ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง
ในที่สุดซูซูก็รู้แล้วว่าทำไมฉินเทียนถึงอยู่กับหลิวหรูยู่
ก่อนหน้านี้ พูดตามตรงว่าถ้าสามีของตัวเองไปอยู่กับผู้หญิงคนอื่น โดยเฉพาะ ผู้หญิงคนนั้นเป็นดาราชั้นนำและเป็นที่หมายปองของผู้ชายมากมาย
คงไม่มีผู้หญิงคนไหนรับได้ แม้แต่ซูซูก็ไม่เว้น
ตอนนี้ ในเมื่อเรื่องที่ฉินเทียนทำ เขาทำเพื่อหล่อน ซูซูเลยรู้สึกซาบซึ้งใจมาก
หล่อนกุมมือของหลิวหรูยู่ และพูดว่า “เอาที่ไหนมาพูด ฉันจะไปหึงคุณได้ยังไงหล่ะ”
“คุณเป็นไอดอลของฉันนะ”
“ตระกูลฉินมีโอกาสได้รับใช้คุณหนูหลิว นั้นก็ถือว่าเกียรติสำหรับเขาแล้ว และก็เป็นเกียรติสำหรับฉันด้วย”
หลิวหรูยู่เหมือนยังอยากจะพูดอะไรต่อ แต่ข้างๆ เขา หลิวชิงยิ้มและพูดว่า “เอาหล่ะ ราชินีทั้งสองของฉัน พวกเธอจะยืนพูดอยู่ตรงนี้ต่อใช่ไหม?”
“เข้าไปคุยกันในห้องทำงานคุยเถอะ”
หลิวหรูยู่และซูซูหัวเราะ และเดินจับมือกันเข้าไปในอาคารซูยู่
ฉินเทียนที่อยู่ไกลออกไป พอเห็นพวกเขาเดินเข้าไปแล้ว ก็รู้สึกโล่งใจทันที
ตอนนี้เขารู้สึกว่า ผู้หญิงเป็นสิ่งที่เอาใจยากที่สุดบนโลกใบนี้
หลินเซวี่ยเดินเข้ามา รู้สึกเห็นอกเห็นใจฉินเทียนอยู่บ้าง เขายิ้มและพูดว่า “คุณครับ มีผู้หญิงสองคนล้อมรอบหึงหวงคุณ คุณไม่ดีใจหรอกหรือ?”
ฉินเทียนตอบว่า “หลินเซวี่ย อย่าพูดเรื่องไร้สาระ”
“คนยืนตรงไม่ต้องกลัวเงาเอนเอียง”
หลินเซวี่ยยิ้มและพูดว่า “ฉันรู้ แต่ความคิดของผู้หญิงยากที่จะเข้าใจ”
“ท่านประธานและดาราชั้นนำโต้คารมกัน ฉันก็เป็นกังวลแทนคุณอยู่”
“นี้คุณกำลังจะไปไหน จะไม่ไปร่วมงานเลี้ยงจริงๆ หรือ?”
ฉินเทียนยิ้มแหยๆ ตอบว่า “ผมเลี่ยงได้ด้วยหรือ”
หลินเซวี่ยเม้มปากยิ้มและพูดว่า “งั้นคุณกำลังจะกลับบ้านไปซื้อปลาหรือ?ให้ฉันไปส่งไหม?”
ฉินเทียนยิ้มแหยและพูดว่า “ท่านประธานของพวกคุณสั่งมา ฉันไม่ซื้อได้ด้วยหรือ?เอาเหอะ ไม่ต้องไปส่งหรอก ผมเรียกแท๊กซี่ไปเองดีกว่า”
หลินเซวี่ยยิ้มและพูดว่า “จริงๆ แล้ว คุณเองก็ไม่ต้องตื่นเต้นมากหรอก”
“ท่านประธานซูจัดงานเลี้ยงต้อนรับหลิวหรูยู่ คงใช้เวลาไม่นานหรอก ฉันช่วยคุณดูเอง และจะรีบบอกคุณถ้าพวกเขากลับกันไปแล้ว”
“ระหว่างนั้น คุณก็จัดสรรเวลาเองแล้วกันนะ”
ฉินเทียนพูดว่า “ผมเองก็ไม่ได้มีธุระที่จะต้องจัดสรรอะไรหรอก”
“อ้าวหรือ?” หลินเซวี่ยยิ้มและพูดต่อว่า “เท่าที่ฉันรู้มา เหลิ่งเฟิงและพวกเขา เถียงๆ กันว่าจะรอให้คุณกลับมา เลี้ยงหม้อไฟพวกเขาหน่ะ”
“คุณไม่อยากไปดื่มเหล้าตามประสาผู้ชายบ้างหรือ?”
“จริงสิ!” แววตาของฉินเทียนเป็นประกายขึ้นมา เหมือนคิดอะไรขึ้นได้ เขายิ้มและพูดว่า “หลินเซวี่ย รบกวนหน่อยนะ”
“ช่วยให้คนซื้อปลาไปส่งที่บ้าน แล้วรอให้งานเลี้ยงของท่านประธานเลิก คุณค่อยบอกผมที”
“แค่ไม่ทำซุปปลาสายก็พอแล้ว”
หลินเซวี่ยยิ้มและตอบว่า “โอเค”
“แต่ฉันสงสัยอยู่อย่าง ผู้ชายอย่างพวกคุณแต่งงานแล้ว ต้องกลัวเมียมากขนาดนี้เลยหรือ?”
“ถ้าซูซูไม่พอใจก่อน คุณจะจีบดาราชั้นนำคนนั้นต่อไปไหม?”
ฉินเทียนหน้าเครียด “จีบดาราใหญ่อะไรกัน!ไม่มีเรื่องพวกนี้สักหน่อย!”
“หลินเซวี่ย ผมไปก่อนนะ ไว้จะแนะนำผู้ชายให้รู้จักนะ”
“จริงสิ คุณว่าเหลิ่งเฟิงเป็นไงบ้าง?”
หลินเซวี่ยหน้าแดงม้วนต้วน” คุณนี้กินบนเรือนขี้บนหลังคาจังนะ!”
“ถ้ารู้แบบนี้ก่อน ฉันจะไม่ช่วยคุณหรอก!”
พูดพลาง ก็หันตัวเดินจากไป
ฉินเทียนหัวเราะ และโทรหาฉานเจี้ยน “เย็นนี้พวกคุณกินอะไรกัน?”
ฉานเจี้ยนตกใจอยู่คู่หนึ่งพูดว่า “แพะย่างไง ทำไมหรือ?”
ฉินเทียนแยกเขี้ยว คนพวกนี้กินเนื้อหมาป่าย่างไม่ได้ แต่กลับเอาเนื้อแพะย่างมาเป็นอาหารหลัก
แต่จะว่าไปก็เข้าใจได้อยู่ว่า ช่วงกลางวันพวกเขาฝึกฝนในพื้นที่ล่าสัตว์ คงใช้พลังงานไปเยอะ เลยต้องกินพวกเนื้อสัตว์ ถึงจะอยู่ท้อง
“เย็นนี้มาปาร์ตี้กัน เพิ่มเนื้อแกะอีกสองตัว เดี๋ยวฉันเอาเหล้าไปด้วย”
พูดจบ ฉินเทียนก็โทรหาเหลิ่งเฟิงอีกรอบ “ช่วงนี้ที่บ้านเป็นยังไงบ้าง?”
“โอเค!” รถคาดิลแลคมาสองคัน มุ่งหน้าออกนอกเมือง
พอมาถึงหน้าประตูใหญ่ของสวนสัตว์ร้าย ก็รู้สึกเงียบสงัด เหลิ่งเฟิงอดไม่ไหวเลยพูดว่า “พี่เทียน นี้มันไม่ใช่ฟาร์มใช่ไหม”
“ที่นี่มีอะไรอร่อยบ้างหล่ะ?”
“จริงสิพี่เทียน ไม่งั้น พวกเราไปกินหม้อไฟกันดีกว่า”
“หม้อไฟกับเหล้าขาว ถึงจะเข้ากัน” สมาชิกหลายคน ออกความเห็นมา
ส่วนสถานที่ที่ฉินเทียนเลือกไว้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้พูดออกมาตริงๆ แต่ก็ดูออกว่าต่างรู้สึกผิดหวัง
ฉินเทียนหัวเราะและพูดว่า “เข้าไปเดี๋ยวก็รู้”
เขาให้ฉานเจี้ยนส่งข้อความ “เปิดประตู”
ประตูใหญ่สองบานค่อยๆ เปิดออก รถคาดิลแลคมาสองคันค่อยๆ ขับตรงเข้าไป
“เชี้ย ที่นี่มันเยี่ยมไปเลย”
สัตว์เยอะแยะไปหมดเลย บัตรผ่านประตูน่าจะแพงมากแน่ๆ
“คนที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมือง เหมือนกับดอกไม้ที่อยู่ในเรือนกระจก พอเห็นสัตว์ป่า ก็เลยดูตื่นตาตื่นใจเป็นธรรมดา”
“นี้มันเหมือนก่อนหน้านี้ที่พวกเราออกปฏิบัติภารกิจเลย ไปนอกสถานที่บ่อยๆ และก็ไปทักทายกับเจ้าพวกนี้”
“นายอย่าพูดเลย ครั้งล่าสุดที่จับหมาป่ามา รสชาติมันสุดยอดมาก”
ไอ้หมอนี้ เริ่มตื่นเต้นขึ้นมาแล้วสิ
ฉินเทียนยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไร
ไม่รู้ว่าอีกแป้บหนึ่ง ถ้าพวกเขาเข้าสู่เขตพื้นที่สัตว์ร้าย และไม่ได้พกอาวุธติดตัวมาด้วย เมื่อเข้าถึงดินแดนสัตว์ร้ายแล้ว ก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะยังสบายอารมณ์แบบนี้ได้อยู่อีกไหม
“รสชาติยังไงหรือ หอมแบบนี้หรือเปล่า?”
“บาบีคิว!”
“นี้มันบาบีคิวนี่!”
รถคาดิลแลคเคลื่อนตัวเข้าให้อาคารวิลล่าแล้ว บรรยากาศเต็มไปด้วยกลิ่นอายธรรมชาติ พวกเขายิ่งรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้น
แต่ละคนดูเหมือนจะไม่ได้กินเนื้อหมาป่ามานานมากแล้วยังไงยังนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...