ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 846

ไป๋ชิงหลิงเหลือบมอง ยังไม่ทันที่เธอจะตั้งตัว ลมหายใจอุ่นๆก็กระทบกับริมฝีปากของเธอ

หลังจากนั้นไม่นาน ริมฝีปากของเธอก็ถูกหรงเยี่ยผนึกไว้ เขารีบร้อนและยึดครองเธออย่างไม่อดทน

บรรยากาศดูคลุมเครืออยู่ครู่หนึ่ง.......

ไป๋ชิงหลิงไม่ได้ปฏิเสธเขา

เธอเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในตำหนัก พวกเขาเป็นสามีภรรยากัน ทำเรื่องใกล้ชิดเหล่านี้ สามารถทำให้ความสัมพันธ์ที่มีต่อกันดีขึ้นได้

เมื่อเขาเงยหน้ามองเธอ เสื้อผ้าบนตัวของเธอเกือบจะถูกเขาถอดออกหมดแล้ว.......

แววตาของเขาเต็มไปด้วยราคะ มองดูเธออย่างอ่อนโยน :“ที่รัก ข้าโชคดีเหลือเกิน เจ้าสามารถรอดชีวิตมาอยู่กับข้า และลูกๆ”

เธอนอนอยู่ในอ้อมแขนของเขา เฝ้าดูความไม่สบายใจที่ค่อยๆสื่อออกมาจากแววตาของเขา

“มีท่านที่เป็นยมทูตที่มีชีวิต ยมทูตจะกล้ารับข้าไว้ได้อย่างไร”

เขาก้มหน้าลงมองดูรอยแผลใหม่บนท้องของเธอ

รอยแผลยาวกว่าเดิม แม้ว่าผิวพรรณของเธอจะฟื้นตัวได้ดี แต่ก็ยังทิ้งรอยแผลเป็นที่ไม่สามารถลบออกได้

“อย่ามองเลย” เธอยื่นมือมาปังไว้

เขารีบจับมือเธออย่างรวดเร็วแล้วพูดว่า :“เจ้าทำเพื่อข้า สองครั้งที่รอดจากประตูนรก ครั้งแรก ข้าไม่ได้อยู่ข้างกายเจ้า และไม่รู้ว่าแม่ผู้ให้กำเนิดจิ่งหลินยังมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ ทำให้เจ้ากับเซิงเอ๋อร์ต้องทนลำบากอยู่ข้างนอก”

“ข้ายังไม่ทันได้ชดเชยให้พวกเจ้า ครั้งที่สอง ข้าอยู่ข้างกายเจ้า แต่กลับปกป้องเจ้าไม่ได้ ทำให้แพทย์หญิงที่ทำการผ่าตัดให้เจ้าต้องถูกแทง และเกือบทำให้เจ้าเกือบตายอยู่ในห้องผ่าตัด”

“ต่อไปไม่ว่าข้าจะทำดีแค่ไหน ก็ยังละอายใจต่อเจ้า แต่ข้าจะใช้ทั้งชีวิตเพื่อชดเชยให้เจ้า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต.........”

ไป๋ชิงหลิงรีบเอามือปิดปากของเขาแล้วพูดว่า :“ถุยๆๆ จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกล่ะ พวกเราจะอยู่คอยมองดูลูกๆเติบโตขึ้นอย่างปลอดภัยและมีความสุข จะไม่มีเรื่องร้ายอะไรเกิดขึ้นอีก”

“อืม ใช่แล้ว” เขาคว้ามือเล็กๆของเธอ มาวางบนใบหน้าของเขา แล้วจูบริมฝีปากของเธออีกครั้ง อย่างดูดดื่ม!

เขากลัวว่าจะทำให้เธอเจ็บ ดังนั้นเขาจึงมักจะควบคุมเรื่องการมีสัมพันธ์กันอยู่เสมอ ท่าทางและการเคลื่อนไหวไม่ได้หนักหน่วงเหมือนเมื่อก่อน

ไป๋ชิงหลิงเห็นถึงความตั้งใจของเขา ขาเรียวเล็กของเธอโอบรอบเอวของเขา และพลิกตัวขึ้นคร่อมเขาไว้.......

ตอบสนองเขา!

หรงเยี่ยสูดหายใจเข้าลึกๆ จับเอวของเธอแน่นขึ้น แล้วปล่อยให้เธอทำตามใจ.......

สี่ชั่วโมงต่อมา หรงเยี่ยก็ออกจากตำหนักเฟิงอี๋

หลังจากที่ไป๋ชิงหลิงอาบน้ำเสร็จ เธอก็เรียกเซี่ยซานเข้ามา

เซี่ยซานมองไป๋ชิงหลิงอย่างคาดหวัง “ฮองเฮาเหนียงเหนียง ข้าน้อย..........”

“จักรพรรดิรู้เรื่องนี้แล้ว เขาจะจัดการให้คนไปแจ้งตระกูลฉาง เจ้าต้องการออกจากวังไปตระกูลฉางกับข้าหรือไม่ หรือว่า กลับไปรับใช้ตระกูลฉาง!”

มีความผิดหวังอยู่ในแววตาของเซี่ยซาน เธอค่อยๆก้มหน้าลงแล้วพูดว่า :“คนตระกูลฉางไม่มีทางช่วยคุณหนู”

“แม่นางฉางสามล่ะ? คุณหนูฉางเป็นลูกสาวของแม่นางฉางสามนิ”

“ฮูหยิน.........” เซี่ยซานหัวเราะเยาะ :“ฮองเฮาเหนียงเหนียง ฮูหยินเป็นคนหลอกให้คุณหนูแต่งงานกับตระกูลฉิน”

“อะไรน่ะ?” ไป๋ชิงหลิงตกตะลึง

เซี่ยซานพูดว่า :“ข้าน้อยแอบได้ยินมา ฮูหยินบอกว่าคุณชายต้องการแต่งงานกับองค์หญิงของราชวงศ์ คุณหนูจึงไม่สามารถแต่งงานกับเชื้อพระวงศ์ได้อีก ต้องอยู่ให้ห่างเมืองหลวง”

“นี่เป็นเพียงเรื่องโกหก เป็นเพราะฮูหยินเอ็นดูลูกสาวของตระกูลฉินท่านหนึ่ง คุณชายก็ไม่ติดอะไร ฮูหยินจึงไปสู่ขอ บังเอิญว่าผู้หญิงคนนั้น ดันเป็นลูกพี่ลูกน้องของคุณชายใหญ่ตระกูลฉิน”

“ตระกูลฉินจึงฉวยโอกาสนี้ ขอให้ฮูหยินเอาคุณหนูใหญ่ไปแลก ฮูหยินรักและเอ็นดูคุณหนู มีเพียงคุณชายเท่านั้นที่อยู่ในสายตา เพื่อคุณชายแล้วนางยอมเสียสละได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งความสุขของคุณหนู!”

สีหน้าของไป๋ชิงหลิงเปลี่ยนไปอย่างมาก เธอไม่คาดคิดมาก่อน.........

ว่ามีเรื่องเช่นนี้ด้วย

ลี่ว์อีพูดด้วยความโกรธว่า :“ผู้เฒ่าเหล่านั้น น่ารำคาญจริงๆ เหนียงเหนียงของเราเป็นแม่ที่ดี เป็นฮองเฮาเพราะมีความสามารถ พวกเขาว่างมากนักหรือไง ถึงชอบยุ่งเรื่องคนอื่นเหลือเกิน”

จื่ออีหัวเราะเบาๆและพูดว่า :“นี่ไม่ใช่ขอบเขตหน้าที่ของขุนนางหรอกหรือ พระราชวังแห่งนี้เงียบสงบมาเป็นเวลานานแล้ว เหล่าขุนนางว่างจนขนจะขึ้นเต็มตัวแล้ว”

ไป๋ชิงหลิงรู้สึกขบขันเพราะสาวใช้ทั้งสอง

“ปล่อยพวกเขาพูดไปเถอะ ถ้าไม่ได้พูดพวกเขาคงจะขาดใจตาย นินทาข้าแค่ไม่กี่คำ ข้าก็ไม่รู้สึกรู้สาอะไรหรอก สุดท้ายแล้วคนที่โมโหก็คือพวกเขาเอง” ไป๋ชิงหลิงขึ้นไปบนเกี๊ยว

ลี่ว์อี จื่ออีและอีผิงถิงต่างก็พากันขึ้นไปบนเกี๊ยว ไป๋ชิงหลิงเห็นเซี่ยซานเดินตามอยู่ข้างล่าง จึงพูดว่า :“เซี่ยซาน ขึ้นมาสิ”

เซี่ยซานรู้สึกประหลาดใจ รีบส่ายหัวแล้วพูดว่า :“ฮองเฮาเหนียงเหนียง ข้าน้อยเดินตามเกี๊ยวไปดีกว่า”

ไป๋ชิงหลิงแอบถอนหายใจ

เซี่ยซานเป็นคนรับใช้ที่ซื่อสัตย์ แต่ในของนางไม่ได้อยู่ที่เธอ

เธอรู้สึกสงสารฉางเล่อเหยียน ข้างกายไม่มีคนที่คอยห่วงใยนางเลย

เธอมองไปที่ลี่ว์อีและจื่ออี ทันใดนั้นก็มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา........

แต่ว่า ต้องรอให้กลับมาจากตระกูลฉางก่อน ค่อยวางแผนการอีกที เพราะมันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ

หลังจากมาถึงจวนตระกูลฉาง สมาชิกครอบครัวตระกูลฉางทุกคนก็ออกมาต้อนรับเธอ

หลังจากที่ไป๋ชิงหลิงลงจากเกี๊ยว เธอก็เห็นหญิงสาวอายุน้อยที่ยืนอยู่ข้างแม่นางฉางสามทันที

นางช่างเป็นผู้หญิงที่สวยจริงๆ มีดวงตาที่สวยและคิ้วเรียวยาว ริมฝีปากสีแดงและฟันสีขาว เป็นหญิงสาวที่งดงามมาก

ทุกคนในตระกูลฉางทำความเคารพ ไป๋ชิงหลิงยืนอยู่ต่อหน้าทุกคน และพูดว่า:“ ตามสบาย”

ทุกคนต่างยืนขึ้น

ไป๋ชิงหลิงเดินเข้าไปหาแม่นางฉางสาม :“แม่นางฉางสาม หญิงงามอ่อนช้อยท่านนี้ เป็นอะไรกับท่าน.........”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น