ทันทีที่ชารอนและไซม่อนเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่น เด็กน้อยก็วิ่งเข้าไปหาชารอนอย่างตื่นเต้นและตะโกนออกมา "แม่กลับมาบ้านแล้ว!~ กอดกันหน่อย!"
ชารอนคุกเข่าและรับลูกชายไว้ในอ้อมแขน เธอแยกกับลูกมาได้สักพักแล้ว แต่ถึงกระนั้น ชารอนก็เริ่มชินกับการมาหาเซบาสเตียนในทุกสองสามวันแล้ว
เซบาสเตียนกอดแม่ของตัวเองและหันข้างเพื่อมองไปยังชายร่างสูงที่กำลังขมวดคิ้วอยู่ "ขาพ่อหายดีแล้วเหรอครับ?" เซบาสเตียนถามขึ้นเพราะตระหนักได้ว่าพ่อของตัวเองยืนนิ่งและเดินไม่กะเผลกเลย
"ทำไมล่ะ? ลูกอยากให้พ่อเป็นง่อยเหรอ?” ไซม่อนกล่าว เด็กน้อยกำลังกอดแม่ของเขาอยู่ อันที่จริง เซบาสเตียนแทบจะไม่สนใจพ่อของตัวเองเลย ถึงกระนั้น การถูกคนในครอบครัวเมินมักจะทำให้คนเรารู้สึกแย่อยู่เสมอ
เซบาสเตียนส่ายหัวและตัวสั่น ดูเหมือนว่าเขาจะกำลังรู้สึกหวาดกลัว “ไม่ ไม่ ไม่! ถ้าเพื่อนผมเห็นพ่อเป็นง่อยเดินไม่ได้ พวกเขาล้อผมแน่เลย"
ทันใดนั้น เส้นเลือดพลันปรากฏขึ้นบนหน้าผากของไซม่อน เซบาสเตียนกังวลเรื่องภาพลักษณ์มากกว่าพ่อของตัวเองเนี่ยนะ?
ทันใดนั้น เซบาสเตียนก็ถูกดักลาสขัดจังหวะ ชายชราสูงอายุพลันเดินตรงมานั่งบนโซฟาในห้องนั่งเล่นพร้อมกับกระแอม "อ่า กลับมาสักทีนะ ไซม่อน"
ชารอนไม่ได้สนใจใครเลยจนถึงตอนนี้ เธอสังเกตเห็นว่ามีหลายคนอยู่ใน้บาน นอกจากดักลาสแล้ว ยังมีเพเนโลเป้และคนอื่นอีกสามคนนั่งอยู่บนโซฟา
ทว่า รีเบคก้าก็อยู่ที่นั่นเช่นกัน อีกสองคนที่กำลังนั่งข้างรีเบคก้าดูเหมือนจะเป็นคู่สามีภรรยาอายุห้าสิบต้น ๆ พวกเขาดูเหมือนพ่อแม่ของเธอเลย
คู่สามีภรรยาตระกูลลอว์เรนซ์จ้องมองไซม่อนและชารอน ทั้งสองเผยสีหน้าบูดบึ้งออกมาราวกับพวกเขากำลังหัวร้อน
ชารอนรีบหันไปมองไซม่อนทันที พ่อแม่ของรีเบคก้ามาที่นี่ก็เพราะเขางั้นเหรอ?
“กลับมาสักทีนะ ไซม่อน พวกเรารอเธอมาสักพักแล้วแหละ" พ่อของรีเบคก้ากล่าวคำพูดออกมาอย่างขุ่นเคือง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจและความโกรธ
ทันทีที่ไซม่อนเห็นการรวมตัวกันของผู้คนตรงหน้า เขาก็พลันหรี่ตาลงและเผยท่าทีสุดสงบออกมา "คุณผู้ชายและคุณนายลอว์เรนซ์ ลมอะไรหอบมาถึงที่นี่กันเหรอครับ?"
“ก็เพราะเธอทำให้ลูกสาวของเราต้องอับอายไง เธอคิดว่ายังไงล่ะ?" แม่ของรีเบคก้ากล่าว
ส่วนรีเบคก้าก็กำลังแสดงละครไปด้วย เธอเริ่มสะอื้นไห้ราวกับตัวเองเสียใจมาก
เมื่อเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดแล้ว ไซม่อนก็ไม่ได้กังวลเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างสองตระกูลอีกต่อไป นอกจากนี้ รีเบคก้าก็ไม่ต้องแบกรับภาพลักษณ์เดิม ๆ ของตัวเองอีกต่อไปแล้วด้วย
"คุณนายลอว์เรนซ์ครับ ผมไปทำอะไรกับลูกสาวของคุณแม่ตั้งแต่เมื่อไหร่และยังไงเหรอครับ? ช่วยอธิบายให้ชัดเจนกว่านี้ได้ไหมครับ?" ไซม่อนกล่าวคำพูดออกมา
“เธอ... เธอเป็นถึงตระกูลผู้สูงศักดิ์ แถมเธอยังได้รับการศึกษาที่ดีตั้งแต่ยังเล็กด้วย เธอกล้ารังแกและทำให้ลูกสาวของฉันอับอายแบบนี้ได้ยังไงกัน?" คุณนายลอว์เรนซ์กังวลใจ เธอเชื่อสนิทใจว่าลูกสาวของตัวเองเสียความบริสุทธิ์ไปแล้ว แถมยังถูกตระกูลแซคคารี่ขับไล่อีกด้วย หากไซม่อนไม่รับผิดชอบต่อเรื่องที่เกิดขึ้น ความโกรธของเธอก็จะยิ่งเดือดพล่านขึ้นมาอย่างแน่นอน
“งั้นก็ช่วยบอกให้ชัดเจนกว่านี้หน่อยครับว่าผมไปทำอะไรลูกสาวคุณ" ไซม่อนกล่าวคำเดิม สีหน้าของไซม่อนยังคงไม่เปลี่ยนแปลงระหว่างที่มองมายังทั้งสอง
คุณนายลอว์เรนซ์เบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อ เธอถึงกับอ้าปากค้างและตอบกลับ "อยากให้ฉันเป่าประกาศเรื่องนี้ออกไปให้ผู้คนเขารู้กันเลยใช่ไหม?"
รีเบคก้าก้มหน้าลง น้ำตาของเธอยังคงไหลอยู่ แต่ถึงอย่างไร ดูเหมือนว่าร่างกายของรีเบคก้าพลันสั่นเล็กน้อยทันทีที่ได้ยินคำพูดของไซม่อน
ถึงกระนั้น จังหวะเต้นของหัวใจของรีเบคก้ายังคงนิ่งอยู่ ไม่ว่าไซม่อนจะยอมรับหรือไม่ก็ตาม ตราบใดที่รีเบคก้ายังคงยืนกรานว่าไซม่อนขืนใจเธอ เขาก็จะต้องรับผิดชอบเท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO