ไซม่อนกล่าวคำพูดโดยไม่สบตา “พี่สะใภ้ฟิโอน่า ถึงแม้ว่าคุณจะปกป้องและยอมรับผิดแทนโฮเวิร์ด ยังไงผมก็จะไม่คืนคำพูดหรอกนะครับ"
“นายไม่เข้าใจที่ฉันพูดเหรอ? ทั้งหมดเป็นฝีมือของฉันเอง! ฉันเป็นคนทำเอง! ฉันไม่ได้ปกป้องโฮเวิร์ดสักหน่อย!"
“แม่ครับ...” โฮเวิร์ดอยากจะห้าม แต่ทว่า ฟิโอน่ากลับตะโกนใส่เขาอย่างโกรธจัด “หุบปากของลูกไปเลย!”
ไซม่อนยังคงนิ่งเฉย ถึงกระนั้น ความเย็นชาในดวงตาของเขายังคงเหมือนเดิม “พี่สะใภ้ฟิโอน่า คุณไม่ใช่พนักงานของบริษัท แต่คุณกลับนำบัญชีของพนักงานไปใช้ อันที่จริง ผมสามารถแจ้งตำรวจในเรื่องนี้ได้เลยนะครับ"
ไซม่อนไม่ได้พยายามทำให้ทั้งสองคนกลัว แต่ฟิโอน่าไม่ควรทำเช่นนี้แต่แรก ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นญาติกันก็ตาม
แต่ถึงกระนั้น ฟิโอน่าก็เริ่มรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย "แต่เรา... เราเป็นญาติกันนะ นายจะเรียกตำรวจมาจับฉันงั้นเหรอ?"
“พี่ฟิโอน่าครับ คุณน่าจะคิดก่อนที่จะทำบ้างนะครับ เพราะผมเองก็มีกิจการและธุรกิจให้ต้องดูแลเหมือนกัน" ไซม่อนดูเป็นชายไร้หัวใจไปแล้ว
“ไซม่อน...” ฟิโอน่าชี้มาที่ไซม่อนอย่างโกรธจัด แต่เธอก็ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้แม้แต่คำเดียว
“ลุงครับ เดี๋ยวผมจะลาออกจากบริษัทเอง ผมจะไม่ก้าวเข้าไปในบริษัทโดยไม่ได้รับอนุญาตจากคุณลุงอีก แต่อย่าแจ้งตำรวจจับแม่ผมเลยนะครับ" แน่นอน โฮเวิร์ดไม่ยอมให้แม่ของตัวเองต้องนอนคุกแน่
“โฮเวิร์ด ลูกกำลังพูดอะไรน่ะ?” ฟิโอน่าตำหนิลูกชายอย่างประหม่าด้วยความตื่นตระหนก โฮเวิร์ดเป็นหลานชายคนโตของตระกูลแซคคารี่ อีกทั้ง เขายังถือหุ้นบางส่วนในบริษัทของครอบครัวเอาไว้ด้วย เขาอาจได้สืบทอดธุรกิจจากไซม่อนในอนาคต เพราะฉะนั้น เขาจะยอมแพ้ง่าย ๆ แบบนี้ได้ยังไงกัน?
“แม่ครับ หรือแม่อยากจะติดคุกแทนล่ะ?”
ฟิโอน่าไม่รู้จะตอบเขาอย่างไร ใครอยากติดคุกบ้างล่ะ?
ทันใดนั้น ฟิโอน่าก็หันไปจ้องไซม่อนที่กำลังเผยท่าทีเย็นชาและไร้ความรู้สึก เธอกล่าวคำพูดอย่างโกรธเคือง “เพราะพี่ชายของเธอไม่อยู่ที่นี่ เธอเลยคิดว่าจะทำอะไรพวกเราสองคนก็ได้ใช่ไหม?"
ดวงตาอันเฉียบคมของไซม่อนเปลี่ยนมาเคร่งขรึม ทว่า ท่าทีของเขายังคงเย็นชาเหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง “พี่ฟิโอน่าครับ ถ้าไม่เห็นแก่พี่ชายที่ล่วงลับไปแล้วของผม ป่านนี้ผมคงโทรเรียกตำรวจไปแล้วแหละครับ"
“นาย... นายหมายความว่ายังไงกัน?”
“พี่สะใภ้เองก็น่าจะรู้ตัวบ้างนะครับว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ ครั้งหน้าอย่าข้ามเส้นกันเลยครับ แล้วก็ก่อนที่จะทำอะไร ช่วยคิดให้ดีก่อนด้วย"
"ทำไมเธอถึงอยู่ที่นี่ได้ล่ะ?" ไซม่อนจ้องรีเบคก้าด้วยสายตาสุดเย็นชา
รีเบคก้าไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดังเลยด้วยซ้ำ เธอตอบกลับด้วยเสียงต่ำ “คุณป้าฟิโอน่าพาฉันมาที่นี่น่ะค่ะ"
“พี่เพเนโลเป้ไม่ชอบให้คนนอกเข้ามาร่วมงานเลี้ยงวันเกิด ผมว่าคุณควรกลับบ้านไปเสียนะ” ทันทีที่ไซม่อนพูดเช่นนั้น เขาก็เดินผ่านรีเบคก้าไป
รีเบคก้ากัดริมฝีปากและมองดูแผ่นหลังอันเย็นชาของไซม่อน เธอรู้สึกเสียใจไม่น้อย
เธออยู่ที่นี่แล้ว ทำไมเธอต้องจากไปด้วยล่ะ?
เมื่อกลับมายังห้องนั่งเล่น ดักลาสและเพเนโลเป้ก็กำลังนั่งรออยู่บนโซฟาแล้ว
ไซม่อนเป็นคนแรกที่กลับมายังห้องนั่งเล่น เพราะฉะนั้น เขาจึงเดินเข้าไปนั่งที่โซฟาด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO