บทที่ 1099 พายุที่เกิดจากความเข้าใจผิด
บทที่ 1099 พายุที่เกิดจากความเข้าใจผิด
เฉินซียังคงเมินเฉยต่อเสียงตะโกนอันเกรี้ยวกราดของชิงเอ๋อร์ และตั้งใจจากไป
“ไอ้สารเลว! เจ้าไม่ได้ยินที่นางบอกให้เจ้าหยุดหรือ?!”
เมื่อเห็นเฉินซีจากไป ชายหนุ่มในชุดคลุมสีทองที่เรียกว่าเว่ยเทียนก็ไม่ยินดีนัก คล้ายต้องการออกหน้าแทนชิงเอ๋อร์ จึงหมายจะกดไหล่เพื่อหยุดเฉินซีไว้ ซึ่งท่าทางของเขาดูหยิ่งยโสและไร้เหตุผลอย่างยิ่ง
เฉินซีก็เริ่มโกรธแล้ว จึงหันกลับมาอย่างรวดเร็ว และเงื้อมือขึ้น ทำให้ฝ่ามืออาบไปด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ของกฎ ก่อนที่มันจะเคลื่อนตัวไปปะทะกับมือของชายหนุ่มในชุดคลุมสีทอง
อย่างไรก็ตาม ชายหนุ่มในชุดคลุมสีทองคนนี้ก็ทำเกินไป เขากล่าววาจาอย่างไร้มารยาท อีกทั้งยังสั่งให้เฉินซีหายไป และเพื่อเป็นการรักษาใบหน้า เฉินซีจึงใช้ความอดทนอดกลั้น และไม่ถือสาอีกฝ่าย ทว่าชายหนุ่มกลับตั้งใจหยุดเฉินซีเมื่อเขาต้องการจากไป แล้วยังฟาดฝ่ามือใส่อีก การกระทำเช่นนี้ถือได้ว่าหยิ่งยโสและไม่มีเหตุผลยิ่งกว่าหญิงสาวที่เรียกว่าชิงเอ๋อร์เสียอีก
ปัง!
ยามฝ่ามือปะทะ มันปะทุด้วยแสงเจิดจ้า จากนั้นเสียงแตกหักก็ดังก้องอยู่ในอากาศ และมันมาจากข้อมือของเว่ยเทียน ร่างกระเด็นออกไปพร้อมเสียงร้องโหยหวน
แค่แลกกระบวนท่าเพียงครั้งเดียว ความแตกต่างระหว่างพวกเขาก็ชัดเจน!
ร่างกายของชิงเอ๋อร์แข็งทื่อ นางเกือบจะกัดลิ้นเมื่อเห็นฉากนี้ เพราะเว่ยเทียนเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ในขอบเขตเซียนลึกลับขั้นกลาง และเป็นศิษย์ของตระกูลเว่ยแห่งเมืองหยกขจี ยิ่งไปกว่านั้น อันดับของเขาก็อยู่ในหนึ่งร้อยอันดับแรกของเทียบอันดับเซียนภาคพื้นทวีปแห่งทวีปร้อยวสันต์
ถึงกระนั้น ตอนนี้เขาถูกซัดจนกระเด็นด้วยการฟาดเพียงครั้งจากชายหนุ่มที่มีการบ่มเพาะขอบเขตเซียนสวรรค์ขั้นสมบูรณ์แบบ!
ทันใดนั้น สายตาของชิงเอ๋อร์ที่มองเฉินซีก็เปลี่ยนไป และหวนคิดว่าวันนี้โชคของนางดูเหมือนจะดีเกินไปจริง ๆ เพราะคนที่นางคว้าไว้โดยบังเอิญนั้น กลับมีพลังฝีมือน่าเกรงขามอย่างยิ่ง
“เจ้า เจ้า ถ้าเจ้าแน่จริง…” เว่ยเทียนถูกฟาดจนกระเด็นในกระบวนท่าเดียว ชายหนุ่มจับข้อมือที่หักไว้ พร้อมกับร้องออกมาด้วยความโกรธ อย่างไรก็ตาม แม้จะกล่าวในลักษณะนี้ แต่เขากลับกลายเป็นลำแสงพุ่งตัวหลบหนีออกไปแทน
เห็นได้ชัดว่าชายคนนี้รู้ตัวดี ตนไม่อาจต่อกรกับเฉินซีได้ และอาจไปขอความช่วยเหลือ
“อย่างน้อยคนผู้นี้ก็ตัดสินใจได้ดี…” เฉินซีอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงเล็กน้อย เมื่อเห็นชายหนุ่มจากไปอย่างเด็ดขาด จากนั้นเขาก็ไม่สนใจอีก เพราะตนได้ทุบตีชายหนุ่มโอหังคนนี้แล้ว เหตุใดต้องมาคิดมากอีก?
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ควรอยู่ในทวีปร้อยวสันต์ต่อ สิ่งที่ควรทำก็คือรีบจากไปก่อนที่ปัญหาจะมาถึง
“เจ้า…เจ้าไม่รู้หรือว่าเขาเป็นใคร?” ชิงเอ๋อร์ที่อยู่ใกล้เคียงก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่า เว่ยเทียนจะจากไปไม่คิดหันหลังกลับ แต่สิ่งที่เกินความคาดหมายของนางยิ่งกว่านั้น คือคนผู้นี้ดุร้ายมากและกล้าโจมตีศิษย์ของขุมพลังอันดับหนึ่งของเมืองหยกขจี หากกล่าวตามเหตุผลแล้ว ตราบใดที่เป็นคนจากเมืองหยกขจี พวกเขาควรจะตระหนักถึงตัวตนของเว่ยเทียน
‘หรือว่าเขาไม่ได้มาจากเมืองหยกขจี?’
ชิงเอ๋อร์หายจากอาการตกใจอย่างรวดเร็ว นางถอนหายใจด้วยความโล่งอก การกระทำของเฉินซีได้ช่วยขับไล่แมลงวันทางอ้อม และมันเป็นแมลงที่นางเกลียดมาก
นางยิ้มอย่างร่าเริง “สหาย เจ้าทำได้ดียิ่ง วันนี้ข้าต้องขอบคุณเจ้าจริง ๆ ว่าแต่.. ไยเราไม่ไปกินข้าวกันสักมื้อ? เดี๋ยวข้าเลี้ยงเอง! และอย่าได้กังวลไป ข้าจะให้ค่าตอบแทนที่สัญญาไว้แน่นอน”
นางรู้สึกว่านี่เป็นการให้เกียรติอย่างมาก เพราะไม่มีใครในเมืองหยกขจีที่สามารถทำให้นางหลิวชิงเอ๋อร์เลี้ยงอาหารได้ แต่ผู้ที่ต้องการเลี้ยงอาหารนางกลับมีมากมายจนต่อแถวยาวจากที่นี่ไปถึงเมืองหยกขจี
ในความคิดของนาง เฉินซีควรจะตกลงด้วยความยินดี จากนั้นจึงเดินตามนางไป และรู้สึกมีความสุขอย่างล้นหลาม ในขณะเดียวกันก็ขอบคุณนางไม่หยุดสำหรับคำเชิญนี้
แน่นอน นางทราบอย่างชัดเจนว่า การที่เขาสามารถเอาชนะเว่ยเทียนได้ ทั้งที่มีการบ่มเพาะเพียงขอบเขตเซียนสวรรค์ จึงไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปอย่างแน่นอน แต่ดูเหมือนชายผู้นี้จะเดินทางคนเดียว ไม่มีแม้แต่รถม้า ผู้ติดตาม หรือคนรับใช้ และไม่รู้เกี่ยวกับตัวตนของเว่ยเทียนด้วยซ้ำ จึงเห็นได้ชัดว่าคนผู้นี้เป็นผู้บ่มเพาะอิสระที่มาจากดินแดนไกลแสนไกล
ชายหนุ่มผู้นี้สมควรที่จะถูกนางผูกมัด
แต่หลิวชิงเอ๋อร์กลับนึกไม่ถึง เฉินซีเพียงเหลือบมองนางด้วยความเกลียดชัง ไม่แม้แต่จะตอบนาง ก่อนจะหันหลังกลับและจากไปราวกับว่านางเป็นก้อนอากาศ
หลิวชิงเอ๋อร์รู้สึกงุนงง และนางก็ได้สติเมื่อร่างของเฉินซีได้หายไปแล้ว
‘กล้าดีอย่างไรถึงทำเช่นนี้!? ข้าหลิวชิงเอ๋อร์เคยถูกเมินอย่างเย็นชาเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน?’
‘ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ข้าเป็นคนชวนเขากินข้าว และยังจะชดเชยให้ด้วย!’
ตอนนี้นางถูกเมิน มันทำให้นางรู้สึกไม่สบายใจยิ่งกว่าความรู้สึกตอนกลืนแมลงวันเข้าไป ใบหน้าสลับวูบวาบระหว่างสีหน้าซีดเผือดและสีหน้ามืดมน
‘ไม่ได้การ! อย่างไรก็เสียหน้าเช่นนี้ไม่ได้ ข้าไม่เชื่อว่าผู้บ่มเพาะอิสระจากแดนไกลอย่างเจ้า จะกล้าเมินเฉยต่อข้าได้!’
หลิวชิงเอ๋อร์รู้สึกโกรธแค้นในใจ และไล่ตามชายคนนั้นด้วยกำลังทั้งหมดที่มีทันที
เวลาต่อมา นางสังเกตเห็นว่าเขากำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองหยกขจี และสิ่งนี้ทำให้นางแค่นหัวเราะเสียงเย็น เพราะนั่นคืออาณาเขตของนาง หลังจากเข้าไปในเมือง นางก็ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่สามารถ ‘เชิญ’ เขาได้อีก!
“ฮึ่ม! ให้ข้าดูว่าคนที่มาจากแดนไกลอย่างเจ้า จะยังกล้าเพิกเฉยข้าอีกหรือไม่!” หลิวชิงเอ๋อร์คำรามด้วยความพึงพอใจ
หากไม่ได้ประสบด้วยตัวเอง เขาก็คงสงสัยว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นในโลกได้จริงหรือ?
แต่นี่คือความจริง บางครั้งมันก็แปลกประหลาด ไร้เหตุผล และเต็มไปด้วยสถานการณ์ที่เหนือจินตนาการมากมายยิ่งกว่าตำนานเสียอีก
“เจ้าจะยืนโง่งมอยู่ตรงนั้นเพื่ออันใด? รีบคุกเข่าลง และรอรับความตายของเจ้าซะ!” เว่ยเทียนตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด
อย่างไรก็ตาม เฉินซีเพียงหายใจเข้าลึก ๆ และเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า จากนั้นก็คำนวณเวลา ซึ่งรู้ว่าต้องรีบจัดการกับปัญหาตรงหน้า มิฉะนั้น เขาอาจจะพลาดเวลาที่ค่ายกลเคลื่อนย้ายมิติในเมืองหยกขจีเปิดใช้งาน
ชู่ว! ชู่ว!
แต่ทันทีที่เฉินซีตั้งใจจะลงมือ คลื่นเสียงหวีดหวิวก็แหวกอากาศเข้ามาจากระยะไกลจากทางด้านหลัง เห็นร่างสองร่างพุ่งเข้ามาราวกับสายฟ้าฟาด
พวกเขารวดเร็วมาก!
มวลเมฆที่ร่างทั้งสองเคลื่อนผ่านถูกผ่ากลาง บังเกิดเป็นเสียงเสียดหู ทำให้สีหน้าของทุกคนที่อยู่ที่นี่จดจ้องตาไม่กะพริบ
“มีผู้เยี่ยมยุทธ์กำลังมา!”
ดวงตาของเฉินซีหรี่ลง และหันกลับไปมองรอบ ๆ แต่เมื่อเห็นร่างทั้งสองนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงเล็กน้อย เพราะดูเหมือนว่าเขาจะเคยเห็นคนทั้งสอง เมื่อตอนออกจากเมืองจตุรเทพ
ชายสองคน คนหนึ่งมีรูปร่างตรงดุจทวน สวมเสื้อผ้าสีดำ มีคิ้วคมกริบดุจดาบ และมีกลิ่นอายกดดัน ส่วนอีกคนเป็นชายหนุ่มร่างกำยำที่มีรอยสักรูปเปลวไฟที่แก้มซ้าย ส่งเสริมให้ดูดุร้ายและหยิ่งยโสยิ่งขึ้น
พวกเขาคือ เจี่ยงหนิงและเยว่เจิ้น! อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เฉินซียังไม่ทราบถึงจุดประสงค์ที่แน่ชัดของทั้งสอง
“เฉินซี!”
เฉินซีเห็นทั้งสองคน ทั้งสองก็เห็นเฉินซีเช่นกัน พวกเขาต่างตกตะลึงเล็กน้อย หลังจากนั้นจึงอุทานด้วยความประหลาดใจในเวลาเดียวกัน ดูเหมือนว่าพวกเขาจะคาดไม่ถึงมาก่อนว่าจะตามเฉินซีมาถึงที่นี่ได้
แม้จะคิดเช่นนั้น แต่ความสุขเล็ก ๆ ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า และหายไปในพริบตา คล้ายการค้นพบบางอย่างโดยบังเอิญ หลังจากออกค้นหาไปทั่ว!
อย่างไรก็ตาม ปฏิกิริยาของพวกเขา ทำให้ใบหน้าของเว่ยเทียน หลิวชิงเอ๋อร์และคนอื่น ๆ มืดมน พลางคิดในใจ ‘หรือว่าสองคนนี้จะเป็นกำลังเสริมของเจ้าเด็กนี่?’
———————————-
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...