“ประธานอวี้ อรุณสวัสดิ์ครับ!” หวงจงเยว่เองก็เผยรอยยิ้มทักทายอวี้หยูเฉิน
“ฉันรู้สึกว่าวันนี้ไม่ปกติ ท่าทางของตาแก่สามคนนี้น่าพิศวงเกินไปแล้ว ทำไมจู่ ๆถึงอ่อนน้อมกับฉันขนาดนี้ได้!” อวี้หยูเฉินเอ่ยกับหลินฮ่าว
หลินฮ่าวรู้ว่าทำไม ทว่ากลับไม่แสดงสีหน้าอะไร เอ่ยกับอวี้หยูเฉินว่า “แย่สุดก็แค่นั้นแล้ว ยังต้องกังวลอะไรอีก?”
ได้ยินหลินฮ่าวพูดดังนั้น ความกังวลในใจของอวี้หยูเฉินก็หดหายไปอย่างสิ้นเชิง นั่นสินะ ผลลัพธ์ที่แย่ที่สุดยังสามารถคาดเดาได้แล้ว ซ้ำยังต้องเกิดขึ้นแน่ ๆ เธอยังต้องกลัวอะไรอีกล่ะ
คิดได้ดังนั้น อวี้หยูเฉินก็สบายใจขึ้น
ทว่า ท่าทางของหลินฮ่าวและอวี้หยูเฉินในสายตาคนอื่นนั้นแตกต่างออกไป ถึงว่าทำไมหลินฮ่าวต้องสั่งแบบนั้น เดาว่าหลินฮ่าวคงจะเป็นยอดฝีมือสักคน ที่รวบซื้อหุ้นก็เพื่อที่จะจีบอวี้หยูเฉิน
“ถ้าบ้านเขามีลูกสาวสักคนก็คงดี มีคนมีความสามารถแบบนี้อยู่ทั้งคน ยังต้องกังวลว่าจะทำการใหญ่ไม่สำเร็จอีกทำไม!” พวกโจวเจี้ยนหัวลอบถอนหายใจในใจ
“ทุกท่านมากันเช้าจังเลยนะครับ คุณโจว คุณหวง คุณกง คุณอวี้” ทันใดนั้น ชายวัยกลางคนหัวล้านคนหนึ่งเดินเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มปริ่ม ดูแล้วเป็นมิตรสุดๆ
คนคนนี้ก็คือหวงซื่อเหริน อย่าเห็นเขาหน้าตายิ้มแย้มแบบนี้เชียว ดวงตาที่เผยแววเยือกเย็นแวบหนึ่งนั่น ดูก็รู้ว่าคนคนนี้ไม่ใช่พ่อพระอะไรแน่ ๆ
“คนคนนี้คือใคร ทำไมถึงมาเข้าร่วมประชุมบอร์ดบริหารได้ ประชุมบอร์ดบริหารเราเข้ามาได้ง่ายๆแบบนี้เลยหรือไง?” หวงซื่อเหรินมองไปที่หลินฮ่าวที่อยู่ข้างกายอวี้หยูเฉิน พลางเอ่ยเสียงเย็น
ยังไงซะถ้าผ่านวันนี้ไปเขากับอวี้หยูเฉินก็เป็นศัตรูกันอย่างสิ้นเชิงแล้ว ตอนนี้ได้หักหน้าอวี้หยูเฉินก็ยังดี
อวี้หยูเฉินตอบกลับเสียงเย็นว่า “เขาคือแฟนฉัน เขามีสิทธิ์นั่งอยู่ตรงนี้!”
“แฟนงั้นเหรอ งั้นก็แสดงว่าไม่มีหุ้นส่วนสินะ ถ้าไม่มีหุ้นส่วนงั้นก็เชิญออกไปเดี๋ยวนี้!” หวงซื่อเหรินเอ่ยเสียงเด็ดขาด
ทันใดนั้น ก็ถึงคราวพวกกงจื้อหัวจะพูดแล้ว โจวเจี้ยนหัวปริปากคนแรก เอ่ยยิ้มๆว่า “คุณหวง ผมว่าให้คุณผู้ชายคนนี้เข้าร่วมการประชุมด้วยเถอะครับ”
“ใช่ๆ ให้เขาเข้าร่วมด้วยเถอะ จะได้เป็นพยานให้พอดี!” หวงจงเยว่เอ่ยเสริมยิ้มๆ
กงจื้อหัวเองก็พยักหน้า ตลกหรือไง หลินฮ่าวมีหลักฐานของพวกเขาสามคนไว้ในมือ ซ้ำหลินฮ่าวต่างหากที่เป็นเจ้าของหุ้นส่วนที่แท้จริง พวกเขาสามคนก็เป็นแค่ตัวแทนเท่านั้น
“ดังนั้น ประธานอวี้ คุณพิจารณาดูดีๆอีกทีเถอะ ถ้าคุณสามารถปล่อยมือจากโครงการนี้ได้ แล้วขายโครงการนี้ออกไป งั้นคุณก็จะได้เป็นประธานบริษัทของคุณต่อ ผมเองก็จะสนับสนุนการตัดสินใจของคุณ”
“แน่นอน ว่าถ้าคุณยังดื้อดึงไม่ยอมปล่อย งั้นก็อย่าหาว่าเราไม่เกรงใจ ประธานอวี้ว่ายังไง?” หวงซื่อเหรินเอ่ยเสียงขรึม พลางมองอวี้หยูเฉินยิ้มๆ
ไม่ว่าจะถอดถอนโครงการ หรือปลดอวี้หยูเฉินออกจากตำแหน่ง ตราบใดที่อวี้หยูเฉินไม่อยู่บนตำแหน่งนี้ งั้นโครงการนี้ก็ย่อมถูกล้มเลิกไปเอง ถึงเวลาก็ค่อยขายให้ตู้เจียงเทา ผลประโยชน์ที่ตู้เจียงเทารับปากต้องมากกว่าตรงหน้านี้แน่ ๆ
“คุณทนดูเทียนหยูกรุ๊ปถูกบริษัทอื่นกลืนกินได้งั้นเหรอ?” อวี่หยู่เฉินรู้สึกปวดใจและผิดหวังเล็กน้อย เธอทุ่มเทแรงกายแรงใจสุดท้ายก็ได้ผลลัพธ์แบบนี้
ได้ยินอวี้หยูเฉินพูดดังนั้น หวงซื่อเหรินก็ยกยิ้มทีหนึ่ง “ก่อนอื่น ผมคือนักธุรกิจ ไม่ใช่ผู้กอบกู้โลก ผมจำเป็นต้องเลี้ยงตัวเองให้รอด”
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นทุกคนก็โหวตกันเถอะ!” อวี้หยูเฉินเอ่ยเสียงขรึม
เธอคาดเดาถึงผลลัพธ์ได้ แต่เธอก็ยังอยากจะลองดูสักครั้ง ไม่แน่สุดท้ายอาจจะมีคนมายืนฝั่งเดียวกับเธอ ตราบใดที่ใครสักคนระหว่างโจวเจี้ยนหัวหรือหวงจงเยว่สนับสนุนเธอ งั้นเธอก็จะสามารถดำเนินโครงการนี้ต่อไปได้......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บอดี้การ์ดเนื้อหอม ออกโรง!