พอกลับถึงบ้าน ไฟเปิดสว่างจ้า
ซูซูยังไม่เข้านอน สวมใส่ชุดนอน นั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟาดูทีวีไปพลาง แทะเม็ดแตงโมไปพลาง
“เมียจ๋า ทำไมยังไม่นอนอีกล่ะ?หรือว่าฉันยังกลับไม่ถึงบ้าน เธอก็เลยนอนไม่หลับ?” ฉินเทียนถามอย่างขำๆ
ซูซูแยกเขี้ยว จากนั้นก็พูดอย่างงอนๆ ว่า “ที่รัก ฉันเสียใจ!”
ฉินเทียนตกใจ รีบนั่งลงปลอมหล่อน และพูดว่า “เกิดอะไรขึ้น?”
“จริงสิ คุณแม่ยังไม่เลิกงานอีกหรือ?แล้วอาเซวี่ยแหละ?”
ซูซูมุ่ยปากและพูดว่า “ยังจะพูดอีก!”
“ฉันแนะนำอาเซวี่ยให้กับหยางยู่หลัน ใครจะไปรู้ว่าคุณหยางยู่หลันที่ไร้คุณธรรมคนนั้น ก็ลืมฉันไปเลยทันที”
“ฉันทำอะไรก็ผิดไปหมด อย่างกับว่าฉันเป็นส่วนเกิน”
“ตอนนี้พวกเขาสองคนอยู่ข้างบน ไม่รู้ทำอะไรกันไปบ้างแล้ว!”
หล่อนจงใจพูดเสียงดังขึ้นและมองไปทางบันได ราวกับจะให้ “คุณหยางยู่หลันที่ไร้คุณธรรม” ได้ยิน
ฉินเทียนหัวเราะลั่น
กอดซูซูและพูดว่า “เด็กน้อย ไม่ต้องโกรธนะ”
“เธอก็ยังมีฉันอยู่นี้ไง?”
“แม้ว่าแม่ของเธอจะทอดทิ้งเธอไป แต่สามีของเธอคนนี้จะไม่มีวันทิ้งเธอไปไหนแน่นอน!”
ซูซูร้องฮือๆ และพูดว่า “ฉันหิวน้ำแล้ว อยากกินผลไม้!”
ฉินเทียนรีบบอกว่า “ได้!”
เขาเอาจานผลไม้ที่อยู่บนโต๊ะ หยิบส้มขึ้นมาหนึ่งลูก ปอกเปลือกเสร็จ ก็เอากลีบส้ม ป้อนไปที่ปากของซูซู
เวลานี้ หยางยู่หลันเดินลงมาจากชั้นสอง พอเห็นแบบนี้แล้ว หล่อนก็กัดฟันและพูดว่า “ซูยู่จู้ ฉันขอเตือนเธอให้มันน้อยๆ หน่อยนะ!”
“ผู้หญิงที่ทั้งขี้เกียจทั้งโง่อย่างเธอ เย็บปักถักร้อยก็ไม่เป็น เสน่ห์ปลายจวักก็ไม่มี ฉันจะมีเธอไว้เพื่อประโยชน์อะไร!”
“สามีของเธอคงเห็นเธอเป็นแก้วตาดวงใจล่ะมั้ง!”
ซูซูเคี้ยวส้มอยู่ ทำปากยื่นและพูดว่า “งั้นจากนี้ก็ตัดแม่ตัดลูกกันไปเลยแล้วกัน!”
หยางยู่หลันยิ้มและพูดว่า “ตัดก็ตัดสิ!”
“ฉันมีอาเซวี่ยคนเดียวก็พอแล้ว”
“แกยังจะมาน้อยใจอีกหรือ แกว่ามาสิ หลายปีมานี้ แกเคยทำกับข้าวให้ฉันกินสักมื้อบ้างไหม?”
“แล้วแกดูอาเซวี่ย เข้าบ้านมาวันแรก ก็ทำความสะอาดบ้าน ซักผ้า ทำกับข้าวให้ฉันแล้ว”
“ลูกสาวที่รู้เดียงสาแบบนี้ จะไม่ให้ฉันเจ็บใจบ้างหรือไง?”
ฉินเทียนยิ้มและพูดว่า “แม่ครับ วันนี้อาเซวี่ยเป็นคนทำกับข้าวนะครับ”
หยางยู่หลันรีบตอบว่า “ถึงจะไม่ใช่ แต่อาเซวี่ยเขาก็ทำเป็น”
“ทั้งรู้เดียงสา ทั้งขยัน ไอหยา สวรรค์มีตา ทำไมถึงได้ส่งลูกสาวที่ดีขนาดนี้มาให้ฉันนะ”
ซูซูหัวเราะและพูดว่า “ไม่ใช่สวรรค์ส่งให้หรอก ฉันนี่แหละเป็นคนส่งให้คุณเอง!”
หยางยู่หลันถอนใจพูดว่า “แกมาจากที่ไหนกัน?”
ซูซูโกรธจนตาแทบจะถลน โยนหมอนที่อยู่ในมือออก ลุกขึ้นและดึงฉินเทียน พูดว่า “ไปกันเถอะ!”
“พวกเรามันเป็นส่วนเกิน!”
“พวกเราไปให้ไกลจากผู้หญิงคนนี้ดีกว่า”
หยางยู่หลันหัวเราะและพูดว่า “ยิ่งไกลยิ่งดี!”
“ในเมื่อวันนี้แกแต่งงานออกเรือนไปแล้ว จากนี้ก็ไปดูแลสามีของแกให้ดีเถอะ ฉันมีอาเซวี่ยคนเดียวก็พอแล้ว”
ซูซูโกรธจนหน้าแดง รีบสลัดมือของฉินเทียนออก
ฉินเทียนมองดูสาวทั้งสองมีความสุขขนาดนี้ เขายืนอยู่ข้างๆ ยิ้มไม่หุบ
เงยหน้าขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ เห็นอาเซวี่ยยืนอยู่ที่หัวบันได
หล่อนพึ่งสระผมเสร็จ เปลี่ยนชุดนอนใหม่ หน้าแดง ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี
ฉินเทียนรีบพูดว่า “อาเซวี่ย ลงมากินผลไม้ด้วยกันสิ”
อาเซวี่ยลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ตอบว่า “พี่คะ ฉันทำให้พี่สาวเขาโกรธหรือเปล่าคะ?”
“ถ้าใช่ งั้น ฉันไปก่อนดีกว่าค่ะ”
ซูซูหัวเราะคิกคัก รีบวิ่งมาดึงมืออาเซวี่ยไว้
พูดว่า “น้องสาวที่รัก ฉันจะไปโกรธเธอได้ยังไงล่ะ ฉันโกรธหยางยู่หลันต่างหาก”
“ชุดที่เธอใส่อยู่นี้ฉันเป็นคนซื้อมาเอง เธอใส่แล้วดูสวยจังนะ”
ถ้าเธอไม่รังเกียจ ในตู้เสื้อผ้าฉันยังไม่อีกเยอะ เธอชอบชุดไหนก็เลือกใส่ได้ตามสบายเลย”
“รูปร่างเราสองคนไม่ต่างกันสักเท่าไรนัก”
“โอเค!”
“งั้นเรื่องนั้นยกให้แกจัดการแล้วกันนะ”
“แม่ไว้ใจเรื่องที่แกจัดการ”
คุยต่ออีกสักพัก หยางยู่หลันกังวลว่าอาเซวี่ยจะเหนื่อยเกินไป เลยพาเขาไปพักผ่อนที่ชั้นบนก่อน
ห้องรับแขกเงียบเชียบลง ฉินเทียนมองซูซูและพูดเบาๆ ว่า “เมียจ๋า พวกเราขึ้นไปนอนกันเถอะ”
ซูซูรู้สึกแปลกๆหน้าเริ่มแดงเล็กน้อยและตอบว่า “ฉันอยากจะดูข่าวต่ออีกแป๊ป”
"เธอบอกว่า พรุ่งนี้จะมีข่าวตระกูลฉีปลอมแปลงผลิตภัณฑ์ของพวกเราหรือ เขาจะถูกสั่งลงโทษให้ล้มละลายไหม?”
“พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน ตอนนี้ไปนอนก่อนเถอะ”
ฉินเทียนเดินเข้ามา แขนข้างหนึ่งประคองขาทั้งคู่ของซูซูไว้ ส่วนอีกข้างก็ประคองไหล่ และอุ้มหล่อนเดินไปทางห้องนอน
“เกลียดเธอจัง!”
“แม่กับอาเซวี่ยยังไม่นอนเลย รีบวางฉันลงเลยนะ!” ซูซูแกว่งขาขัดขืน
สาวสวยอยู่ในมือแล้ว ฉินเทียนจะยอมปล่อยไปได้ยังไงหล่ะ
อุ้มซูซูและวางลงบนเตียงนอนใหญ่อันแสนนุ่มนิ่ม
ซูซูหน้าแดงก่ำ กัดฟันและพูดเบาๆ ว่า “ถ้าเธออยากจะนอนกับฉันก็ได้นะ แต่ฉันมีข้อตกลงสามข้อ”
ฉินเทียนหัวเราะจนน้ำตาไหลและพูดว่า “ขอร้องหล่ะ พวกเราเป็นสามีภรรยากัน จะนอนด้วยกันยังต้องมีข้อตกลงอะไรตั้งสามข้อล่ะ!”
ซูซูโมโหและพูดว่า “เธอยังจะพูดอีกหรือ!”
“เธอหน่ะมันขี้โกง คิดดูดีดีนะ ก่อนหน้านี้ฉันเคยบอกแล้วว่า ถ้าไม่ได้รับอนุญาต เธอห้ามเข้ามาในห้องของฉันไง?”
ฉินเทียนพยักหน้า
ซูซูพูดต่อว่า “และฉันก็เคยพูดแล้วว่า ถ้าฉันไม่อนุญาต เธอก็....ห้ามมีอะไรกับฉัน?”
ฉินเทียนก็พยักหน้าอีก “เหมือนจะเคยบอกนะ”
“ไม่ใช่เหมือนจะ!เคยพูดแล้วแน่นอน!” ซูซูโมโหและพูดว่า “แต่ เธอก็แหกกฎมาตลอด!”
พอนึกถึงตรงนี้ หล่อนก็อดไม่ได้ที่จะโทษตัวเองว่า “สวรรค์ ฉันรู้สึกว่าฉันขึ้นมาอยู่บนเรือของโจรสลัดซะแล้ว ทำไมฉันต้องมายินยอมกับความเลอะเลือนอะไรแบบนี้ด้วย!”
ฉินเทียนโอบกอดหล่อนและพูดว่า “เพราะว่าผมมีเสน่ห์มากเกินไปไง คุณเลยไม่อยากขัดขืน”
“เหอะ!” ซูซูตอบว่า “นี่ฉันกำลังจริงจังอยู่นะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...