ดวงตาของฟิโอน่าเป็นประกาย เธอวิตกกังวลมากกว่ารีเบคก้าเสียอีก เพราะฉะนั้น เธอจึงรีบกล่าวคำพูดออกมา “ไซม่อน นายกำลังพยายามปัดความรับผิดชอบจากสิ่งที่ตัวเองทำกับรีเบคก้ารึไง? นายกล้าสาบานไหมว่ารูปถ่ายนั้นเป็นของปลอม?”
“คุณป้าฟิโอน่าคะ หยุดพูดเถอะค่ะ" รีเบคก้าต้องการลบรูปภาพเดี๋ยวนี้เลย
แต่ถึงกระนั้น ฟิโอน่าก็มั่นใจว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างทั้งสองแน่ เธอยืนยันว่าจะให้ไซม่อนรับผิดชอบ เพราะเช่นนั้น เธอก็จะสามารถบังคับให้เขาหย่าชารอนได้โดยเร็วที่สุด
ไซม่อนขดริมฝีปากอย่างเย็นชา “ผมหมดสติไปตลอดทั้งคืน บอกผมทีว่าผมไปนอนกับคุณในสภาพนั้นได้ยังไง?”
ใบหน้าของรีเบคก้าเปลี่ยนเป็นสีแดงและซีดขาว เธอแทบอยากจะขุดหลุมฝังตัวเอง
“ใช่ เธอนั่นแหละที่พยายามจะหว่านเสน่ห์ใส่ไซม่อน!” เพเนโลเป้จ้องไปที่รีเบคก้าอย่างเย็นชา
“ฉัน... ฉัน...”
“เดี๋ยวก่อนสิ รีเบคก้า หนูกลัวอะไรกันล่ะ? บอกเรามาตรง ๆ ว่าเขาทำอะไรกับหนู” ฟิโอน่าก็เริ่มตื่นตระหนกเช่นกัน หรือมันเป็นภาพตัดต่อ?
ชารอนมองดูรีเบคก้าอย่างสับสน เธอเข้าใจไซม่อนผิดรึเปล่า?
ไซม่อนไม่พูดอะไรต่อ เขารอให้รีเบคก้าสารภาพ แน่นอน ถ้าเธอยืนกรานที่จะพูดโกหก ไซม่อนก็มีวิธีอื่นที่จะทำให้เธอพูดความจริงออกมาได้
รีเบคก้าสบตากับฟิโอน่าแล้วหันไปมองไซม่อน ถ้าเธอพูดความจริงออกไป เธอก็จะไม่มีวันได้เผชิญหน้ากับครอบครัวแซคคารี่อีกเลย
ทว่า ในเมื่อรีเบคก้ามาถึงขนาดนี้แล้ว ทำไมเธอต้องหยุดอยู่ตรงนี้ด้วยล่ะ?
นอกจากนี้ คุณลุงดักลาสยังสนับสนุนให้เธอแต่งงานกับไซม่อนด้วย ถ้าเธอยืนยันว่ามีเรื่องราวเกิดขึ้นระหว่างพวกเขาทั้งสองในคืนนั้นจริง ๆ มันก็ไม่สำคัญแล้วว่าไซม่อนจะปฏิเสธรึเปล่า เพราะคนในตระกูลแซคคารี่จะไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปแน่
รีเบคก้าก้มศีรษะลงและสะอื้นไห้อย่างน่าสงสาร “คืนนั้น ไซม่อนเกิดอาการแพ้น่ะค่ะ เพราะฉะนั้น เขาจึงไม่สามารถใส่เสื้อผ้าเองได้ หนูก็ได้ต้องดูแลเขาแทน แต่พอดีหนูได้ยินเขาบอกว่าหนาว หนูก็เลยพยายามแต่งตัวให้ แต่หลังจากนั้น เขาก็บุกเข้ามาหอมและกอดหนู... เขา... เขาจูบหนูด้วย เขาบอกว่าตัวหนูอุ่น หลังจากถูกไซม่อนจูบ หนูก็มึนงงอยู่สักพัก... หลังจากนั้น เขาก็ถอดเสื้อผ้าหนูออก อันที่จริง หนูไม่ได้ต้องการแบบนั้นเลยนะคะ แต่หนูแค่สู้แรงเขาไม่ได้..." ในตอนนั้นเอง รีเบคก้าพลันระเบิดเสียงร้องไห้ออกมาจริง ๆ
ทันทีที่เธอเริ่มร้องไห้ รีเบคก้าก็ไม่สามารถเล่าเรื่องต่อได้ หลังจากนั้น คนอื่นก็สามารถเดาได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น
ชารอนมองไปยังใบหน้าของเซบาสเตียน เขาเป็นแค่เด็ก เขาจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องผู้ใหญ่แบบนี้ได้อย่างไร?
ชารอนเม้มริมฝีปากแล้วถอนหายใจเบา เธอลูบหัวลูกชาย “ลูกยังเป็นเด็กอยู่เลยนะ เรื่องนั้นปล่อยให้พวกผู้ใหญ่จัดการเถอะจ้ะ"
เซบาสเตียนขมวดคิ้ว “ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะ” ดูเหมือนแม่จะไม่เชื่อเขา เซบาสเตียนถึงกับสาบานกับตัวเองเลยว่าเขาจะทำให้พ่ออยู่ข้างแม่ให้ได้
ไม่นานนัก ดักลาสก็มารับเด็กชายกลับ เห็นได้ชัดว่าชายชรารักหลานชายของเขาอย่างสุดหัวใจ
เซบาสเตียนต้องไปโรงเรียน ดังนั้น ชารอนจึงไม่สามารถอยู่กับลูกตลอดไปได้
“เอาละ ลูกไปอยู่กับคุณปู่ก่อนนะจ๊ะ” ดวงตาของชารอนพลันอ่อนโยนและไม่ค่อยเต็มใจ
“แม่ครับ ไว้เจอกันใหม่หลังเลิกเรียนนะครับ” เด็กชายเองก็ไม่เต็มใจที่จะทิ้งแม่ของตัวเองไปเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO