หลังจากนึกถึงเรื่องนั้น ชารอนก็เดินออกจากห้องและกลับไปที่พิธีศพ คุณนายคอลลินส์ยังยืนอยู่ข้างแท่นบูชาและทักทายแขกผู้มาเยือนที่เข้ามากราบไหว้คุณหมอคอลลินส์
ชารอนเดินไปหาเธอ "คุณนายคอลลินส์คะ พอดีหนูอยากจะคุยอะไรกับคุณเป็นการส่วนตัวสักหน่อย” ชารอนกล่าว
คุณนายคอลลินส์เหลือบมองชารอนและเดินไปอยู่ด้านข้าง “เธอมีอะไรงั้นเหรอ?” คุณนายคอลลินส์ถาม
"คุณนายคอลลินส์คะ คุณหมอคอลลินส์ได้เล่าเรื่องสาเหตุการตายของพ่อหนูให้คุณฟังรึเปล่า?” ชารอนถามขึ้น
คุณนายคอลลินส์กะพริบตาและขมวดคิ้วเล็กน้อย “เธออยากรู้อะไรล่ะ?" ดูจากท่าทีของคุณนายคอลลินส์แล้ว คุณหมอคอลลินส์ต้องบอกอะไรบางอย่างกับเธอแน่
ชารอนไม่ได้ถามเธอต่อ เธอเพียงแค่โชว์รูปถ่ายที่ถูกไฟไหม้ให้คุณนายคอลลินส์ดูเท่านั้น “คุณรู้จักเธอไหมคะ?” ชารอนถาม
สีหน้าของคุณนายคอลลินส์เปลี่ยนไปทันทีที่เห็นรูปภาพในมือของชารอนน “เอ่อ... เธอได้รูปนี้มายังไงกัน?” คุณนายคอลลินส์โพล่งออกมา
“งั้นแสดงว่าคุณก็คงรู้จักคนในรูปสินะคะ"
คุณนายคอลลินส์ยังคงนิ่งเงียบไป ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอพลันตอบกลับอย่างแผ่วเบา “เธอเป็นหมอเหมือนกัน เธอเป็นรุ่นน้องของสามีฉัน แต่ยังไงก็เถอะ ฉันไม่ได้เจอหน้าเธอมานานแล้ว"
ชารอนตกอยู่ในความงุนงง เธอไม่คิดว่าผู้หญิงในรูปถ่ายจะเป็นรุ่นน้องของคุณหมอคอลลินส์ หากเป็นเช่นนั้น ความสัมพันธ์ของรุ่นน้องในรูปกับฟิโอน่าคืออะไรกันแน่?
ไม่สิ... ความสัมพันธ์ระหว่างฟิโอน่ากับไซลาส แซคคารี่เป็นยังไงกันแน่?
ฟิโอน่าเผยความเกลียดชังบนใบหน้าในระหว่างที่กำลังเผารูปถ่ายนี้ตรงหน้าหลุมศพของไซลาส ราวกับว่าผู้หญิงคนนี้ได้แย่งสามีของเธอไป
“คุณมีเบอร์ติดต่อของเธอไหมคะ?” ชารอนอ้อนวอนอย่างจริงจัง บางที ถ้าชารอนได้เจอกับผู้หญิงในรูป หลายสิ่งหลายอย่างอาจจะกระจ่างก็ได้
ในตอนนี้ คุณนายคอลลินส์คงรู้สึกผิดต่อพ่อของชารอนเช่นกัน ทันใดนั้น คุณนายคอลลินส์ก็พลันตอบกลับคำขอของชารอนอย่างรวดเร็ว "ฉันยังเก็บที่อยู่ของเชอริล สก็อตต์เอาไว้อยู่ แต่ยังไงก็เถอะ อย่างที่บอก ฉันไม่ได้ติดต่อเธอมาตั้งนานแล้ว ฉันไม่รู้ด้วยว่าเธอยังอาศัยอยู่ที่เดิมรึเปล่า แต่ถ้าอยากได้ ฉันก็จะบอกให้" คุณนายคอลลินส์บอกกับชารอน
“ขอบคุณมากเลยนะคะ” ชารอนเผยยิ้ม แน่นอนว่าเธอต้องการที่อยู่ของเชอริล สก็อตต์ ผู้หญิงคนนี้ต้องเป็นเหมือนบุคคลสำคัญของเรื่องทั้งหมดแน่
ทันใดนั้น คุณนายคอลลินส์พลันเขียนที่อยู่ลงในกระดาษแล้วยื่นให้กับชารอน
นั่นเป็นวันที่มืดมนที่สุดในชีวิตของชารอน ชารอนเกือบปลิดชีพตัวเองเพราะเธอทนไม่ไหวกับทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้น ถ้าไม่ใช่เพราะเด็กในครรภ์ เธอคงไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้ว
น้ำตาพลันไหลอาบแก้มของชารอน เธอสัมผัสป้ายชื่อบิดาบนหลุมศพด้วยฝ่ามือที่สั่นเทา
“รออีกหน่อยนะคะคุณพ่อ... เดี๋ยวลูกจะแก้แค้นให้พ่อเอง"
...
ระหว่างที่ชารอนกลับมายังคอนโดของไซม่อน ท้องฟ้าก็พลันมืดสนิทแล้ว แหล่งกำเนิดแสงเพียงที่เดียวคือแสงจากเมืองที่ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามา
ชารอนรู้สึกเย็นยะเยือก เธอรู้สึกโดดเดี่ยวอย่างอธิบายไม่ได้
น่าแปลก ไซม่อนไม่อยู่ห้องงั้นหรือ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO