ทว่า ฟิโอน่าเป็นคนแรกที่พยายามทำลายบรรยากาศที่น่าอึดอัดนี้ เธอเผยยิ้มและพูดกับชารอน “กลับมาแล้วเหรอ ชาร์? เธอมาที่นี่เพื่อฉลองวันเกิดของเพเนโลเป้ด้วยรึเปล่า?
เมื่อฟิโอน่าจงใจพูดกับเธอในลักษณะที่แปลกแบบนั้น ชารอนจึงรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว
วันนี้เป็นวันเกิดของเพเนโลเป้งั้นหรือ? ทำไมไซม่อนไม่บอกเธอเลยล่ะ?
“ดูสิ รีเบคก้าทำเค้กมาให้พี่เพเนโลเป้ด้วย ว่าแต่เธอเอาของขวัญอะไรมาล่ะ?" ฟีโอน่าถาม
ชารอนเห็นเค้กขนาดยักษ์บนโต๊ะ รีเบคก้าเป็นคนทำเองหรือ? นั่นหมายความว่ารีเบคก้ารู้อยู่แล้วว่าวันนี้เป็นวันเกิดของเพเนโลเป้งั้นเหรอ?
สรุปแล้ว มีแต่เธอคนเดียวที่ไม่รู้...
ในเวลานี้ ชารอนพลันก็รู้สึกราวกับเป็นคนนอก
ชารอนมองดูเค้กขนาดยักษ์บนโต๊ะ หลังจากนั้น เธอก็ชำเลืองมองไปยังผู้คนที่มาฉลองวันเกิดให้เพเนโลเป้ นอกจากนี้ รีเบคก้ายังยืนอยู่ข้างไซม่อนด้วยใบหน้าที่เขินอายอีกด้วย ชารอนรู้สึกเจ็บปวดหัวใจขึ้นมา ไม่นานนัก ลำคอของเธอเริ่มรู้สึกขมและแห้งโดยไม่ทราบสาเหตุ
ชารอนไม่รู้ว่าทำไมเรื่องแบบนี้ถึงทำให้เธออารมณ์เสีย เธอรู้สึกโกรธขึ้นมานิดหน่อย
ไซม่อนไม่เคยบอกเธอเรื่องวันเกิดของเพเนโลเป้เลย แต่ทว่า รีเบคก้ากลับรู้เรื่องและสามารถมาฉลองวันเกิดด้วยได้ ด้วยเหตุนั้น ชารอนจึงรู้สึกรำคาญใจอย่างประหลาดกับเรื่องที่เกิดขึ้น
ชารอนหลับตาเพื่อซ่อนน้ำตาเอาไว้ เธอเผยรอยยิ้มออกมาอย่างแผ่วเบาและตอบกลับ “ฉันไม่รู้เลยว่าวันนี้เป็นวันเกิดของพี่เพเนโลเป้ ฉันเลยไม่ได้เตรียมของขวัญอะไรมาเลยค่ะ"
ชารอนเงยหน้าขึ้นมองเพเนโลเป้และกล่าวคำพูด “ฉันต้องขอโทษด้วยนะคะ พี่เพเนโลเป้"
ทว่า ใบหน้าของเพเนโลเป้กลับไร้อารมณ์ “เธอไม่จำเป็นต้องขอโทษอะไรหรอก ฉันไม่เคยเชิญบุคคลภายนอกมางานวันเกิดของตัวเองอยู่แล้ว” ดูเหมือนว่าเพเนโลเป้ไม่ได้พยายามสุภาพกับชารอนเลย
ทันใดนั้น ชารอนก็กลับกลายเป็นคนนอกอย่างที่เพเนโลเป้พูด
เจ้าตัวเล็กแทบรอไม่ไหวแล้ว เซบาสเตียนรีบจับมือเธอทันที “แม่ครับ เราจะไปซื้อวัตถุดิบทำอาหารกันด้วยไหม?"
ชารอนมองไปยังใบหน้าที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของลูกชายและแตะหัวเขา “ได้สิจ๊ะ เดี๋ยวเราไปซื้อข้าวของมาทำกินกัน" ทุกครั้งที่มีลูกชายอยู่เคียงข้าง ชารอนไม่เคยรู้สึกแย่เลย
ในช่วงเวลาที่ทั้งสองคนต้องพึ่งพาอาศัยกันเพื่อความอยู่รอด ชารอนมักจะพาลูกชายไปตลาดทุกครั้งหลังเลิกงาน ทว่า หลังจากทั้งสองได้มาอยู่ที่บ้านใหญ่ตระกูลแซคคารี่ พวกเขาก็ไม่ได้ไปตลาดอีกเลย นอกจากนี้ เจ้าตัวเล็กยังไม่คุ้นชินกับอะไรแบบนี้อีกด้วย
“เซบาสเตียน หลานไม่คิดจะบอกลาปู่หน่อยเหรอ?" ดักลาสมองดูหลานชายซึ่งไร้หัวใจและถอนหายใจ
“บ๊ายบายครับ คุณปู่ เดี๋ยวผมขอไปอยู่กับแม่สักสองสามวัน เดี๋ยวผมจะกลับมาใหม่" หลังจากที่เซบาสเตียนพูดจบ เขาก็รีบดึงชารอนออกไปทันที เขากลัวว่าคุณปู่จะไม่ยอมเลิกรา
“เดี๋ยวผมเดินไปส่งพวกเขาเอง” ไซม่อนลุกขึ้นตามทั้งสองไป
“บอกเซบาสเตียนด้วยว่าเขาอยู่กับแม่ได้เพียงแค่วันเดียวเท่านั้น!" ดักลาสบอกกับไซม่อนด้วยท่าทีที่ไม่พอใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO