บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 754

บทที่ 754 สมบัติอมตะสองชิ้น

บทที่ 754 สมบัติอมตะสองชิ้น

คัมภีร์เต๋านิรันดร์เปล่งประกายแสงบาดตา ในขณะที่คำกล่าวบนนั้นเป็นดั่งอัญมณีที่เปล่งรัศมีใสกระจ่าง ก่อนที่ตัวอักษรมากมายจะกระโจนออกมา พวกมันต่างพากันส่งเสียงกังวานด้วยท่วงทำนองเบา ๆ ของเต๋าที่เหมือนกับเสียงธรรมชาติ

จิตใจของเฉินซีดำดิ่งอยู่ในนั้น ปราศจากสุขหรือทุกข์ จิตใจอยู่ในห้วงสมาธิอย่างสมบูรณ์

ทันใดนั้น ชายหนุ่มพลันเห็นช่องเขาที่ปกคลุมไปด้วยหมอกสวรรค์ ป่าไผ่เขียวขจีที่กว้างใหญ่ และระหว่างป่าไผ่นั้นมีน้ำพุไหลออกมา

ทุกหยดที่ไหลออกมาของน้ำพุนั้นกลมเกลี้ยงดุจไข่มุกใส และมันส่งเสียงดังจ๊อก ๆ ขณะที่ไหลริน ดูธรรมดาเป็นอย่างมาก แต่เมื่อจ้องมองอย่างระมัดระวัง ภายในทุก ๆ หยดน้ำเหล่านั้น…กลับมีมหาเต๋าและกฎที่ลึกล้ำมากมาย ซึ่งเปล่งรัศมีใสกระจ่างและพลังชีวิตอันเป็นนิรันดร์ออกมา!

“นี่คือน้ำพุแห่งความเป็นนิรันดร์หรือ?”

ตามคำเล่าขานว่ากันว่า น้ำพุแห่งความเป็นนิรันดร์นั้นมีอยู่ในโลกตั้งแต่ความโกลาหลถูกแยกออกจากกัน โดยน้ำพุนี้ได้เปล่งแสงที่ทั้งสง่างามและใสกระจ่าง ซึ่งอาบด้วยความนิรันดร์และพลังออกไป …หากคนธรรมดาทั่วไปได้ดื่มมันเพียงหยดเดียว ก็จะสามารถหลีกหนีจากพันธนการของร่างกายมนุษย์ หวนคืนสู่ความเยาว์วัยอันเป็นนิรันดร์ และเกิดรากฐานในการบ่มเพาะที่มั่นคงอย่างยิ่ง!

ที่สำคัญกว่านั้น… รากฐานและการสืบทอดของเขาวิญญาณนิรันดร์ล้วนมาจากน้ำพุแห่งความเป็นนิรันดร์นี้ ดังนั้นจึงแน่ใจได้ว่า ภายในของเหลวนี้ได้ถูกประทับด้วยความรู้ลึกล้ำมากมายที่เกี่ยวข้องกับ ‘ความเป็นนิรันดร์!’ เอาไว้

เมื่อความคิดเหล่านี้แวบผ่านในจิตใจของเฉินซี น้ำพุในฉากก็เริ่มเดือดขึ้นมาทันที จากนั้นพวกมันพลันเปลี่ยนเป็นถ้อยคำที่พรั่งพรูออกมา ก่อนที่จะจมดิ่งสู่ทะเลแห่งจิตสำนึกของชายหนุ่ม

วูบ!

จิตใจของเขาล่องลอย ในขณะที่ฉากทั้งหมดตรงหน้าได้หายวับไป ส่วนร่างกายกลับคล้ายจมอยู่ในมหาสมุทรโปร่งใส ในขณะที่เคล็ดวิชาอันลึกล้ำและคลุมเครือนับไม่ถ้วนพากันพัดผ่านไปทั่วทั้งร่างของเฉินซีราวกับกระแสน้ำ

ความเป็นนิรันดร์!

ความเป็นนิรันดร์คือสิ่งใด?

สิ่งที่หลุดพ้นจากพันธนาการของกฎแห่งโลกียวิสัย และคงอยู่อย่างไม่มีที่สิ้นสุด!

นี่เป็นหนึ่งในความล้ำลึกสูงสุดของฟ้าดิน ทำให้ผู้คนนับไม่ถ้วนได้แต่ใฝ่ฝันที่จะเข้าใจมัน ยิ่งกว่านั้น มันก็เป็นเต๋ารู้แจ้งสูงสุดที่เซียนสวรรค์แสวงหาอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย!

แม้ว่าคัมภีร์เต๋านิรันดร์ที่เขาได้ทำความเข้าใจในตอนนี้จะเป็นแค่สำเนา แต่ความลึกล้ำมากมายที่ประทับอยู่ในนั้น กลับดูไร้ขอบเขตดุจทางช้างเผือก!!

แม้เฉินซีในตอนนี้จะมีความสามารถในการทำความเข้าใจ เขาก็ยังรู้สึกว่ามันยากเย็นแสนเข็ญ และกระทั่งพานคิดว่าเป็นเรื่องยากยิ่งที่จะเข้าใจคัมภีร์เต๋านี้อย่างสมบูรณ์ภายในระยะเวลาอันสั้น

โอม!

ในขณะนี้ ชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากที่อยู่ภายในห้วงสำนึกของเฉินซีพลันเกิดความผันผวนอย่างน่าประหลาด ซึ่งแตกต่างจากก่อนหน้านี้ ด้วยความผันผวนนี้ไม่เพียงเกิดขึ้นกับทั่วร่างกายของเขาเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อคัมภีร์เต๋านิรันดร์ด้วย!

ทันใดนั้น แสงที่เจิดจ้าก็สาดส่องลงมาราวมรสุม แม้ว่าคัมภีร์เต๋านิรันดร์จะเป็นเพียงฉบับสำเนา แต่มันกลับแผ่ความลึกล้ำอย่างไร้ขอบเขตออกมาในขณะนี้!

ถ้อยคำใหม่ ๆ บรรทัดแล้วบรรทัดเล่าลอยออกมา และถาโถมเข้าใส่ดั่งสายน้ำที่ขดตัวอยู่รอบตัวชายหนุ่ม โดยปรากฏการณ์นี้ดำเนินยาวนานถึงหนึ่งก้านธูปเลยทีเดียว

เฉินซีตกตะลึงกับปรากฏการณ์นี้ และเมื่อเขาพินิจคัมภีร์เต๋านิรันดร์อีกครา มันก็ยังคงเหมือนเช่นเคย ทว่ากลับมีถ้อยคำใหม่ ๆ นับไม่ถ้วนที่คลุมเครือและลึกล้ำ…ล่องลอยอยู่รอบตัวเขา!!

“หรือว่าชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากจะเปิดเผยคัมภีร์เต๋านิรันดร์ที่แท้จริงต่อหน้าข้า?”

เฉินซีสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และเชื่ออย่างแรงกล้าว่าสิ่งที่ตนคาดเดานั้นไม่มีทางผิด มิฉะนั้น…ถ้อยคำใหม่ ๆ ที่ปรากฏรอบตัวเขาจะมาจากที่ใด?

เมื่อชายหนุ่มคิดมาถึงตรงนี้ ภายในใจก็อดไม่ได้ที่จะตื่นตะลึง เพราะคัมภีร์เต๋านิรันดร์นี้ถือเป็นมรดกสูงสุดของเขาวิญญาณนิรันดร์ แม้จะเป็นแค่สำเนา แต่มันก็ยังเปี่ยมไปด้วยความรู้ที่กว้างใหญ่ไพศาลดั่งมหาสมุทร!

ทว่าตอนนี้ ชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากกลับเปิดเผยความลึกล้ำที่แท้จริงอันสมบูรณ์แบบของมันได้ …ดังนั้นความสามารถของมันจะน่าเกรงขามเพียงใดกัน?

ตั้งแต่ชายหนุ่มได้รับชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากมาจนถึงตอนนี้ มันเป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับสิ่งมหัศจรรย์เช่นนี้ และยิ่งครุ่นคิดเกี่ยวกับมัน เฉินซีก็ยิ่งรู้สึกว่าความสามารถนี้น่าสะพรึงกลัวเสียเหลือเกิน!

“หากมอบคัมภีร์เต๋าเล่มอื่นที่ไม่สมบูรณ์ให้กับข้า ชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากจะสามารถเปิดเผยให้ข้าเห็นได้หรือไม่?”

ในไม่ช้า เฉินซีก็หยุดคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะเขามีเวลาไม่มาก และตอนนี้คัมภีร์เต๋านิรันดร์ที่ชายหนุ่มต้องทำความเข้าใจนั้นก็เป็นฉบับสมบูรณ์แล้ว ดังนั้นความยากของมันจึงเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวี!

ฉับพลันจากนั้น ประกายแสงแห่งความเป็นนิรันดร์ได้พรั่งพรูออกมา ในขณะที่ทุกถ้อยคำอันเป็นเหมือนอัญมณีเปล่งประกายเจิดจ้าก็ได้เข้าห่อหุ้มเฉินซีไว้!

ท่าทางของเขาชัดเจน ในขณะที่แผ่หลังของเฉินซียังคงเหยียดตรง ชายหนุ่มนั่งตัวตรงท่ามกลางท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ขณะที่ร่างกายของเขาเปล่งกลิ่นอายที่ไม่อาจอธิบายได้ออกมา ทำให้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวเปล่งเสียงของเต๋าออกมาอย่างแผ่วเบา…

เจ็ดวันต่อมา

ทุกคนจากเขาวิญญาณนิรันดร์ได้กลับมาที่นิกายกระบี่เก้าเรืองรองอีกครั้ง

ณ ทางเดินบนภูเขา ชายหนุ่มในชุดคลุมสีทองอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากถามขึ้น “องค์หญิง จะเป็นอย่างไรหากนิกายกระบี่เก้าเรืองรองสามารถเข้าใจความลึกซึ้งของความเป็นนิรันดร์ได้ภายในเจ็ดวันจริง ๆ? เราจะรายงานกลับไปที่นิกายอย่างไรดีพ่ะย่ะค่ะ?”

คัมภีร์เต๋านิรันดร์ถือเป็นมรดกสูงสุดของเขาวิญญาณนิรันดร์ ซึ่งเป็นรากฐานของนิกายพวกเขา …หากสิ่งนี้รั่วไหลออกไปยังโลกภายนอกแล้ว มันจะกระตุ้นความโกรธของนิกายอย่างแน่นอน และผลที่ตามมาก็ไม่ใช่สิ่งที่คนใดคนหนึ่งจะแบกรับได้!

แม้แต่ทุกคนจากเขาวิญญาณนิรันดร์ก็ตกตะลึงเมื่อได้ยินสิ่งนี้ “องค์หญิงต้องการรับเฉินซีเข้าร่วมนิกายอย่างนั้นหรือ? หากเป็นเช่นนี้จริง ๆ ก็ถือว่าไม่เลวเหมือนกัน…”

ทุกคนอดไม่ได้ที่จะเริ่มดื่มด่ำกับจินตนาการของพวกเขา เพราะเขาวิญญาณนิรันดร์ย่อมยินดีต้อนรับศิษย์อย่างเฉินซี เพราะอีกฝ่ายเป็นเหมือนสมบัติวิเศษที่แม้จะมีราคาสูงล้ำ แต่พวกเขาก็ไม่กลัวเกรงว่าจะต้องเสนอราคาสูงเพียงใด จะกลัวก็เพียงว่าไม่สามารถครอบครองได้ก็เท่านั้น!

“ไม่!” ผู้อาวุโสเลี่ยเผิงกล่าวอย่างเด็ดเดี่ยว ในขณะที่เขาปฏิเสธ “หากเป็นเงื่อนไขนี้ก็ไม่จำเป็นต้องเดิมพัน”

“แล้วเหตุใดผู้อาวุโสเลี่ยเผิงถึงไม่เสนอเงื่อนไขมาเล่า?” ไป๋หลี่เยียนไม่แปลกใจแม้แต่น้อย เพราะมันคงแปลกยิ่งนัก หากอีกฝ่ายตกลงรับเงื่อนไขเหล่านี้อย่างง่ายดาย

นางวางแผนไว้ในใจไว้ว่า จะบีบบังคับและติดสินบนเฉินซีในภายหลัง เพื่อให้ชายหนุ่มเชื่อฟังคำสั่งของนางและรับใช้อย่างเชื่อฟัง

เพราะเลี่ยเผิงไม่อยากทำให้บรรยากาศเสีย ดังนั้นเขาจึงครุ่นคิดสั้น ๆ ก่อนจะกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ในเมื่อมันเป็นการเดิมพัน เหตุใดเราถึงไม่เอาสมบัติอมตะมาวางเดิมพันเล่า?”

“สมบัติอมตะ!?”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ศิษย์ของเขาวิญญาณนิรันดร์ต่างอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ เพราะมันเป็นการพนันที่ฟุ่มเฟือยเป็นอย่างยิ่ง สมบัติอมตะนั้นประเมินค่าไม่ได้ และถือเป็นสมบัติล้ำค่าแม้แต่ในเขาวิญญาณนิรันดร์เองก็ตาม!

แน่นอนว่า พวกเขาแค่ประหลาดใจเท่านั้น เพราะเมื่อออกมายังโลกเพื่อรับประสบการณ์ในครั้งนี้ ทางนิกายได้มอบสมบัติอมตะมากมายให้กับพวกเขา ดังนั้นเมื่อเทียบกับศิษย์ของนิกายอื่น ๆ ความมั่นใจและทรัพยากรของเหล่าศิษย์จากเขาวิญญาณนิรันดร์ก็ถือว่าแข็งแกร่งกว่ามาก!

เลี่ยเผิงคาดหวังว่าเงื่อนไขนี้จะฟังสมเหตุสมผล เพราะสมบัติอมตะไม่ถือว่าด้อยค่าอย่างแน่นอน และไม่นับว่าไร้สาระเกินไปสำหรับทั้งสองนิกาย ซึ่งพวกเขาก็พอจะกัดฟันและส่งมอบมันได้

“ตกลง!” ไป๋หลี่เยียนครุ่นคิดสั้น ๆ ก่อนจะพยักหน้าเห็นด้วย จากนั้นนางพลันยกมือขึ้น และหยิบเสื้อคลุมขนนกที่มีขนาดเท่าฝ่ามือที่เปล่งประกายด้วยกระแสปราณเซียนสีเขียวเข้มออกมา

“นี่คือชุดเกราะขนนกหมอกใต้พิภพ มันเป็นสมบัติอมตะระดับธรรมดาที่มีข้อจำกัดเซียนวางไว้สามสิบหกชั้น ตราบใดที่ได้รับการขัดเกลาเป็นอย่างดี มันจะสามารถสร้างวิญญาณสมบัติได้ แม้มันจะไม่ได้ล้ำค่าเท่ากับสมบัติอมตะระดับวิญญาณทมิฬ แต่ก็ถือว่าอยู่ในอันดับต้น ๆ ของสมบัติอมตะทั่วไป”

องค์หญิงไป๋หลี่กล่าวช้า ๆ “ไม่ต้องกล่าวถึงว่า มันเป็นสมบัติอมตะที่ใช้ป้องกัน และเมื่อสวมใส่แล้ว มันยังสามารถปกป้องชีวิตของคนคนหนึ่งได้ เมื่อเผชิญกับการจู่โจมอย่างเต็มกำลังของผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนปฐพี”

เลี่ยเผิงครุ่นคิดสั้น ๆ ก่อนจะหยิบสมบัติอมตะออกมาเช่นกัน มันเป็นกระบี่เซียนที่มีสีขาวและเรียบเนียนเหมือนหิมะ เฉียบคมและโอ่อ่า เต็มไปด้วยปราณเซียนที่แหลมคมยิ่ง

กระบี่เซียนเล่มนี้ถูกเรียกว่าประกายหิมะ และมันก็เป็นสมบัติอมตะระดับธรรมดาเช่นเดียวกัน มันมีพลังโจมตีที่ไม่มีใครเทียบได้ และเมื่ออยู่ในมือของผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนปฐพี มันจะมีอานุภาพที่สั่นสะเทือนฟ้าดินได้

ในใจของไป๋หลี่เยียนกลับพึงพอใจยิ่ง เพราะคุณภาพของกระบีเซียนประกายหิมะนี้ไม่ธรรมดา และมันก็เทียบได้กับชุดเกราะขนนกหมอกใต้พิภพที่นางเสนอ ฝ่ายหนึ่งรุก อีกฝ่ายหนึ่งก็รับ ต่างฝ่ายต่างส่งเสริมกันและกัน

เมื่อการเดิมพันมีผล ทั้งคู่พลันรู้สึกคาดหวังเล็กน้อยในใจทันที “ผู้ใดจะชนะกันแน่?”

คำตอบทั้งหมดจะถูกเปิดเผย เมื่อเฉินซีมาถึงเท่านั้น!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]