บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1106

บทที่ 1106 มรดกที่แท้จริงของปรมาจารย์ฝูซี

บทที่ 1106 มรดกที่แท้จริงของปรมาจารย์ฝูซี

ณ โลกแห่งดารา

ภายใต้ท้องฟ้านั้นเต็มไปด้วยดวงดาวมากมาย มีทั้งหมอกเพลิงและธารดาราที่โคจรอย่างไม่มีที่สิ้นสุด พร้อมกับเปล่งแสงสุกใส เป็นภาพที่กว้างใหญ่และลึกลับ

นี่คือโลกแห่งดารา

แต่ในเวลาเดียวกัน มันก็เป็นโลกของยันต์อักขระ!

ตามที่จี้อวี๋กล่าวไว้เมื่อหลายปีก่อน มรดกที่แท้จริงของปรมาจารย์แห่งเคหาบ่มเพาะถูกซ่อนอยู่ในโลกแห่งดาราอันไร้ขอบเขตนี้!

ในทางกลับกัน ยันต์เทวะที่ทำจากธาตุทองคำ ธาตุพฤกษา ธาตุอัคคี ธาตุวารี และธาตุปฐพี เป็นเพียงยันต์เทวะพื้นฐานเท่านั้น กล่าวอีกนัยหนึ่ง พวกมันเปรียบเสมือนกุญแจ และเบื้องหลังประตูนั้นคือมรดกที่แท้จริงของปรมาจารย์แห่งเคหาบ่มเพาะ ‘ฝูซี’

เมื่อหลายปีก่อน เฉินซีอยู่เพียงขอบเขตเคหาทองคำ และเพิ่งได้รับความรู้เกี่ยวกับยันต์เทวะ แม้จะจำสิ่งที่จี้อวี๋กล่าวได้ แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจนัก และในวันนี้ชายหนุ่มเพิ่งสังเกตเห็นโชคก้อนโตที่มีเพียงตนรู้!

“นี่ไม่ใช่จุดสิ้นสุดของเต๋าแห่งยันต์อักขระ แต่เป็นการเริ่มต้นใหม่! แม้จะเป็นเรื่องของอนาคต ทว่าเจ้าจะเข้าใจเมื่อเจ้าเชี่ยวชาญในยันต์เทวะทั้งห้าแล้ว”

ยิ่งนึกถึงมากเท่าไหร่ เฉินซียิ่งตกใจมากขึ้นเท่านั้น เพราะเขาตระหนักได้ว่า ทุกคำที่ผู้อาวุโสจี้อวี๋ได้กล่าวเอาไว้เมื่อหลายปีก่อน มีความหมายอันลึกซึ้งซ่อนอยู่ น่าเสียดายที่เวลานั้นเขาไม่เข้าใจ และเพิ่งเข้าใจอย่างสมบูรณ์เมื่อครู่นี้!

“ยันต์เทวะของธาตุทั้งห้านั้นเป็นเพียงรากฐาน เป็นกุญแจที่จะเปิดประตูความลับของโลกแห่งดารา ดังนั้นมรดกเช่นใดที่อยู่เบื้องหลังประตูนั้น?” เฉินซีหายใจเข้าลึก ๆ และพยายามอย่างเต็มที่เพื่อสงบสติอารมณ์

ชายหนุ่มสัมผัสท้องฟ้าอย่างเงียบเชียบ ด้วยใจที่กระจ่างและสงบ ประสบการณ์ในการศึกษาเต๋าแห่งยันต์อักขระในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็หลั่งไหลเข้ามาในความคิด

ประสบการณ์มากมายในพิภพยันต์อักขระ

ความเข้าใจต่าง ๆ ที่ได้รับจากเจดีย์ต้าเหยี่ยน

ประสบการณ์จากการใช้เต๋าแห่งยันต์อักขระเพื่อควบคุมเต๋ารู้แจ้งที่ตนครอบครอง

ประสบการณ์ในการสร้างแดนฮุ่นตุ้นขึ้นมาใหม่ พร้อมกับจารึกผังอักขระยันต์บนเส้นลมปราณและจุดชีพของตน

ฉากเรียนรู้ยันต์เทวะวิหคอมตะวายุ ยันต์เทวะวิญญาณอสูร ยันต์เทวะอสนีบาตทมิฬ และยันต์เทวะจักรพรรดิตะวันออกจากศิษย์พี่หลียาง

ความรู้ ความเข้าใจ ประสบการณ์ การฝึกฝน… ทั้งหมดนั้นสะท้อนอยู่ในใจราวกับกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก ทำให้จิตใจตกอยู่ในสภาวะแปลกประหลาด คล้ายงุนงงแต่ก็ดูเข้าใจ

ชายหนุ่มลืมเลือนแม้แต่กาลเวลาและการเปลี่ยนแปลงในร่างกายของตน

โอม!

ไม่ทราบว่าผ่านไปนานเพียงใด เสียงพึมพำแปลก ๆ พลันแผ่ออกมาจากร่างของเฉินซี มันดังก้องกังวานระหว่างดวงดาว ผ่านหมอกเพลิงและธารดารา จนดังก้องไปทั่วทั้งโลกแห่งดารา

ดวงดาวจำนวนนับไม่ถ้วนสว่างไสว มันอบอวลไปด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์พร่างพราวเจิดจ้า!

ท่ามกลางพวกมัน ยันต์เทวะพฤกษาคราม ยันต์เทวะผสานธาตุ ยันต์เทวะไฟโลกันต์ ยันต์เทวะคงคาทมิฬ และยันต์เทวะสยบปฐพีมาบรรจบกันอย่างรวดเร็ว พร้อมกับแสงดาวอันไร้ขอบเขตส่องสว่างไปทั่วทั้งโลกแห่งดารา!

โครม!

ประตูบานหนึ่งปรากฏขึ้นท่ามกลางท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวอันลึกล้ำไร้ขอบเขต ร่างวิญญาณที่ทรงพลังราวกับเทพเจ้าอยู่มากมาย ร่างเหล่านั้นสวมมงกุฎของจักรพรรดิและครอบครองพลังศักดิ์สิทธิ์อันลึกล้ำ จนสามารถเห็นได้อย่างเลือนรางอยู่ที่หน้าประตู ก่อนที่ร่างวิญญาณเหล่านั้นจะเปล่งแสงเรืองรอง!

ลำแสงทอดยาวทางผ่านท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว เคลื่อนผ่านหมอกเพลิง และพุ่งลงมาหาเฉินซี ราวกับสะพานโค้งที่เจาะเข้าไปในส่วนลึกของจักรวาลเพื่อลงไปสู่ภพมนุษย์!

เสียงสวดมนต์และท่วงทำนองของมหาเต๋าดังกึกก้อง สั่นสะเทือนไปทั้งจักรวาล!

เฉินซีถูกอาบไล้ภายใต้แสงดาวพร่างพราว ทำให้ร่างสูงใหญ่คล้ายถูกปกคลุมด้วยแสงแห่งสวรรค์ ประหนึ่งเป็นดวงดาวพร่างพราวที่เจิดจรัสภายใต้จักรวาลนี้

แววตาของชายหนุ่มสงบนิ่ง จ้องมองประตูในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวอันไกลโพ้น และไม่ลังเลที่จะเดินขึ้นสะพานแสงแม้แต่น้อย

ในชั่วพริบตา เขาเดินทางผ่านหมอกเพลิงนับไม่ถ้วนและธารดาราเพื่อเข้าสู่ประตูบานนั้น

ความเร็วที่เคลื่อนที่ไปนั้น เร็วยิ่งกว่าการเคลื่อนย้ายผ่านห้วงมิติเสียอีก และมันก็น่าเหลือเชื่ออย่างยิ่ง

โชคดีที่นี่ไม่ใช่โลกภายนอก มิฉะนั้น แม้แต่ผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนปราชญ์ก็ยังรู้สึกสั่นสะท้าน หลังจากที่ได้เห็นฉากนี้

หลังบานประตูลึกลับ เป็นพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลที่เต็มไปด้วยความมืดมิดอันไร้ขอบเขต ไม่เห็นแม้แต่ท้องฟ้า ไม่รู้สึกถึงผืนดิน ไม่มีทั้งภูเขาหรือแม่น้ำ ไม่มีสิ่งใดเลย

เป็นเพียงพื้นที่มืดสนิทกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา!

ทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามา คลื่นพลังผันผวนอันกว้างใหญ่ ลึกลับและเยือกเย็น ก็บังเกิดขึ้นภายในพื้นที่อันมืดมิดแห่งนี้ และในเวลาเพียงชั่วพริบตา ยันต์เทวะก็ปรากฏขึ้น!

ยันต์เทวะนี้ดูเล็กมาก แต่ก็ใหญ่พอครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด ดูเรียบง่าย แต่ก็ซับซ้อนอย่างยิ่ง มองเห็นร่องรอยที่เกิดจากอักขระยันต์ทั่วยันต์เทวะ

ยันต์เทวะนี้อัศจรรย์มาก แม้จะดูขัดแย้งกัน แต่เมื่อลองพินิจดูดี ๆ ทุกส่วนกลับดูเป็นธรรมชาติ มันทั้งกลมกลืน และสมบูรณ์แบบมาก

ยันต์เทวะอนันต์!

เนื่องจากฉากนี้เป็นการใช้กฎแห่งยันต์อักขระเพื่อสั่งการกฎแห่งมหาเต๋าอื่น ๆ ก่อนที่จะรวมมันเข้ากับเต๋าแห่งกระบี่อย่างไร้ที่ติ!

โดยสรุปแล้ว กฎแห่งยันต์อักขระเป็นดั่งเคล็ดวิชา กฎแห่งมหาเต๋าอื่น ๆ เป็นพลังงานประเภทต่าง ๆ ส่วนเต๋าแห่งกระบี่เป็นดั่งพาหะของเคล็ดวิชาและพลังงานนี้ หลังจากผสานเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์ เห็นได้ชัดว่าพลังที่ระเบิดออกมานั้น น่าสะพรึงกลัวเพียงใด

ตอนนี้ปราณกระบี่ที่แตกต่างกันนับไม่ถ้วนก่อตัวจากยันต์เทวะอนันต์ เป็นดั่งสุดยอดศาสตร์เซียน สุดยอดเคล็ดวิชากระบี่ที่ใช้กฎแห่งวารีไปจนถึงขีดสุด!

เมื่อตระหนักได้ถึงเรื่องนี้ ชายหนุ่มก็หายใจเข้าลึก ๆ ซ้ำ ๆ ถ้าเขาสามารถทำความเข้าใจ ‘เคล็ดกระบี่วารี’ นี้ได้อย่างสมบูรณ์ พลังฝีมือจะก้าวหน้าอย่างแน่นอน!

ตั้งแต่เข้าสู่ภพเซียน เขายังไม่ได้สัมผัสกับศาสตร์เซียนใด ๆ เลย เพราะเคล็ดวิชาบ่มเพาะต่าง ๆ ที่ครอบครองอยู่นั้น ก็ไม่แตกต่างจากศาสตร์เซียน พวกมันแฝงไปด้วยพลังของกฎ และบางเคล็ดวิชาก็ยังทรงพลังยิ่งกว่าศาสตร์เซียนเสียอีก

ชายหนุ่มจึงไม่เคยกังวลเกี่ยวกับการไม่มีศาสตร์เซียนเลยสักนิด

แต่ตอนนี้ ดูเหมือนตัวเองจะคิดผิด เพราะสังเกตเห็นว่าความก้าวหน้ายังคงถูกจำกัด ทว่า ‘เคล็ดกระบี่วารี’ ที่แสดงอยู่ตรงหน้า กลับทรงพลังมากกว่าเคล็ดวิชากระบี่ที่ตนมีถึงสิบเท่า!

แม้ว่าพลังของกฎทั้งเก้าประเภทจะถูกบรรจุไว้ภายในการโจมตีด้วยกระบี่เพียงครั้งเดียว แต่มันก็ไม่สามารถเทียบได้กับ ‘เคล็ดกระบี่วารี’!

ราวกับไข่มุกเม็ดเล็ก ๆ ที่ส่องประกายริบหรี่ จะอาจหาญเทียบกับพระจันทร์ได้อย่างไร?

หลังจากคิดเรื่องนี้อย่างชัดเจนแล้ว เฉินซีก็ไม่ลังเลที่จะใช้กฎแห่งอัคคีแม้แต่น้อย แน่นอนว่าเขาเห็นยันต์เทวะอนันต์เปลี่ยนเป็นปราณกระบี่จำนวนนับไม่ถ้วนอีกครั้ง และปราณกระบี่ทุกเล่มก็แฝงไปด้วย

ความลึกล้ำที่แตกต่างกันของกฎแห่งอัคคี!

หลังจากนั้น เฉินซีได้ลองกฎแห่งทอง กฎแห่งพฤกษา กฎแห่งปฐพี กฎแห่งหยิน กฎแห่งหยาง กฎแห่งวายุ และกฎแห่งอัสนี ซึ่งฉากเดิม ๆ ก็เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ในที่สุดเฉินซีก็เข้าใจถึงการใช้ยันต์เทวะอนันต์อย่างลึกซึ้ง มันเป็นรูปแบบหนึ่งของมรดก มรดกอันน่าเหลือเชื่อที่สามารถอนุมานเคล็ดวิชาต่าง ๆ ด้วยพลังหาใครเทียบไม่ได้ โดยยึดตามยันต์เทวะและพลังงานของกฎที่ผู้ใช้ครอบครอง!

“น่าเกรงขาม!”

“น่าเกรงขามเสียเหลือเกิน!”

เฉินซีไม่เคยคิดมาก่อนว่ามรดกที่แท้จริงในโลกแห่งดารา เสื้อคลุมที่แท้จริงที่ปรมาจารย์แห่งเขาเทพพยากรณ์ทิ้งไว้จะเป็นยันต์เทวะที่น่าเหลือเชื่อเช่นนี้!

หลังจากนั้นไม่นาน ในที่สุด เฉินซีก็หายจากอาการตกใจ ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะตัดสินใจว่า เนื่องจากการบ่มเพาะไม่สามารถทะลวงผ่านไปยังขอบเขตเซียนลึกลับได้ ดังนั้นเขาจะใช้ช่วงเวลานี้เพื่อบ่มเพาะมรดกของ ‘เคล็ดกระบี่วารี’ ก่อน!

ด้วยวิธีนี้ พลังฝีมือจะแข็งแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน และทำให้สถานการณ์ของตนปลอดภัยยิ่งขึ้น

เมื่อตัดสินใจแล้ว เฉินซีก็ทิ้งความคิดฟุ้งซ่านทั้งหมดทันที และตั้งสมาธิ ก่อนที่จะโคจรกฎแห่งวารี เพื่อสะท้อนกับยันต์เทวะอนันต์…

———————————-

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]