“ ฮ่าฮ่า ไอน้องคนนี้มันล้ำหน้าจนผู้คนคาดไม่ถึงเลยจริง ๆ!”
จวนตระกูลวัง วังไห่เทียนที่ได้ยินข่าวจากค่ายทหารอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสียงดังออกมา!
วังฉงโหลวถามอย่างไม่เข้าใจ "ลุงรอง ทำไมลุงหยวนไม่สั่งให้ใครตะโกนอะไรสักอย่างล่ะ มันน่าประหลาดใจตรงไหน!"
วังไห่เทียนถอนหายใจเบา ๆ "ผู้คนส่วนใหญ่ในโลกนี้ล้วนโง่เขลา คนอื่นพูดอะไรพวกเขาก็เชื่อเช่นนั้น สิ่งที่ลุงหยวนของเจ้าทำคือการทำให้คนตะโกนบอกเล่าออกไป ไม่ว่าคำพูดนั้นจริงหรือเท็จ และไม่สนด้วยคำพูดนั้นจะจริงหรือเท็จ หากพูดย้ำออกไปซ้ำ ๆ เหล่าทหารและประชาชนในเมืองก็จะเชื่อไปตามนั้น เมื่อพวกเขาเชื่อแล้ว พวกเขาก็มีใจที่จะสู้ และการปกป้องเมืองก็จะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป”
วังฉงโหลวกังวลและพูดว่า "ลุงรอง ท่านคิดว่าลุงหยวนสามารถช่วยอู๋หลิงชนะศึกในครั้งนี้ได้หรือไม่"
วังไห่เทียนยิ้มเล็กน้อย "เดิมทีข้าเองรู้สึกกังวลเล็กน้อย แต่หลังจากเห็นการกระทำที่ไม่สมเหตุสมผลของเขาแล้ว รู้สึกว่าเขาต้องมีกลอุบายบางอย่างอยู่แน่!"
ปังปังปัง!
รถม้าของตระกูลไป๋กำลังวิ่งอยู่ในเมือง ไป๋เฟยเฟยมองไปที่เหล่าผู้ส่งสารที่รีบเร่งแพร่ข่าวออกไป ท่าทีสีหน้าที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้คนในเมือง อดไม่ได้ที่จะถูมือตัวเองแล้วกล่าวว่า "วิเศษ วิเศษมาก บัณฑิตหนุ่มผู้นั้นเป็นคนที่สุดยอดจริงๆ!”
ผู้หญิงในชุดสีม่วงประหลาดใจ "วิเศษตรงไหน?"
ไป๋เฟยเฟยเม้มริมฝีปาก "จะเป็นแม่ทัพหรือไม่ว่าใครก็ตามต่างล้วนต้องการมีหน้ามีตาทั้งนั้น แต่เขาเป็นคนขี้โกงชั่วร้าย ไม่สนหน้าตาอะไรทั้งนั้น เขาให้คนตะโกนแบบนี้ไปทั่วทั้งเมือง ถึงว่าวิธีนี้มันจะป่าเถื่อนหยาบช้าแค่ไหน แต่มันได้ผลดีมากจริง การพูดจาซ้ำไปซ้ำมาให้ฟังมาก ๆ จะทำให้เราไม่ต้องใช้สมองคิดมาก และจะคิดแค่ว่าจะชนะศึกนี้ได้จริง!”
ผู้หญิงในชุดสีม่วงพูดว่า "ถ้าอย่างนั้นเราจะชนะศึกครั้งนี้ได้ไหม"
ไป๋เฟยเฟยถอนหายใจ "แม้ว่าอู๋หลิงจะสืบทอดทักษะทางทหารและความกล้าหาญของแม่ทัพมู่มา แต่เขายังไม่สมบูรณ์แบบ และยังตามหลังแม่ทัพมู่อยู่ก้าวเดียว ตอนนี้กองทัพเกราะทมิฬที่แสนเกรียงไกรได้ถูกยุบไปแล้ว มีเพียงกองกำลังเล็ก ๆ พวกนี้ในเมืองเท่านั้น หากคิดจะจัดการอ๋องถูหนานผู้แสนเจ้าเล่ห์ที่มีทหารม้านับแสนคน ข้านึกไม่ออกเลยว่าเขาจะมีโอกาสชนะได้อย่างไร!”
ผู้หญิงในชุดสีม่วงดูหดหู่
“สาวน้อย อย่าเพิ่งเศร้าไป ข้ายังพูดไม่จบ!”
ไป่เฟยเฟยกระพริบตา "แต่ตอนนี้สถานการณ์ไม่ปกติ มีบัณฑิตหนุ่มผู้นั้นอยู่!"
ผู้หญิงในชุดสีม่วงขมวดคิ้ว "เขาเป็นเพียงบัณฑิต และไม่มีแรงจะฆ่าไก่ด้วยซ้ำ อยู่ที่นี่จะเปลี่ยนสถานการณ์ของสงครามได้อย่างไร"
“เจ้าคิดผิดแล้ว!”
ไป๋เฟยเฟยส่ายหัวแล้วพูดว่า "เจ้าว่าคนคนหนึ่งจะติดป้ายอันใหญ่ ๆ ใส่ร้ายผู้ว่าเขต ขายดาบในเทศกาลงานกวี และให้คนส่งสารไปตะโลกหลอกคนในเมือง คนแบบนี้ใช่คนที่รอความตายอยู่งั้นหรือ?”
เหงื่อเย็นไหลออกมาบนหน้าผากของหยางว่านหลี่ "ครั้งล่าสุดเราแค่พูดสั่งไปเท่านั้น และไม่มีหลักฐานใด ๆ เขาไม่มีหลักฐานที่เป็นชิ้นเป็นอัน เขาเอาผิดพวกเราไม่ได้หรอก"
หยางซั่วพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเทา "เขาเล่นสกปรกแบบนั้น ครั้งที่แล้วเจ้าลืมป้ายประกาศอันใหญ่นั้นไปแล้วรึ!"
หยางว่านหลี่ตัวสั่นไปทั้งตัว
ใช่ ไอหมอนั้นไม่ใช่คนดี เมื่อครั้งที่แล้วเขาเกือบหลอกตระกูลหยางให้ตายไม่เหลือแล้ว
หยางซั่วพูดอย่างระมัดระวัง "ว่านหลี่ เราไปขอโทษเขาดีไหม ไอหมอนี้ชั่วร้ายเกินไป เขามาที่เมืองจิ่วซานครั้งแรกเขานับว่าเป็นอะไรได้ ตอนนี้เขาถือป้ายทองอาญาสิทธิ์อยู่ ไม่รู้ว่าอนาคตจะแย่กว่าเดิมหรือไม่!”
หยางว่านหลี่หรี่ตาลงและส่ายหน้า "ลุงสาม ไม่ต้องกลัว! เขาถือป้ายทองอาญาสิทธิ์แล้วอย่างไร? ข้าไม่เชื่อว่าเขาจะต่อสู้กับกองทหารหนึ่งแสนนายของอ๋องถูหนานได้! รอให้แพ้ศึกนี้ ป้ายทองอาญาสิทธิ์ถูกริบไป มันต้องตายอย่างไม่มีที่ฝัง!”
...
ผู้ส่งสารตะโกนไปทั่วทั้งเมือง เงินทองทั้งหมดในบ้านของเสวี่ยผานก็ถูกค้นออกมา
นอกจากเงินมากกว่าหนึ่งแสนตำลึงที่หามาได้ในช่วงสองวันที่ผ่านมาแล้ว ยังมีเบี้ยหวัดทหาร ค่าธัญพืชทั้งหลาย เสบียงทหาร และอีกมากมายที่ถูกมุบมิบไว้ในอดีต รวมเป็นเงินถึงสามแสนตำลึง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่
อัพปตอนต่อหน่อยอ่านถึง373 แล้ววสนุก...
สนุกมมากครับ ปกติเห็นแนวนี้ตัวเอกชอบเป็นผู้หญิง...
รบกวน อัพเดท ด้วยครับ /...
รออยู่ครับ เรื่องนี้ สนุกมาก อย่าเพิ่งเท กันน่ะครับ/ขอบคุณ แอดฯ...
รอตอนต่อไปอยู่ครับ...
รอ update อยู่น๊าา กำลังสนุกเลย...
เรื่องนี้ ดีมากครับ รบกวน อัพเดท ไวๆ ใจจะขาดแล้ว ขาดตอนไปเดือนนึงแล้วครับ...
รอตอนต่อไปอยู่นะครับ แอดมิน...
ฮ่องเต้ในนิยายนี้ จับสลากได้ตำแหน่งมาแน่นอน...
ขอบคุณ admin ครับ เรื่องนี้สนุกจริงๆ...