ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 654

เม็ดยาแตกออกนั้นมีไอดำลอยออกมา

พอเห็นไอดำเหล่านั้น ซวนหยวนจ้านพลันสีหน้าเปลี่ยน รีบซัดฝ่ามือให้มันออกไป

ป่ายฮวาจะหลบ ซวนหยวนจ้านมีหรือจะยอมให้นางหนี เขาสะบัดฝ่ามือ ซัดไปจี้จุดนางไว้ ทำตัวนางหยุดนิ่งอยู่ตรงนั้น

ซวนหยวนจ้านมองเห็นไอหมอกสีดำเหล่านั้นโดนตัวป่ายฮวากับตาตนเอง ประหนึ่งหนอนประหลาดสีดำกลืนกินนาง พอโดนแขนนาง แขนค่อยๆหายไปทีละน้อย ไม่นานตัวคนเต็มๆก็โดนกลืนกินไปกว่าครึ่ง

ป่ายฮวาเบิกตากว้าง อยากร้องกรี๊ดแต่กลับร้องไม่ออก ดวงตาคู่นั้นแทบจะถลนออกมา เพราะความหวาดกลัวและสิ้นหวัง ใบหน้าบิดเบี้ยว แต่ขนขาวหนึ่งชั้นปกคลุมทำให้มองสีหน้านางไม่ออก

กึกกึกกึกกึก ฟันของนางกระทบกันไม่หยุด

ซวนหยวนจ้านดูแล้วตกใจนัก สิ่งนี้สามารถกลืนกินคนได้! ช่างประหลาดยิ่งนัก!

แต่ก่อนหน้านี้ทำไมนางถึงสามารถเก็บกักไอหมอกสีดำนี่ไว้ในเม็ดยาสีดำนั่นได้ล่ะ?

คำถามนี้พริบตาเดียวทำให้ซวนหยวนจ้านกระโดดขึ้นมา สายตาไปหยุดลงที่ยาสีดำที่โดนป่ายฮวาบีบแตกออกเมื่อครู่

เปลือกยาหล่นลงพื้น ยังไม่กลายเป็นผงอย่างละเอียด เหมือนเปลือกยาชิ้นเล็กประมาณข้อนิ้วชิ้นหนึ่ง

ต้องเอาของสิ่งนี้ไปให้เสี่ยวชีดูสักหน่อย ไม่แน่นางอาจจะดูออกว่าคืออะไร! บางทีนี่อาจจะเป็นจดสำคัญในการจัดการหมอกดำกลืนกินคนนั่น!

เขารีบผลันร่างออกไป

แต่ในตอนที่เขาจะก้มลงไปหยิบเปลือกยานั่น หมอกดำก่อนหน้านี้พลันเกิดเสียงดังขึ้นเล็กน้อย หมอกดำนั่นกลับขยายใหญ่และระเบิดขึ้นมา จากนั้นรวมกลุ่มเป็นก้อน!

เดิมเป็นแค่ตัวเล็กๆ ตอนนี้กลับกลายเป็นกลุ่มก้อนใหญ่เท่ากำปั้นแล้ว!

ส่วนป่ายฮวากลับไม่เหลือแม้แต่เส้นผมสักเส้นแล้ว!

ซวนหยวนจ้านใจกระตุกวูบ

เขาพบปัญหาหนึ่งเข้า หรือว่า หมอกดำนั่นขอเพียงกลืนกินคนก็จะเติบโตมากขึ้น? ถ้าเช่นนั้น มิน่ากลัวเข้าไปใหญ่รึ?

เขาหยิบเปลือกยาขึ้นมา กำลังจะออกไป หมอกดำนั่นกลับลอยเข้าหาเขา

ความเร็วนั้น!

นี่ไหนเลยจะเป็นค่อยๆคืบคลานเข้ามา? นี่มันเร็วเกินไปแล้ว!

ซวนหยวนจ้านด่าโพล่งออกมา และหมุนตัววิ่งทันที วิ่งสิ เจ้าสิ่งนี้น่ากลัวเกินไปแล้ว โดนเพียงนิดเดียวก็จะโดนกลืนกินทั้งตัว วิทยายุทธ์ใดก็ไร้ประโยชน์ ไม่วิ่งจะรออะไรล่ะ?

"เสี่ยวชีเอ้ย หมอกดำมาแล้ว! รีบมาช่วยเสด็จพ่อเร็ว!"

ซวนหยวนคงที่อยู่ริมแม่น้ำได้ยินเสียงร้องของเขา หันไปมอง กระโดดผลุงขึ้นมาทันที "แม่เจ้า! พี่ใหญ่ ท่านไม่มีอะไรทำไปหาเรื่องเจ้านี่ทำไม?"

ซวนหยวนจ้านกระโดดมายืนข้างเขา จับเขามากันไว้ข้างหน้า "เจ้าคิดว่าข้าอยากรึ? สตรีขนขาวผู้หนึ่งใช้เม็ดยาที่พกติดตัวไว้ต่างหาก! พอกดเม็ดยาแตกออก หมอกดำก็ออกมาแล้ว! จริงิ มันกลืนกินสตรีขนขาวนั่นไป จากนั้นก็ตัวใหญ่ขึ้น! เจ้าอยู่กับเสี่ยวชีนานแล้ว คงได้เรียนรู้อะไรมาบ้างกระมัง รีบดูสิว่ามันเรื่องอะไรกัน!"

ซวนหยวนคงอยากถีบก้นเขาสักที

พูดเป็นไหมเนี่ย?

อะไรเรียกว่าเขาอยู่กับเสี่ยวชีนานแล้ว? คงได้เรียนรู้อะไรมาบ้าง?

เขาเป็นคนเลี้ยงเสี่ยวชีจนโตนะ! เสี่ยวชีอยู่กับเขานานแล้วต่างหาก อีกอย่าง เขาเป็นอาจารย์ของเสี่ยวชี ความสามารถของนางน่ะมีเจ็ดถึงแปดส่วนล้วนถูกสอนโดยเขานี่แหละ!

เอาเถอะ ถึงแม้ว่าพรสวรรค์นางจะดีกว่าเขามาก คนรุ่นหลังมาแรงกว่าจริงๆ แต่ก็ไม่สามารถพูดพลิกกลับแบบนี้สิ เขาเป็นผู้อาวุโสนะ!

อีกอย่าง นี่พี่ใหญ่เขาหรือเปล่า? มีความรักให้น้องชายบ้างไหม? หมอกดำมาแล้ว เอาเขามากันไว้ด้านหน้าเนี่ยนะ?

ซวนหยวนคงเดือดจัด

ส่วนพวกเฉินซ่าในเวลานี้ประหนึ่งปลาบินในน้ำ ว่ายน้ำตามด้ายแดงไปเรื่อยๆ

"ฝ่าบาท ด้านหน้านั่น!"

เวลานี้ เยว่กลับมองเบื้องหน้าด้วยสีหน้าตกใจสุดขีด

เขตน้ำนั้นดูจะลึกกว่าทางนี้มากนัก น้ำสีน้ำเงินมีประกายแสง มองดูแล้วเหมือนก้นทะเล

และในน้ำทะเลนี้ ร่างคนผู้หนึ่งหนักๆลอยๆ มีของที่เหมือนหญ้าน้ำสีดำรัดรอบตัว ล้ายกับจะรัดรึงนางไว้ หัวนางแหงนไปด้านหลัง ร่างบิดงออย่างทุกข์ทรมาน เหมือนกำลังโดนทรมาน

มองดูเสื้อผ้านั้น เรือนร่างนั้น ใบหน้าด้านข้างนั้น เห็นได้ชัดว่าเป็นจักรพรรดินี!

เยว่มีหรือจะไม่ตกใจ

เฉิงสิบสองตาแดงก่ำแล้ว รีบว่ายเข้าไปหานางด้วยความเร็ว ความเร็วนั้นมากกว่าผู้ใดทั้งหมด

เฉิงสิบอึ้งเล็กน้อย เขายื่นมือออกไปจับหญ้าน้ำต้นหนึ่ง อีกมือสะบัดกระบี่ฟันหญ้าน้ำนั่น โหลชีพลันหันมายิ้มอย่างอ่อนโยนให้เขา

"เฉิงสิบ อันตราย เจ้ารีบไป ไม่ต้องสนใจข้า"

เฉิงสิบส่ายหัว กัดฟัน

ไม่ ข้าน้อยไม่ไป ข้าน้อยสาบานกับตนเองไว้นานแล้ว จะคุ้มครองท่านทั้งชาติ

"เฉิงสิบ เจ้านี่ช่างโง่นัก ข้าเจ็บนัก เจ้ารีบมากอดข้าเร็ว"

เยว่เบิกตากว้าง

อะไร อะไรนะ?

แต่เฉิงสิบทนไม่ไหวแล้วเมื่อได้เห็นสีหน้าทุกข์ทรมานของโหลชี สมองเขาว่างเปล่า ร่างกายว่ายน้ำไปหานางโดยอัตโนมัติ โอบกอดนางราวกับกอดสมบัติล้ำค่า

หัวของโหลชีเอนพิงไหล่เขา หญ้าน้ำเหล่านั้นลอยล่อง ราวกับจะกอดรัดเฉิงสิบด้วย แต่ในดวงตาและในใจเฉิงสิบตอนนี้มีเพียงโหลชีในอ้อมกอดเท่านั้น เขาไม่อยากหลบ ไม่คิดจะหลบ

ในเวลานี้เอง ในตอนที่ทุกคนคิดว่าฝ่าบาทจะเดือดจัด เฉินซ่าพลันกระชากองครักษ์คนหนึ่งข้างๆ พลางส่งกระแสจิตบอกเขาว่า "ขึ้นไปหายใจ!"

ทำไมเขารู้สึกต่อไปชีวิตเฉิงสิบจะไม่สู้ดีเลยเล่า?

พี่น้องเอ๋ย รักษาตัวด้วยนะ

เขากำลังอยากจะพูดอะไร ก็เห็นสีหน้าเฉินซ่าเปลี่ยนเล็กน้อย อดระแวดระวังขึ้นมาไม่ได้

"ทุกคนเอาสายรัดเอวมารัดกันไว้!" เฉินซ่าพลันพูดเสียงเข้มออกมา

ถึงทุกคนจะไม่เข้าใจ แต่ยังคงปฏิบัติตาม แต่ยังไม่รอให้พวกเขาเกี่ยวรัดไว้ด้วยกันหมด องครักษ์คนหนึ่งซึ่งอยู่ไกลจากพวกเขาหน่อยพลันแค่นเสียงหนัก ดิ้นรนไปมาด้วยสีหน้าหวาดกลัว

พวกเขาพบกว่า น้ำรอบตัวเขาเหมือนหมุนเป็นน้ำวน และคลื่นน้ำพวกนั้นยังไม่ใสกระจ่างด้วย แต่กลับเต็มไปด้วยฝุ่นความตาย แต่ก็เหมือนปรอท การเลื่อนไหลดูจะช้าลงไปหลายส่วน ค่อยๆเข้มข้นขึ้น

"ลากเขาเข้ามา!" เฉินซ่าตะคอกดัง

องครักษ์ข้างๆรีบโยนสายรัดเอวให้ "รับไว้!"

เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นตรงนี้

เสียงระเบิดบรึ้มดังสนั่นขึ้น

เม็ดฝนห่าใหญ่หล่นโครมลงกลางหัวพวกเขา เม็ดฝนใหญ่และละเอียด โดนหัวเข้าไปก็เจ็บ และทำให้คนไม่อาจลืมตาขึ้นได้ชั่วขณะ รอจนพวกเขาปาดน้ำบนหน้าและลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เบื้องหน้ากลับดำมืดไปหมดแล้ว

ร่างกายหนักอึ้ง ไม่เหมือนอยู่ในน้ำ แต่เหมือนอยู่ในดินโคลนดูด ร่างกายค่อยๆโดนดูดลงไปช้าๆ เท้าหนักราวพันชั่ง ยกยังยกไม่ขึ้น

เฉินซ่าใจหายวาบ

เวลานี้เขาได้ยินเสียงเยว่พูดว่า "ฝ่าบาท ฮ่องเต้ซวนหยวนเล่า?"

กษัตรยิ์ซวนหยวน หมายถึงซวนหยวนฮ่วนเทียน เขาเหมือนจะกระโดดตามพวกเขาลงน้ำมาด้วย แต่ไม่เห็นเขาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

เฉินซ่ากำกระบี่ดื่มเลือดในความมืดแน่น

และในตอนนี้พวกเขาตกอยู่ในค่ายกลนี้ กลับไม่คิดเลยว่า สงครามใหญ่ด้านนอกได้เปิดฉากขึ้นแล้ว

ซวนหยวนคงมองดูทหารชุดเกราะสีดำเรียงแถวบนฝั่งอีกด้านหนึ่งของแม่น้ำ ก็คิ้วขมวดมุ่น

"คนตรงข้ามฟังไว้" ชายผู้หนึ่งทางนั้นก้าวเท้าออกมา เขาใส่ชุดเกราะอ่อนสีดำเช่นกัน ใส่หมวกนักรบ เผยให้เห็นเพียงดวงตาคู่หนึ่ง เสียงเขาลอยมาอย่างใสกระจ่างว่า "พวกเรามีเพียงเงื่อนไขเดียว! ขอเพียงส่งตัวโหลชีมา พวกเราสามารถเซ็นสัญญาข้อตกลงกันได้ จะไม่ให้หมอกดำเข้ากลืนกินราษฎรและบ้านเมืองของพวกเจ้าอีก!"

ซวนหยวนจ้านได้ยินดังนั้นก็เดือดจัดทันที ตะคอกกลับไปทันทีว่า "เหลวไหล! ต้องการลูกสาวสุดที่รักของข้ารึ? พวกเจ้าแสดงฝีมือมาได้เลย!"

"พี่ใหญ่..." ซวนหยวนคงอยากขัดขวางแต่ไม่ทัน พูดอย่างหน่ายใจว่า "ลองฟังว่าพวกเขาจะว่าอันใดกันก่อนได้หรือไม่? นี่เป็นสิ่งที่จะทำให้พวกเราเข้าใจเป้าหมายและสิ่งที่พึ่งพาของอีกฝ่ายได้..."

"เข้าใจกับผีสิ จะรบก็รบ ข้าฮ่องเต้จ้านแห่งหลงหยิน จะกลัวพวกมันรึ" ซวนหยวนจ้านชี้หน้าผู้นำอีกฝ่ายทันที น้ำเสียงประดุจธนูแหลมพุ่งผ่านแม่น้ำเล็กไปอย่างรวดเร็วหนักแน่นเหมือนของจริง "มา ชนะข้าได้ก่อนค่อยว่ากัน!"

คำพูดนี้ใช้กำลังภายในส่งออกไป คลื่นเสียงนำพาการโจมตีหนักหน่วงไปด้วย ทำเอาทหารเกราะอ่อนของอีกฝ่ายที่ยืนเรียงแถวอยู่ล้มโครมกันไปตามๆกัน

ในเวลาเดียวกัน ซวนหยวนจ้านก็กวาดแขนออก ร่างกายพุ่งผ่านแม่น้ำดุจนกตัวใหญ่ เข้าหาอีกฝ่ายไป

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ