“คุณฉิน พวกเราไปคุยด้านนั้นกัน”
หม่าหงเทานำฉินเทียนไปคุยตรงที่ไม่มีคน จากนั้นถอนหายใจ
พูดด้วยความเกลียดชังเล็กน้อย:“ทั้งหมดมันเป็นเพราะฉัน!”
“ในใจคิดแต่จะเรียนเรื่องการต่อสู้ จึงไปหาคนมาต่อสู้ทั่วที่ในประเทศ จึงไม่ได้ดูแลน้องสาว”
“เธอจึงเป็นพนักงานอยู่ที่ร้านอาหารคนเดียว จากนั้นถูกไอ้ชั่วคนหนึ่งมาคุกคาม!”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ หม่าหงเทาก็กำหมัดทั้งสองข้างแน่น ดวงตาแดงก่ำ
ฉินเทียนสีหน้าเคร่งขรึมแล้วพูดว่า:“ต่อมาล่ะ?”
หม่าหงเทาพูดด้วยความโกรธ:“ไอ้หมอนั่นมันเป็นลูกคนรวย”
“หลังจากที่ผมแจ้งตำรวต เขาก็ถูกจับ ขังได้ไม่นานก็ปล่อยตัวออกมา”
“ไม่เพียงแค่นั้น จากนั้นพ่อแม่ของเขาก็จะกระทบอนาคตของเขา จึงบอกว่าน้องสาวของผมไปยั่วลูกชายของเขา”
“ยังจะฟ้องร้องพวกเรา!”
ฉินเทียนพูด:“จากนั้นล่ะ?”
หม่าหงเทากัดฟันพูดต่อไปว่า:“ผมโมโหมากไปหน่อย จึงฆ่าเจ้าหมอนั่น!”
เมื่อฉินเทียนคิดย้อนไปถึงตอนอยู่ในโรงงาน ฉีชุนที่ดูเหมือนจะข่มขู่หม่าหงเทาเรื่องน้องสาว
เขาพูดเสียงต่ำว่า:“ดังนั้นนายก็เลยพานอกสาวหนีมาข้างนอก จากนั้นมาเป็นบอดี้การ์ดภายใต้การช่วยเหลือของฉีชุน”
หม่าหงเทาพยักหน้า น้ำตาคลอแล้วพูดว่า:“นับจากนั้นเป็นคนมา เสี่ยวเซวี่ยก็ปิดตัว กลัวคนแปลกหน้า”
“โดยเฉพาะคนแปลกหน้าผู้ชาย”
“ผมก็ไม่มีวิธี หาสถานที่ที่ปลอดภัยให้กับเสี่ยวเซวี่ยได้ ทำได้เพียงฟังคำพูดของฉีชุน”
ฉินเทียนมองหม่าหงเทา:“ตอนนี้ นายจะทำยังไง?”
“นายมาหาฉัน มีอะไรให้ฉันช่วยเหรอ?”
หม่าหงเทากัดฟัน จู่ๆ ก็คุกเข่าแล้วพูดว่า:“คุณฉิน ผมอยากจะติดตามคุณ!”
“เพียงแค่คุณรับพวกเราสองพี่น้อง ให้สถานที่ปลอดภัยกับน้องสาวของผม ให้ผมทำอะไรก็ได้!”
ฉินเทียนถอนหายใจ ความรู้สึกของพี่น้องของหม่าหงเทานี้ เขาประทับใจมาก
“เหล่าหม่า ลุกขึ้นเถอะ”
“คุณ รับปากแล้วใช่ไหม?”
ฉินเทียนพยักหน้า:“เรียกเสี่ยวเซวี่ยมา ไปหลงเจียงกับฉัน”
หม่าหงเทาตื่นเต้นเป็นอย่างมาก จากนั้นรีบไปพูดอธิบายเสียงต่ำกับเสี่ยวเซวี่ย
ส่วนเสี่ยวเซวี่ยก็เหลือบมองไปที่ฉินเทียน ในที่สุดเธอก็ค่อยๆ ลุกขึ้นช้าๆ จากนั้นเดินห่อตัวอยู่ที่ด้านข้างของพี่ชาย
เมื่อมาถึงด้านนอก กงลี่และซูซู ก็คอยอยู่ที่ข้างๆ รถ
ฉินเทียนพูดอย่างจริงใจว่า:“ที่รัก กงลี่ นี่คือเสี่ยวเซวี่ย เป็นน้องสาวของเหล่าหม่า”
“เธอกับเหล่าหม่า จะไปหลงเจียงกับพวกเรา”
“พวกเธอดูแลด้วยนะ”
ทั้งสองสาวพยักหน้า กงลี่รีบเข้าไปจับมือเสี่ยวเซวี่ย เพื่อเรียกให้เธอขึ้นมาบนรถ
ซูซูหัวเราะแล้วพูดว่า:“ช่างดีเลยจริงๆ!”
“นับจากนี้ไป ข้างกายฉันก็จะมีเสี่ยวเซวี่ยเพิ่มมาอีกหนึ่งคน”
“เธอชื่อหม่าเซวี่ย ยังมีอีกคนหนึ่งชื่อหลินเซวี่ย เดี๋ยวเอาไว้ฉันจะแนะนำให้พวกเธอรู้จักกัน”
“ขอบคุณคุณนายมาก!”
“เรื่องก่อนหน้านี้ผมต้องขอโทษด้วย!”หม่าหงเทาประทับใจเป็นอย่างมาก
เขาดูออกว่า ซูซูชอบน้องสาวของเขาจริง
“เรื่องที่ผ่านไปแล้วไม่ต้องพูดอีก พี่หม่า รีบขึ้นรถเถอะ”
เมื่อทุกคนขึ้นรถ กงลี่และซูซูก็ไปนั่งด้านหลังเป็นเพื่อนหม่าเซวี่ย
หม่าเซวี่ยที่กล้าๆ กลัวเป็นอย่างมาก เมื่อมีการปลอบใจจากพี่สาวสวยทั้งสองคน ก็ปรับตัวได้เร็วขึ้น
ฉินเทียนขับรถตามคำแนะนำของกงลี่ ไปที่บ้านเพื่อนของเธอเพื่อไปรับเสี่ยวเฉียง
เสี่ยวเฉียงกอดตุ๊กตาผ้าพูดด้วยเสียงพึมพำว่า:“นี่เป็นของเด็กผู้หญิง ผมยกให้พี่”
“ผมชื่อเสี่ยวเฉียง พี่ชื่ออะไร?”
หม่าเซวี่ยพูดด้วยเสียงต่ำว่า:“ฉันชื่อเสี่ยวเซวี่ย”
เสี่ยวเฉียงพูดอย่างตั้งใจว่า:“พี่เสี่ยวเซวี่ย พี่ชอบตุ๊กตาผ้าเหรอ?”
หม่าเซวี่ยลังเลไปครู่หนึ่ง จากนั้นพยักหน้าด้วยความหน้าแดง
เมื่อมองผ่านกระจกด้านหลัง ฉินเทียนเห็นนัยน์ตาของเธอปรากฏลอยยิ้มที่หาได้ยาก
ความน่าเบื่อตลอดทาง กงลี่และซูซูจึงตั้งใจแกล้งเธอว่าให้เรียกว่าพี่สาว
ในที่สุด หม่าเซวี่ยก็พูดอย่างระมัดระวัง เรียก:“พี่ซู พี่ลี่”
เมื่อได้ยินเสียงนี้ หม่าหงเทาที่นั่งข้างคนขับ ก็ดวงตาระรื้นเป็นสีแดง จากนั้นก็มีน้ำตาไหลลงมา
นี่เป็นน้ำตาแห่งความสุข!
“ประเภทเดียวกัน?”หลินเซวี่ยเบิกตากว้างแล้วพูดว่า:“ท่านประธาน คุณคงไม่ได้รับพนักงานขับรถขึ้นอีกคนหรอกนะ?”
“ฉันทำตรงไหนให้ไม่พอใจหรือเปล่า?”
มีความน้อยใจและหวาดกลัวในอารมณ์นั้น
ซูซูรีบพูด:“เธอพูดมั่วอะไร!”
“ที่ฉันหมายถึงประเภทเดียวกัน คือเป็นนกกระจอกน้อยเหมือนกับเธอ”
“เสี่ยวเซวี่ย ลงรถมา”
ซูซูหัวเราะและดึงหม่าเซวี่ยลงจากรถ
หลินเซวี่ยพูดด้วยความประหลาดใจ:“เธอก็ชื่อว่าหลินเซวี่ย?”
หม่าเซวี่ยมีความแปลกหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็ไปห่อตัวที่ด้านหลังของซูซู
ซูซูรีบพูดว่า:“เธอเสียงเบาๆ หน่อย ”
“เธอก็แซ่หม่า ชื่อหม่าเซวี่ย”
ส่วนกงลี่ก็อุ้มเสี่ยวเฉียงลงจากรถ เสี่ยวเฉียงพูดด้วยความดีใจว่า:“พี่หลินเซวี่ย ตอนนี้มีพี่หม่าเซวี่ยเพิ่มมาอีกหนึ่งคนแล้ว”
“พี่ทั้งสองคนเป็นนกกระจอกน้อย”
หลินเซวี่ยหัวเราะคิกคัก จากนั้นดึงมือของหม่าเซวี่ยลงมาแล้วพูดว่า:“ฉันไม่สน ฉันคือหลินเซวี่ยส่วนเธอเป็นนกกระจอกน้อยที่อยู่ในป่า”
“ดังนั้นต่อไป เธอก็จะต้องเรียกฉันว่าพี่สาวด้วย”
หม่าเซวี่ยมองหลินเซวี่ยด้วยความเขินอาย ทันใดนั้นก็พูดเสียงต่ำว่า:“พี่สาว”
หลินเซวี่ยดีใจมาก
ต้องพูดว่า การที่หม่าเซวี่ยเป็นสาวน้อยที่มีท่าทางกล้าๆ กลัวๆ เขินอายแบบนี้ทำให้คนยิ่งอยากจะทะนุถนอม พร้อมกับอยากที่จะปกป้อง
หลินเซวี่ย
ซูซูอมยิ้มแล้วหันไปมองฉินเทียน จากนั้นพูดว่า:“นายจะพากพี่หม่าไปที่ไหนก็ได้ ฉันไม่สน แต่ว่าหม่าเซวี่ยจะไปไหนนั้น ฉันจะเป็นคนตัดสินใจเอง”
“หวังว่านายจะเห็นด้วย”
ฉินเทียนมองไปยังหม่าหงเทา
หม่าหงเทารีบเช็ดตาจากนั้นก็พูดว่า:“ขอให้คุณผู้หญิงแจ้งมาเลย”
ไม่รู้ว่าซูซูจะวางแผนให้น้องสาวของเขาทำอะไร เขายังมีความกังวลเล็กน้อยในใจของเขา
เนื่องจากน้องสาวของเขาอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องดูแลมากเป็นพิเศษ หลังจากเกิดเรื่องหลายปีตอนนั้น เธอก็ไม่เคยห่างจากเขาเลย
ความหมายของซูซูตอนนี้ จะพาน้องสาวของเขาไป?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...