เซบาสเตียนบอกว่าเขาอยากรับประทานพาสต้า ไซม่อนจึงพาพวกเขาไปที่ร้านอาหารพาสต้าและเลือกเป็นห้องส่วนตัว
ชารอนรู้สึกว่าเธอเริ่มหิวแล้ว ชารอนจึงสั่งคาร์โบนาร่าให้ตัวเอง เธอพยายามหลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ด
ไรลีย์สั่งทุกอย่างที่มีในเมนู เมื่อรู้ว่าไซม่อนกำลังเลือกอาหารให้ เธอก็ควรจะเลือกสั่งเองสักหน่อยไหม?
ชารอนรู้สึกซาบซึ้งเล็กน้อยที่ไรลีย์มาด้วย มิฉะนั้น เธอจะต้องนั่งทานอาหารกับไซม่อนและเซบาสเตียนอย่างอึดอัดแน่นอน นั่นเป็นเพราะเธอเพิ่งทำให้ไซม่อนไม่พอใจเมื่อไม่กี่วันก่อน
ชารอนตักพาสต้ามาวางลงบนจานของลูกชายอย่างระมัดระวัง ทว่า ระหว่างนั้นเอง ไซม่อนพลันตักอาหารและน้ำมาวางไว้ที่จานของชารอนโดยที่เธอไม่รู้ตัว
ไรลีย์มองดูทั้งสองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวคำพูดด้วยความหงุดหงิดออกมา “ถ้าฉันรู้ว่าจะต้องเห็นอะไรแบบนี้ ฉันน่าจะพาใครสักคนมาตักอาหารให้ฉันบ้างนะ” การรับประทานอาหารในจานของตัวเองช่างไร้ความหมายเสียนี่กระไร!
ทันใดนั้น ชารอนพลันสังเกตเห็นว่าไซม่อนเอาแต่หยิบอาหารมาใส่ไว้บนจานของชารอน นั่นเป็นเพราะเธอจดจ่ออยู่กับการดูแลลูกชายจนลืมตักให้ตัวเอง
ชารอนหันไปมองไซม่อน “ฉันตักเองได้ คุณกินได้แล้วแหละค่ะ"
ชายผู้เงียบขรึมกล่าวคำพูดออกมาอย่างอดทน “คุณดูแลลูก ส่วนผมจะดูแลคุณเอง"
“เฮ้! เฮ้! หยุดเลยนะทั้งสองคน! อย่างน้อยก็ช่วยมีน้ำใจแบ่งความรู้สึกมาให้ฉันบ้างสิ อย่าทำกับว่าฉันเป็นเหมือนอากาศแบบนี้สิ!”
ไรลีย์ท้วงขึ้นมาทันที นอกเหนือจากการใช้ประโยชน์จากไซม่อนแล้ว เป้าหมายอื่นของไรลีย์คือการป้องกันไม่ให้เขาเข้าใกล้ชารอน ดูนั่นสิ! เขาต้องกำลังหว่านเสน่ห์ใส่ชารอนอยู่แน่ ๆ!
ชารอนมองไปยังไซม่อนอย่างเชื่องช้าและกระแอมออกมา “ไม่จำเป็นหรอกค่ะ” ชารอนไม่ใช่เด็กแล้ว
ดวงตาสีดำสนิทของเซบาสเตียนขยับไปมาอย่างสดใส เขามองไปที่แม่และพ่อข้างกาย ท้ายที่สุด พ่อกับแม่ก็มานั่งรับประทานอาหารด้วยกัน เขารอโอกาสนี้มานานแล้ว
“แม่ครับ พ่อพยายามทำตัวดีอยู่นะครับ ถ้าแม่ปฏิเสธ พ่อต้องอกหักแน่”
ชารอนมองดูชายหนุ่มรูปงามด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ผู้ชายคนนี้จะไม่มีวันเจ็บปวดหรืออกหักหรอก
ชารอนวางชิ้นเนื้อบนจานของเซบาสเตียน “ตั้งใจกินเถอะจ้ะลูกรัก ระวังร้อนด้วยนะ"
ทว่า ในตอนนั้นเอง เซบาสเตียนหยิบชิ้นเนื้อขึ้นมาแล้ววางลงบนจานของไซม่อนโดยไม่คาดคิด “พ่อครับ แม่เอานี่มาให้ พ่อกินได้แล้ว"
ชารอนจ้องไปที่เซบาสเตียน หลังจากนั้น เธอก็มองดูไซม่อนหั่นชิ้นเนื้อและนำเข้าปาก
ทันใดนั้น ไซม่อนเอื้อมมือมาจับที่แขนของชารอน เขากล่าวคำพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “เธอเป็นผู้หญิงของผมนะครับ ใครบอกกันว่ามันไม่ใช่เรื่องของผมกันเล่า?”
ชารอนตื่นตระหนกและรีบดึงมือกลับตามสัญชาตญาณ ทว่า ด้วยกำลังของไซม่อนที่กระชับรอบมือของเธอ มันไม่มีทางที่เธอจะหลุดพ้นได้เลย
“ฉัน... ฉันไม่ใช่ผู้หญิงของคุณสักหน่อย! หยุดพูดเรื่องไร้สาระแบบนี้สักทีสิ!” ชารอนกล่าวด้วยความอับอาย
“แม่ครับ ไม่ต้องอายหรอกครับ ผมอยากให้แม่กลับมาหาพ่อเหมือนกัน พ่อบอกผมว่าเขาแค่หมั้นกับผู้หญิงคนนั้น พวกเขาไม่ได้จะแต่งงานกันสักหน่อย"
คำพูดของเซบาสเตียนทำให้บรรยากาศรอบตัวดูอึดอัดมากขึ้นไปอีก ทันใดนั้น ทุกคนก็ตกอยู่ในความเงียบสงัด
ชารอนมองไซม่อนอย่างไม่เชื่อสายตา เธอไม่รู้เลยว่าคำพูดของลูกชายเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน
ไซม่อน แซคคารี่เพิ่งหมั้นหมายกับซัมเมอร์ กาเบรียลโดยที่ไม่มีแผนจะแต่งงานกับเธอเนี่ยนะ?
ชารอนควรจะเชื่ออะไรแบบนี้งั้นหรือ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO