รถมาเซราตีมาเซราตีสีชมพูที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเป็นชนชั้นสูง การปรากฏตัวของมันดึงดูดสายตาของทุกคนไปในทันที
แม้ว่าคนส่วนใหญ่ที่นี่จะเป็นคนที่อยู่ระดับล่างๆของสังคม ที่พวกเขาไม่รู้จักโลโก้ของ มาเซราตีแต่ก็สามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันสูงส่งที่ มาเซราตีเผยออกมาอย่างชัดเจน อาวดี้ a4 เทียบไม่ได้เลย แม้แต่อาวดี้a8 ก็ยังคงเทียบไม่ได้......
“มาเซราตี? ทำไมรถคันนี้ถึงคุ้นตาจัง?” ซ่งเย่สังเกตเห็นรถคันนี้เหมือนกัน แววตาของเขาเผยสีหน้าที่ครุ่นคิดออกมา
“เสี่ยวหย่า ต่อไปนี้ต้องตั้งใจทำงานหาเงินนะ ฉันไม่ขอร้องให้เธอซื้อรถที่แพงขนาดนี้ แค่เธอซื้อรถธรรมดาสักคัน ฉันก็พอใจมากแล้วน้าเหยามองดูอย่างอิจฉา
ผู้คนที่สัญจรไปมาต่างก็หลีกทางให้ มาเซราตีขับผ่าน แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนไม่เข้าใจคือ มาเซราตีมาจอดอยู่ตรงที่ไม่ห่างไกลจากพวกเขาเท่าไหร่นัก
ประตูรถเปิดออก และหญิงสาวผู้บริสุทธิ์ในชุดสีแดงเดินลงมา เธอสวมรองเท้าส้นสูงคริสทัล ดูสวยงามและสง่า เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเป็นชนชั้นสูง
“ไม่คิดว่าจะเป็นท่านประธาน?”
เมื่อเห็นคนเดินออกจากรถ ดวงตาของซ่งเย่เบิกกว้างขึ้นทันใด หัวใจของเขาเต้นแรง และสีหน้าของเขาตื่นเต้นอย่างมาก ท่านประธานมาที่นี่ทำไม? หรือว่าท่านรู้ว่าฉันอยู่ที่นี่ จึงมาหา? ประธานมาหาฉันทำไม? หรือว่าสองสามปีที่ผ่านมาฉันทำงานได้ดีเยี่ยมจนถูกจับตา ฉะนั้นจึงจะมาพบฉันด้วยตนเอง?
ชั่วขณะนั้น ความคิดนับไม่ถ้วนผุดขึ้นในใจของซ่งเย่ทุกความคิดทำให้เขาตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก
มากเสียจนเขารีบปรับเนกไทแล้วเดินไปหาอวี้หยูเฉินที่อยู่ข้างๆ มาเซราตี เขาพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อควบคุมความตื่นเต้นของตน " ท่านประธาน ท่าน... ท่านมาที่นี่เพื่อตามหาผมรึเปล่าครับ?”
เมื่อได้ยินซ่งเย่เรียกอวี้หยูเฉิน เช่นนั้น ทุกคนต่างก็เข้าใจทันที ที่แท้ผู้หญิงที่สวยๆคนนี้เป็นหัวหน้าของเขานี่เอง แสดงว่าเธอต้องสูงส่งอย่างมากแน่ๆ แววตาที่ทุกคนมองไปที่น้าเหยา มีความอิจฉาริษยามากขึ้นเรื่อยๆ
“ประธาน? เธอเป็นประธานของบริษัทระดับต้นๆ ประธานของเทียนหยูกรุ๊ปเหรอ? ไม่คิดว่าเธอจะมาหาซ่งเย่ด้วยตนเอง แสดงว่าซ่งเย่มีความสำคัญอย่างมากในบริษัท
เมื่อน้าเหยาเห็นภาพนี้ เธอก็คว้ามือเหยาซือหย่าอย่างตื่นเต้นและกล่าวว่า " เสี่ยวหย่า เธอต้องเอาซ่งเย่ให้อยู่นะ อย่าให้เขาถูกผู้หญิงคนอื่นแย่งไป ถ้าจับเขาไว้ได้ ต่อไปนี้เราก็รวยแล้ว รู้ไหม?”
เหยาซือหย่ารู้สึกไม่มีความสุข แต่เธอเป็นเด็กดีไม่รู้ว่าจะตอบโต้อย่างไร
อย่างไรก็ตาม ประโยคต่อไปของอวี้หยูเฉิน ทำให้ทุกคนตกตะลึงอย่างมาก
“คุณเป็นใคร?” อวี้หยูเฉินเหลือบมองซ่งเย่และถามด้วยความสงสัย
“ห้ะ ท่านประธาน ท่านไม่ได้มาหาผมเหรอ ผมชื่อซ่งเย่พนักงานของบริษัทท่าน” ซ่งเย่ตกตะลึงครู่หนึ่งและอธิบายอย่างรวดเร็ว
“ใครบอกว่าฉันมาหานาย? ซ่งเย่? ฉันไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน แต่ในเมื่อนายเป็นพนักงานของบริษัทเรา ทำไมถึงยังอยู่ที่นี่ ตอนนี้จะเข้างานอยู่แล้ว ยังไม่รีบไปบริษัทอีกท” อวี้หยูเฉินเปล่งออร่าของผู้บังคับบัญชาออกมาและพูดเบา ๆ
ซ่งเย่ปากกระตุกเล็กน้อย และเขารู้สึกเสียใจเหมือนล้มจากสวรรค์สู่นรก เดิมทีเขาคิดว่าประธานมาที่นี่เพื่อตามหาเขา ทำให้เขารู้สึกเป็นเกียรติ แต่เขาไม่คาดคิดว่าประธานไม่รู้จักเขาด้วยซ้ำ
เขายิ้มอย่างเขินอาย ไม่กล้าพูดอะไรอีก และพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “ครับ ผมจะไปบริษัทเดี๋ยวนี้เลยครับ…”
พูดจบเขาก็หันหลังเดินไปหาเหยาซือหย่า
และเมื่อเขาเดินตรงเข้าไปหาเหยาซือหย่าเขาพบว่าหลินฮ่าวกำลังเดินตรงมาหาเขา
ทำให้เขาคิดว่าหลินฮ่าว มาเยาะเย้ยเขา ดังนั้นเขาจึงพูดขึ้นว่า " เสี่ยวฮ่าว นี่มันสายขนาดนี้แล้ว ถ้านายไม่มีอะไรทำ ก็รีบไปขับแท็กซี่เถอะ นายยังหนุ่มอย่าเสียเวลาทำมาหากิน”
หลินฮ่าวไม่สนใจซ่งเย่ดขาเดินไปหาอวี้หยูเฉิน และพูดว่า "มาแล้วเหรอ?"
“อืม!” อวี้หยูเฉินพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
การสนทนาที่เรียบง่ายระหว่างทั้งสองทำให้ทุกคนในที่นั้นตกตะลึง
ผู้หญิงคนนี้สวยราวกับนางฟ้าและเป็นประธานของเทียนหยูกรุ๊ป เธอมาหาหลินฮ่าว งั้นเหรอ?
หลินฮ่าวคือใคร? มันเป็นแค่คนขับแท็กซี่
แม้ว่าหลินฮ่าวจะอาศัยอยู่ที่นี่มาสองปีแล้ว แต่เขามักจะเงียบขรึมและไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับใคร อีกอย่า
งเขาเป็นแค่คนขับรถแท็กซี่ ฉะนั้นทุกคนจึงไม่ได้ใส่ใจเขาเท่าไหร่
แต่ไม่คาดคิดว่าประธานของเทียนหยูกรุ๊ป จะมาหาเขา!
“บุคคลที่ประธานจะมาหา คือเขาเหรอ?”
เดิมทีซ่งเย่เตรียมจะพาเหยาซือหย่าออกไปโดยตรง แต่เมื่อเขาเห็นภาพนี้ เขาอดไม่ได้ที่จะหยุดเดิน และสีหน้าของเขาดูเหลือเชื่ออย่างมาก
ครอบครัวน้าเหยาตะลึง!
“เงินหนึ่งแสน เอามาด้วยไหม?”
หลินฮ่าวถามถึงหัวข้อหลักโดยตรง เขาถามด้วยเสียงเบา ไม่ได้พูดอะไรที่ไร้สาระ
"........"
อวี้หยูเฉินไม่รู้จะตอบอย่างไร
ผู้ชายเกือบทุกคนที่อยู่ต่อหน้าเธอ ต่างก็พยายามหาเรื่องคุยกับเธอ แต่ชายที่อยู่ตรงหน้านี้ทำเหมือนไม่อยากจะคุยกับเธอไปมากกว่าจำเป็น
“ถ้าอย่างนั้น...นายช่วยไปคุยให้หน่อยได้ไหม ให้เสี่ยวหย่าได้ทำงานในบริษัทของพวกเขา” น้าเหยาพูดอย่างประหม่า เธอเองก็รู้ว่าที่ผ่านมาเธอปฏิบัติต่อหลินฮ่าว ไม่ดีเท่าไหร่ กลัวว่าหลินฮ่าวจะไม่ตกลง
“ผมคิดว่า ไม่มีอะไรต้องพูดแล้ว”
หลินฮ่าวพูดออกมาอย่างไม่ใส่ใจอะไรมาก จากนั้นเขาก็มองไปที่เหยาซือหย่าและเดินไปหาอวี้หยูเฉิน “ไปกันเถอะ!"
“ได้ นายไปขับรถ” อวี้หยูเฉินยื่นกุญแจรถให้หลินฮ่าว
ภายใต้สายตาที่จับจ้องของทุกคน เขาขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว
“หลินฮ่าว แย่มาก เราดูแลเขาอย่างดีมาสองปี ตอนนี้เขาโชคดี ได้เป็นคนขับรถของท่านประธานเทียนหยูกรุ๊ป จากนั้นเขาก็เพิกเฉยต่อเรื่องของครอบครัวเราซะงั้น ไอ้คนเลือดเย็น " เมื่อน้าเหยาเห็นว่า หลินฮ่าวดูเหมือนจะไม่มีความคิดที่จะช่วยเหยาซือหย่าเลย เธอก็โกรธเคืองอย่างมาก ตามความคิดของเขาแล้ว ตอนนี้หลินฮ่าวไม่เพียงแต่ต้องช่วยให้เหยาซือหย่า ได้ทำงานในเทียนหยูกรุ๊ป ทางที่ดีควรหาตำแหน่งดีๆให้เธอไปด้วย แต่ตอนนี้หลินฮ่าวกลับไม่คิดจะช่วยอะไรเลย
“เสี่ยวหย่า เธอควรอยู่ให้ห่างจากหลินฮ่าว หึ เดี๋ยวฉันจะเก็บข้าวของแล้วโดยนไว้กลางถนน” น้าเหยา พูดต่อ จากนั้นมองไปที่ซ่งเย่แล้วพูดว่า “ซ่งเย่ เสี่ยวหย่าจะไปทำงานที่บริษัทนั้นได้หรือไม่ คงต้องเพิ่งความช่วยเหลือจากคุณแล้วล่ะ”
“ผมทราบดีครับ!” แม้ว่าซ่งเย่จะรับปาก แต่เขากลับเป็นห่วงหลินฮ่าวจะพูดเรื่องไม่ดีของเขาต่อหน้าอวี้หยูเฉิน และอาจส่งผลต่อการงานของเขา เขามองไปที่เหยาซือหย่าและกล่าวว่า “เสี่ยวหย่า เราไปที่บริษัทกันก่อนดีไหม?”
อันที่จริงเขาไม่อยากสนใจเหยาซือหย่าเท่าไหร่แล้ว แต่ว่าเหยาซือหย่าสวยมากจนเกินไป เขากำลังคิดว่าหากตนเบื่อแล้วค่อยทิ้งนางแล้วกัน
ส่วนเรื่องที่ตกลงว่าจะชาวยเหยาซือหย่า ใช้หนี้หนึ่งแสน ตอนนี้เขาขี้เกียจแม้แต่จะคิด
ตื๊ดตื๊ด!
ตอนนี้ โทรศัพท์ของเหยาซือหย่าก็สั่นและมีข้อความเข้ามา เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาดู
เนื้อหาของข้อความนั้นง่ายมาก " ในถุงที่ประธานอวี้ให้พี่มาเมื่อสักครู่นี้ มีเงินหนึ่งแสน ตอนนี้เรื่องหนี้สินของครอบครัวจัดการเรียบร้อยแล้ว พี่เชื่อว่า เธอสามารถเข้าเทียนหยูกรุ๊ป ได้ด้วยความสามารถของเธอเอง สู้ๆนะ น้องสาวที่แสนดี!"
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเหยาซือหย่า เป็นรอยยิ้มที่มีความสุขอย่างมาก
“เสี่ยวหย่า เราไปที่บริษัทกันเถอะ” ซ่งเย่เร่งอีกครั้ง
“โอเค ฉันจะไปสัมภาษณ์แล้วนะ”
เหยาซือหย่า พยักหน้าและไม่ปฏิเสธ แต่ความคิดในตอนนี้ของเธอแตกต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง เธอเต็มไปด้วยพลังที่จะสู้ เธฮหันกลับไปแล้วเรียกอาเหยา"พ่อคะ รีบขึ้นไปข้างบนเถอะ"
เมื่อมองดูเหยาซือหย่าและซ่งเย่จากไป อาเหยา นึกได้ว่าหลินฮ่าว และเหยาซือหย่า ต่างก็เร่งให้ตนรีบขึ้นห้องไป เขาสงสัยเล็กน้อย แต่ก็เดินขึ้นไปบนบ้าน
เมื่อเขามาถึงห้อง อาเหยาปิดประตูและเปิดกระเป๋าหนังนั้นออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บอดี้การ์ดเนื้อหอม ออกโรง!