บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 950

บทที่ 950 คนชุบมือเปิบ

บทที่ 950 คนชุบมือเปิบ

ณ ช่องเขาพระราหู

เมื่อเฉินซีมาถึงที่ราบใกล้เชิงเขา เขาก็พบว่ามีผู้บ่มเพาะจากเผ่าปรภพจำนวนมากกำลังรวมตัวกันอยู่ที่นี่ พวกเขาประกอบด้วยคนทุกเพศทุกวัย แม้แต่วิญญาณยมโลกก็วนเวียนเร่ร่อนอยู่ในแถบนั้น

เบื้องหน้าของพวกเขาคือดอกปารมิตาที่บานสะพรั่งเต็มพื้นดิน สีของพวกมันแดงฉานดุจเปลวเพลิง

ภาพที่โดดเด่นที่สุดคือภูเขาซึ่งตั้งตระหง่านอย่างเด็ดเดี่ยวกลางช่องเขา มันมีความสูงอยู่ราว ๆ หกสิบลี้ เฉินซีเห็นได้อย่างชัดเจนว่าทั่วทั้งภูเขาลูกนั้นเต็มไปด้วยดอกปารมิตาแดงสด ส่งผลให้มันดูคล้ายกับภูเขาไฟที่กำลังปะทุเดือด เป็นภาพที่สะดุดตาไม่น้อย

ตอนนี้เอง ผู้บ่มเพาะจากเผ่าปรภพจำนวนมากกำลังปีนขึ้นไปบนภูเขา ท่าทางของพวกเขาเหมือนกำลังค้นหาบางสิ่ง เงาของฝูงชนทอดยาวเคลื่อนไปมาตามสันเขา ดูเหมือนสิ่งที่พวกเขากำลังตามหานั้นจะล้ำค่าอย่างยิ่ง

“ให้ตายเถิด ข้าค้นที่นี่มาหนึ่งเดือนเต็มแล้ว ทว่าท่ามกลางกลุ่มดอกปารมิตาระดับเปลวเพลิง ระดับแผดเผา ระดับเพลิงกาฬ และระดับเพลิงโลกันตร์นี้ ข้าเพิ่งได้พบกับดอกปารมิตาระดับแผดเผาเพียงสองดอกเท่านั้น ข้านี่อับโชคจริง ๆ!”

“อย่าเพิ่งท้อใจไปเลย ข้าน่ะอยู่ที่นี่มาครึ่งปีแล้ว แต่ข้าเพิ่งได้รับดอกปารมิตาระดับแผดเผาเพียงสามดอกเท่านั้น ตอนนี้ข้าเองก็ชักสงสัยว่าเมื่อไรข้าจะสามารถบรรลุเต๋ารู้แจ้งแห่งปารมิตาได้”

“น่าเสียดาย ข้อจำกัดของยอดเขาปารมิตานั้นแข็งแกร่งเกินไป มีเพียงสหายเต๋าที่ลึกซึ้งในเต๋ารู้แจ้งแห่งปารมิตาเท่านั้นที่จะสามารถข้ามผ่านไปได้ มิอย่างนั้นแล้วข้าก็คงจะไปแสวงโชคที่นั่นเหมือนกัน หากว่าข้าได้รับผลปารมิตามา ก็ไม่มีสิ่งใดให้กังวลอีกชั่วชีวิต!”

“พอเถิด! อย่าเพ้อฝันกันต่อไปเลย! ยอดเขาปารมิตาหาใช่ที่ที่ใครนึกจะปีนก็ปีนได้!”

เสียงสนทนาหนึ่งดังขึ้นที่หน้าช่องเขา มันกระทบเข้ากับโสตประสาทของเฉินซีอย่างครบถ้วน

เขารู้เพียงว่าดอกปารมิตาในช่องเขาพระราหูนั้นมีหลายระดับแบ่งตามอำนาจของมัน

ระดับเปลวเพลิงนั้นมีอานุภาพต่ำที่สุด มันมีเพียงร่องรอยของเต๋ารู้แจ้งแห่งปารมิตาอยู่บางเบาจนแทบสัมผัสไม่ถึง จึงเป็นไปไม่ได้เลยเลยที่จะบรรลุและครอบครองเต๋ารู้แจ้งแห่งปารมิตาได้จากมัน แต่ถึงอย่างนั้น ดอกปารมิตาประเภทนี้ก็เป็นโอสถวิญญาณชั้นยอดที่มีมูลค่ามหาศาล เป็นที่ต้องการของโรงหมอ

ส่วนระดับแผดเผานั้นดีกว่าเล็กน้อย จากที่ผู้เยี่ยมยุทธ์เผ่าปรภพกล่าว เต๋ารู้แจ้งแห่งปารมิตาที่สั่งสมจากดอกปารมิตาระดับแผดเผาจำนวนหมื่นดอก เทียบเท่ากับเต๋ารู้แจ้งแห่งปารมิตาที่สั่งสมอยู่ในผลปารมิตาทั่ว ๆ ไปหนึ่งผล

ในทำนองเดียวกัน ปริมาณเต๋ารู้แจ้งแห่งปารมิตาของดอกปารมิตาระดับเพลิงกาฬจำนวนหนึ่งพันดอก และดอกปารมิตาระดับเพลิงโลกันตร์หนึ่งร้อยดอก เทียบได้กับที่มีอยู่ในผลปารมิตาธรรมดาผลหนึ่ง

ดอกปารมิตาทั้งสี่ระดับภายในช่องเขาพระราหูบานสะพรั่งในทุกฤดู หากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วจะพบว่าดอกปารมิตาระดับเปลวเพลิงนั้นมีมากที่สุด ในขณะที่ระดับแผดเผานั้นมีจำนวนรองลงมา และระดับเพลิงกาฬจะยิ่งพบได้ยากมากขึ้น ส่วนดอกปารมิตาระดับเพลิงโลกันตร์นั้นจะพบได้บนยอดเขาปารมิตาเท่านั้น

ยอดเขาปารมิตาเป็นยอดเขาที่มีความสูงหกสิบลี้ ภูเขาทั้งลูกสะพรั่งบานไปด้วยดอกปารมิตาจนเหมือนดินแดนที่อาบด้วยไฟฟอน

ภูเขาลูกนี้หน้าตาแปลกประหลาดยิ่ง มันเต็มไปด้วยข้อจำกัดที่น่าเกรงขาม ทำให้มีเพียงผู้เข้าใจในเต๋ารู้แจ้งแห่งปารมิตาอย่างลึกซึ้งเท่านั้นที่สามารถปีนขึ้นไปด้านบนได้

นอกจากนี้ ผลปารมิตายังพบได้เฉพาะแค่บนยอดเขาปารมิตาเท่านั้น

เมื่อได้ทราบข้อมูลทั้งหมด เฉินซีก็เงยหน้าขึ้นมองภูเขาที่อยู่ห่างไกลออกไป ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังช่องเขาโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย

เขาบรรลุความลึกล้ำแห่งปารมิตามานานแล้ว ดังนั้นจึงผ่านเกณฑ์ตามเงื่อนไขที่ข้อจำกัดกำหนดไว้สำหรับการปีนขึ้นไปบนยอดเขาปารมิตา ส่วนดอกปารมิตาระดับเปลวเพลิง ระดับแผดเผา ระดับเพลิงกาฬ และระดับเพลิงโลกันตร์นั้น หาใช่สิ่งที่เขาสนใจไม่

ฟิ้ว!

ทันทีที่ชายหนุ่มเข้าไปในช่องเขา คลื่นผันผวนอันแปลกประหลาดก็พัดผ่านใบหน้า คล้ายตั้งใจจะดึงวิญญาณของคนคนหนึ่งเข้าสู่วัฏสงสาร สิ่งนี้เป็นรัศมีของเต๋ารู้แจ้งแห่งปารมิตาไม่ผิดแน่!

เฉินซีพบว่าบรรดาผู้บ่มเพาะเผ่าปรภพหลายคนที่อยู่ในช่องเขาพระราหูนี้ไม่ได้กำลังค้นหาดอกปารมิตา ทว่ากำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ตามมุมต่าง ๆ

หากลองพิจารณาดูแล้ว ที่นี่นั้นเต็มไปด้วยกลิ่นอายของเต๋ารู้แจ้งแห่งปารมิตา ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการบ่มเพาะอย่างยิ่ง

น่าเสียดายที่เวลามีจำกัด ไม่อย่างนั้นเขาคงจะไปร่วมบ่มเพาะด้วยแล้ว …แต่ขอเพียงแค่ได้รับผลปารมิตาจากบนยอดเขา ตัวเขาก็จะบรรลุเต๋ารู้แจ้งแห่งปารมิตาขั้นสมบูรณ์ได้โดยไม่จำต้องเสียเวลาฝึกฝนที่นี่เช่นกัน!

เฉินซีสัมผัสได้ถึงความผันผวนอันแปลกประหลาดทันทีที่ก้าวเข้าไป ยิ่งเข้าใกล้ยอดเขาปารมิตามากเท่าไร ความผันผวนก็ยิ่งรุนแรงมากเท่านั้น

ถึงอย่างนั้น ความผันผวนเหล่านี้ก็ไม่อาจสร้างผลกระทบต่อเขาได้ อีกทั้ง เพียงชายหนุ่มโคจรพลังเล็กน้อยก็สามารถจัดการกับแรงกดดันที่ปะทะเข้ามานี้ได้อย่างง่ายดายแล้ว

ทันใดนั้น หม้อใบจิ๋วได้พูดขึ้นว่า “หากเจ้าตั้งใจจะรวบรวมผลปารมิตาละก็ ข้าขอแนะนำให้เจ้ารวบรวมดอกปารมิตาระดับเพลิงโลกันตร์แทน”

“เพราะเหตุใดหรือผู้อาวุโส หรือดอกปารมิตาจะมีความสำคัญ?” เฉินซีชะงักฝีเท้าและถามด้วยความประหลาดใจ

เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ จู่ ๆ นางก็ดูเหมือนจะนึกอะไรบางอย่างออก หญิงสาวพินิจมองเฉินซีตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้ม “ข้าลืมไปว่ามันก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของเจ้าด้วย จริงอยู่ที่เจ้ามาที่ยอดเขาปารมิตาเป็นครั้งแรก แต่เจ้ากลับบรรลุเต๋ารู้แจ้งแห่งปารมิตาอย่างลึกซึ้งแล้วถึงจะไม่ได้เรียกว่าขั้นสมบูรณ์ ดังนั้น… ข้าคงไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะมีอันตรายใด ๆ เกิดขึ้นกับเจ้า”

น้ำเสียงอบอุ่นของนางพูดอย่างตรงไปตรงมา

“ขอบคุณสหายเต๋ามาก” เฉินซียิ้ม เขาสัมผัสได้ว่านางหาได้มีเจตนาดูถูกเขา กลับกันนางค่อนข้างอ่อนโยนต่อคนแปลกหน้าอย่างเขามาก นับเป็นความกรุณาที่หาได้ยากยิ่ง

หลังจากที่ชายหนุ่มรู้เรื่องทั้งหมดและขอบคุณผู้บ่มเพาะหญิงจากเผ่าปรภพ เฉินซีก็ไม่ได้รอช้าอีกต่อไป ทว่ายังไม่ทันได้ไปไหน เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเสียก่อน

“ศิษย์พี่ฉิน ผู้หญิงคนนี้คือคนที่แย่งชิงผลปารมิตาของข้าไปเมื่อวาน!” ทันใดนั้น กลุ่มคนที่มีทั้งหมดห้าคนได้ตรงเข้ามาและยืนล้อมรอบหญิงสาวผู้นั้นเอาไว้ ก่อนที่หนึ่งในกลุ่มคนนั้นจะพูดขึ้นอย่างเดือดดาล

“หืม? เป็นความจริงหรือ? แม่นาง ในเมื่อเรื่องเป็นเช่นนี้ เจ้าก็ควรจะคืนผลปารมิตามาเพื่อจบปัญหานี้ใช่หรือไม่?” คนที่ถูกเรียกว่าศิษย์พี่ฉินเป็นชายวัยกลางคนที่มีท่าทางโหดเหี้ยมและเปี่ยมไปด้วยพลัง จากที่เห็นภายนอก เขาน่าจะเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนปฐพี และน่าจะเป็นผู้นำของคนกลุ่มนี้

ผู้บ่มเพาะหญิงจากเผ่าปรภพมีท่าทางเคร่งขรึม นางถอยหลังไปราวสองสามก้าว “นั่นเป็นของของข้า! ข้าไม่ได้ขโมยมันมาจากเขาแต่อย่างไร!”

“ศิษย์น้องหลี่ หรือว่าเจ้าจะโกหกข้า?” ศิษย์พี่ฉินขมวดคิ้วพลางมองไปยังศิษย์น้องของตน

“ศิษย์พี่ฉิน ข้าจะกล้าโกหกท่านได้อย่างไร ให้ข้าสาบานที่ไหนก็ได้!” ฝ่ายที่ถูกถามร้องเสียงแหลม

หญิงสาวเผ่าปรภพตอบโต้ทันควัน “ข้าจำเจ้าได้แล้ว! เมื่อวานนี้เจ้าซ่อนตัวอยู่ใกล้ ๆ ผลปารมิตา! ไม่อยากเชื่อได้ว่าเจ้าจะกล่าวหาข้าโดยไม่มีมูลเช่นนี้ ช่างเป็นคนที่น่ารังเกียจยิ่งนัก!”

“เหอะ! นี่เจ้ากำลังจะบอกว่าผลปารมิตานั่นสมควรเป็นของเจ้าหรือ?” ดวงตาของศิษย์พี่ฉินทอประกายเยือกเย็นขณะที่ก้มหน้ามองอีกฝ่าย “ข้าจะให้เวลาเจ้าสามอึดใจ หากยังไม่ส่งพวกมันมาอีกละก็ อย่าหาว่าข้าไร้ความปรานีเลย!”

“ไม่! ข้าตามหาผลปารมิตามาอย่างยากเย็นตลอดสองเดือนที่ผ่านมานี้ ข้าไม่มีวันมอบมันให้กับคนไร้ยางอายที่มาชุบมือเปิบอย่างพวกเจ้าเด็ดขาด!” ผู้บ่มเพาะหญิงแห่งเผ่าปรภพแผดเสียงลั่น ดวงตาของนางลุกโชนไปด้วยเพลิงแห่งโทสะ

“เหอะ! เจ้าไม่รู้ตัวสินะว่าคิดผิดแล้ว!” ศิษย์พี่ฉินคำรามอย่างเยือกเย็นในขณะที่คนอื่น ๆ ต่างพากันเย้ยหยัน และเผยใบหน้าโหดเหี้ยม ปราณสังหารโอบล้อมทั่วทั้งร่างกายของพวกเขา

เฉินซีอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าเมื่อเห็นสิ่งนี้ เขาเพิ่งจะพูดถึงการฆ่าฟันเพื่อแย่งชิงสมบัติไปหมาด ๆ แต่ไม่นึกเลยว่าจะได้เห็นกับตาในเวลารวดเร็วเช่นนี้ ดูเหมือนว่ายอดเขาปารมิตาจะเป็นสถานที่ที่อันตรายจริง ๆ มันไม่ใช่เพียงแค่เภทภัยที่มาจากข้อจำกัดเท่านั้น แต่ยังมีภัยจากความโลภและความป่าเถื่อนของผู้อื่นอีกด้วย

“ถอยไปซะ เจ้าพวกเศษสวะ!” สายตาของเฉินซีที่จับจ้องไปยังศิษย์พี่ฉินและคนอื่น ๆ คมกริบประหนึ่งสายฟ้าคำรามในคืนพายุเข้า ขณะที่น้ำเสียงของเขามั่นคงและนุ่มลึกยิ่ง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]