เหยียนฟู่กู่หันหลังกลับและเข้าไปในจวนวัง!
ในส่วนที่คุณชายน้อยเสนอปรัชญาจิตใจนั้น เขาชื่นชมยิ่งนัก!
นอกจากนี้เขายังชื่นชมหวังหยวนเป็นอย่างมากที่เสนอกลยุทธ์ที่ยิ่งใหญ่ในการรื้อกำแพง กระจายครัวเรือนขนาดเล็กอย่างเท่าเทียมกัน และบูรณาการเจ้าหน้าที่และชนชั้นสูงเข้าด้วยกัน!
ตอนนี้คุณชายน้อยก็คือหวังหยวน และทั้งสองก็กลายเป็นหนึ่งเดียวกัน ซึ่งทำให้เขาชื่นชมมากยิ่งขึ้น
เขาไม่ทนกับคนพวกนี้ที่ดูถูกคุณชายน้อยอีกต่อไป ซ้ำยังพูดมากเช่นนี้!
“ยังมีสิ่งที่พวกเราไม่รู้ คุณชายหมิงถันยังซ่อนอะไรไว้อีกมากมาย!”
“ไม่เช่นนั้น พวกเจ้าคิดว่าที่นายท่านไห่เทียนถ่อมตัวลงเพื่อยกย่องคุณชายหมิงถันไปทำไมกันเล่า!”
“น่าเสียดายจริง ๆ เมื่อครู่นี้ข้าสงสัยในตัวคุณชาย ช่างเป็นบาปจริง ๆ!”
“ข้าด้วย!”
“ก่อนที่คุณชายหมิงถันและท่านไห่เทียนจะจากไป คำว่า 'เฉ่า' คำสุดท้ายนั้น มีหมายความว่าอย่างไรกัน!”
“การปฏิบัติการ การจัดการ การดำเนินการ ล้วนมีความหมายว่าการกระทำ นี่คือคำที่คุณชายสองท่านสอนนี้ให้เรารู้จักความรู้และการกระทำเป็นหนึ่งเดียวกัน!”
“อืม ต้องเป็นเช่นนั้นแน่นอน!”
“เฉ่า!
ด้านนอกจวนวัง จู่เหรินทุกคนต่างส่ายหัวและตะโกน!
...
“น้องชาย ข้าไม่คิดมาก่อนเลยว่าแขกที่ข้าเชิญคือเจ้า!”
เมื่อเขารู้ตัวตนของหวังหยวนแล้ว จ้าวเว่ยหมินก็โอบแขนและเริ่มคุ้นเคยกันทันที
หวังหยวนยิ้มอย่างขมขื่น “เดิมทีข้าอยากจะยื่นคำเชิญออกมา แต่เมื่อข้าเห็นพี่ชายถามคำถาม ข้าก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมา!”
“น้องชาย ด้วยคำสิบห้าคำที่เจ้าเสนอมา ปรัชญาจิตใจก็เสร็จสมบูรณ์!”
ทันใดนั้น วังไห่เทียนก็พูดอย่างจริงจัง “ขอถามหน่อยว่าเจ้ามีแผนจะจัดชั้นเรียนกับข้าหรือไม่ เรามาเผยแพร่ความรู้ปรัชญาจิตใจ และให้ความรู้แก่โลกหล้าไปด้วยกันเถอะ!”
เลือดของเหยียนฟู่กู่เดือดดาล!
ตราบใดที่ปรัชญาจิตใจถูกเผยแพร่ ท่านอาจารย์และคุณชายก็สามารถถูกเรียกว่าบรรพชนได้แล้ว และญาติ ๆ จะจดจำชื่อของพวกเขา
หูเมิ่งอิ๋งใจสั่น นางเคยอ่านหนังสือมาก่อนและรู้ว่าสิ่งนี้หมายถึงอะไร
เหยียนฟู่กู่ลูบที่ด้านหลังศีรษะของเขาด้วยท่าทางเศร้าใจ พร้อมสงสัยว่าเขาทำอะไรผิดไป
“ตระกูลหยางเป็นใครเชียว ให้น้องชายไปคำนับพวกเขา นี่ทำให้บัณฑิตอย่างเราขายหน้าจริง ๆ!”
วังไห่เทียนตะโกน “ไปรวบรวมหลักฐานจากเมืองโจว ให้เขารับโทษแล้วโค่นเขาลง แล้วเรื่องจะจบลง”
เหยียนฟู่กู่ยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “ท่านอาจารย์ ไม่ใช่ว่าท่านไม่รู้สถานการณ์ในท้องพระโรงเสียหน่อยแม้ว่าข้าจะรวบรวมหลักฐานที่เมืองโจวนั้น แต่เสนาบดีฝ่ายซ้ายและขวาต่างก็ทะเลาะกัน ซ้ำยังต้องใช้เวลาถึงสามถึงห้าเดือนกว่าจะรู้ผล คุณชายจะรอนานขนาดนั้นได้หรือ!”
วังไห่เทียนสะดุ้งและโบกมือ “ลืมมันซะ ข้าจะทิ้งความภูมิใจของข้า และเขียนถึงท้องพระโรง เพื่อขอร้องให้สหายเก่าของข้าจัดการโจวเฉิงคนนี้!”
หวังหยวนกล่าวว่า “พี่ชาย ข้ามีวิธี ไม่จำเป็นต้องไปถึงท้องพระโรง วิธีนี้น่าจะทำให้ทูตส่งเกลือของเมืองโจวยอมก้มหัวได้ พวกท่านดูหน่อยได้ไหมว่ามันได้ผลหรือไม่ ...”
“นี้!”
เมื่อได้ยินวิธีนี้ ต้าหู่ หูเมิ่งอิ๋ง และเหยียนฟู่กู่ก็ตกตะลึง พร้อมมองที่หวังหยวนราวกับว่าเขาเป็นสัตว์ประหลาด
ดวงตาของวังไห่เทียนเป็นประกายเมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้ เขาโอบไหล่ของหวังหยวน “ฮ่าฮ่าฮ่า น้องชาย เจ้าช่างร้ายกาจ!”
หวังหยวน “...”
วังไห่เทียนถอนหายใจ “หากตอนที่ข้าอยู่ในท้องพระโรง แล้วร้ายกาจเหมือนเจ้า ข้าคงเอาชนะคนเลวเหล่านั้นไปนานแล้ว ไป ไป ไป ไปดื่มเหล้ากับพี่ชายกันเถอะ วันนี้ไม่เมาไม่กลับ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่
อัพปตอนต่อหน่อยอ่านถึง373 แล้ววสนุก...
สนุกมมากครับ ปกติเห็นแนวนี้ตัวเอกชอบเป็นผู้หญิง...
รบกวน อัพเดท ด้วยครับ /...
รออยู่ครับ เรื่องนี้ สนุกมาก อย่าเพิ่งเท กันน่ะครับ/ขอบคุณ แอดฯ...
รอตอนต่อไปอยู่ครับ...
รอ update อยู่น๊าา กำลังสนุกเลย...
เรื่องนี้ ดีมากครับ รบกวน อัพเดท ไวๆ ใจจะขาดแล้ว ขาดตอนไปเดือนนึงแล้วครับ...
รอตอนต่อไปอยู่นะครับ แอดมิน...
ฮ่องเต้ในนิยายนี้ จับสลากได้ตำแหน่งมาแน่นอน...
ขอบคุณ admin ครับ เรื่องนี้สนุกจริงๆ...