่นนี้มาแต่งงานด้วย แต่ท่านไม่เพียงทำผิดต่อคุณชายเหอ ตอนนี้ยังทำตัวไม่รู้จักยางอายอีก พอเกิดเรื่องขึ้นยังผลักความรับผิดชอบไปให้นายหญิง กล่าวหานายหญิงว่าทำร้ายท่าน! นายหญิงทำร้ายอะไรท่านงั้นหรือ? ทำร้ายให้ท่านคลอดลูกนอกคอกออกมา อีกทั้งยังแอบซ่อนเอาไว้หรอกหรือ?” แม่นมอูเอ่ย

“ชิชะ...” พอทุกคนได้ยินว่าแอบไปคลอดลูกข้างนอก และยังแอบซ่อนลูกเอาไว้ ต่างพากันอดไม่ได้ที่จะจ้องมองไปที่เหยาชิงหลีด้วยสีหน้าที่รังเกียจ

“ยังมาบอกว่าถูกทำร้ายอีกนะ ดูสิ ท้องลูกนอกคอกแล้วยังไม่ยอมไปกำจัดทิ้ง ยังแอบไปคลอดออกมาแล้วซ่อนเอาไว้อีก? จะต้องมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับชายนั้นเป็นแน่! ก็เป็นแค่หญิงสำส่อนที่แอบมั่วผู้ชาย!”

“ท่านพี่ ท่านมาทำอะไรที่นี่น่ะ?” ในเวลานี้มีเสียงที่บอบบางและอ่อนแอดังขึ้นมาจากในฝูงชน

“เจ้าไปเถอะ!” ในเวลานี้มีน้ำเสียงเย็นชาดังขึ้นมา

ทุกคนต่างมองไปที่คนพูดอย่างหยาติ่งที่อยู่บนบันได เขาสวมเสื้อคลุมขุนนางสีม่วงเข้ม และใบหน้าสง่างามนั้นเต็มไปด้วยความเย็นชา แลดูน่าเกรงขามและทรงเกียรติ แต่สายตาที่มองไปที่เหยาชิงหลีกลับผสมไปด้วยความโศกเศร้าและความโกรธที่ลูกไม่เอาถ่าน

คนทั้งหลายอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา เป็นพ่อที่น่าสงสารจริง ๆ

“เมื่อคืน ในเมื่อข้าละเว้นชีวิตเจ้า...” เหยาติ่งสูดลมหายใจเขาเบา ๆ และพูดอย่างเย็นชา “ตอนนี้ข้าก็ยังคงจะละเว้นชีวิตเจ้า!”

“นายท่าน...” ชิวอวิ๋นพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “อย่างน้อยท่านควรมอบสิ่งของส่วนตัวของคุณหนูใหญ่คือให้นางนะเจ้าคะ!”

เหยาติ่งส่งเสียฮึกฮักขึ้นมา “ของสกปรกที่นางเคยใช้ ข้าได้เผาทิ้งไปหมดนานแล้ว”

“แล้วสินสอดที่นายหญิงเหลือไว้ให้คุณหนูล่ะเจ้าค่ะ!” ชิวอวิ๋นทำสีหน้าเขียวปั๊ดใส่ “นั่นเป็นของที่เหลือไว้ให้คุณหนูนะเจ้าค่ะ”

“ถุย!” เหยาติ่งกลับตะคอกกลับมาด้วยความโกรธ “เฉียวซื่อเป็นคนบริสุทธิ์และสูงส่งมาตลอดถึงแม้นางจะตายจากไป เชื่อว่าวิญญาณของนางในสวรรค์คงไม่ยอมปล่อยให้คนสกปรกอย่างเจ้ามาสัมผัสแตะต้องสิ่งของของนาง นางเป็นภรรยาอันเป็นที่รักของข้า เป็นสะใภ้ของตระกูลเหยาของข้า และเจ้าก็ได้ถูกขับออกจากตระกูลเหยาแล้ว! เจ้าไม่ใช่ลูกสาวของข้าเหยาติ่งผู้นี้อีกแล้วและไม่ใช่ลูกสาวของเฉียวรั่วเหวินอีกต่อไป!”

ดวงตาดุจตาหงส์ของเหยาชิงหลีจ้องมองเหยาติ่งด้วยสายตาเย็นชา และยิ้มอย่างเย้ยหยัน “ขับไล่ข้าออกจากตระกูล? ท่านลองพูดอีกครั้งต่อหน้าทุกคนอีกรอบสิ!”

ใบหน้าชราภาพของเหยาติ่งเคร่งขรึมทันที ไม่รู้ว่าเหยาชิงหลีต้องการจะทำอะไรแผลง ๆ อีก แต่ไม่ว่านางจะทำอะไร เขาเหยาติ่งจะต้องกลัวนางหรือ?

“ก็ได้” เหยาติ่งพูดอย่างเคร่งขรึม “ตอนนี้ข้าเหยาติ่งขอพูดต่อหน้าชาวบ้านทุกคนในเมืองหลวงว่า ข้าได้ขับไล่เหยาชิงหลีออกจากตระกูลแล้ว! ตระกูลเหยาของพวกเราไม่มีลูกสาวนามว่าเหยาชิงหลีอีกต่อไป!”

เดิมทีคิดว่าเหยาชิงหลีจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ไม่คิดว่านางกลับยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นเฉย ๆ และมองไปทางเขาอย่างเย็นชา “เหอะ คำพูดนี้เป็นสิ่งที่ท่านพูดเองนะ ฟ้าดินจงเป็นพยาน ต่อไปข้าเหยาชิงหลีจะไม่มีพ่อแบบท่าน และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลเหยาของท่านอีกต่อไป พวกเราไปกันเถอะ!”

พูดจบนางก็สะบัดแขนเสื้อจากไป

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แพทย์หญิงข้ามภพ