“ราชินีงู เหลิ่งหยุน พร้อมทั้งทีมเงามืด ขอต้อนรับราชาเทพ”
เหลิ่งหยุนกล่าวออกมาคำหนึ่ง ยืนอยู่ไม่ขยับ มองมาที่ฉินเทียนอย่างเย็นชา
พูดว่าต้อนรับ นี่มองไปแวบหนึ่ง ทำไมถึงได้เหมือนกับจะมาตีกันล่ะ?
ฉินเทียนกระอักกระอ่วน แต่ว่า ด้วยสถานะของเหลิ่งหยุน เขาจึงไม่รู้จะพูดอะไรดี
โดยเฉพาะ มองเห็นใบหน้าที่แสนจะเย็นชาเหมือนน้ำแข็งอันนี้ อีกทั้งชุดสีดำรัดแน่นจนแสดงสัดส่วนอย่างชัดเจน
คิดถึงอะไร ฉินเทียนไม่กล้าสบตาโดยตรง
สถานะของเหลิ่งหยุน พูดไปก็เรื่องยาว
บิดาของเธอเป็นคนอาณาจักรมังกร มารดาเป็นคนญี่ปุ่น ดังนั้นเธอถึงได้มีสองชื่อ ชื่อหนึ่งคือเหลิ่งหยุน ชื่อหนึ่งคือเหลิ่งน่ายจื่อ
ตอนแรก บิดาของเหลิ่งหยุน เหลิ่งจุ้น เป็นตัวแทนของชมรมศิลปะการป้องกันตัวของอาณาจักรมังกร ไปเรียนรู้ประสบการณ์จากญี่ปุ่น แล้วก็ได้ชนะอย่างน่าภาคภูมิใจ
ญี่ปุ่นไม่อยากยอมรับการพ่ายแพ้ จึงได้ส่งนินจาหญิงคนหนึ่งไปลอบสังหารเหลิ่งจุ้น
หลายครั้งหลายคราการลอบสังหารไม่ประสบความสำเร็จ เหลิ่งจุ้นต่างปล่อยนักฆ่าหญิงไป
นักฆ่าหญิงคนนั้นเพราะว่าเหตุนี้จึงได้เกิดความรู้สึกดีต่อเหลิ่งจุ้น
ทอดทิ้งหักหลังสำนัก กลับมาใช้ชีวิตอยู่กับเหลิ่งจุ้นที่อาณาจักรมังกร อยู่กันอย่างเป็ดแมนดารินคู่ผัวเมียเดียวไปจนวันตาย
สำนักนินจาของญี่ปุ่นไม่สามารถทนต่อการหักหลังของสมาชิกได้ ได้ส่งคนมาจำนวนมากเพื่อมาลอบสังหารพวกเขาที่อาณาจักรมังกร
ตอนนั้น นินจาหญิง ได้กำเนิดลูกสาวให้กับเหลิ่งจุ้นคนหนึ่งแล้ว ก็คือเหลิ่งหยุน เหลิ่งน่ายจื่อ
เผชิญหน้ากับเหล่านักฆ่าอย่างไม่เกรงกลัว เหลิ่งจุ้นคู่สามีภรรยาต่อสู้อย่างนองเลือด จนวินาทีสุดท้าย เถ้าแก่ใหญ่วิหารพญายมได้รับข่าวคราวแล้ว จึงรีบเข้าไปช่วยชีวิต
แต่ว่า ก็สายไปเสียแล้ว
แม้ว่าเขาจะได้จัดการนินจากลุ่มนั้นไปแล้ว แต่ว่าเหลิ่งจุ้นสามีภรรยานั้นบาดเจ็บหนักรักษาไม่หายจนในที่สุดก็ได้เสียชีวิตไป
ก่อนจะจากไป พวกเขาจึงฝากเด็กกำพร้าให้กับเถ้าแก่ใหญ่
ตอนนั้นเถ้าแก่ใหญ่ยังเป็นชายหนุ่ม วิหารพญายม ยังเป็นเพียงแค่ขนาดเล็กๆ
เขารับเลี้ยงเหลิ่งหยุนมาเป็นลูกสาวบุญธรรม รับปากกับเหลิ่งจุ้นสามีภรรยา ไม่ให้เธอแก้แค้น และก็ไม่เข้าร่วมสนามการสู้รบ
ดังนั้น เถ้าแก่ใหญ่จึงนำเหลิ่งหยุน ไปไว้ในบ้านของเพื่อนที่เป็นนักธุรกิจคนหนึ่ง
คาดไม่ถึง ในเลือดของเหลิ่งหยุนที่สูบฉีด เป็นเลือดของนักสังหาร
เธอใช้ช่องทางต่างๆ สืบหาความจริงเกี่ยวกับการตายของบิดามารดาในปีนั้น
ลับหลังเถ้าแก่ใหญ่ เริ่มต้นเรียนรู้เทคนิคการลอบสังหารแบบต่างๆ
ในที่สุดเข้าไปที่ญี่ปุ่นคนเดียว นำผู้รับผิดออกคำสั่งตามสังหารบิดามารดาของเธอทั้งสามคน ฆ่าตายไปสองคน
เถ้าแก่ใหญ่ได้รู้ทีหลัง ถึงกับทำอะไรไม่ถูก ทำได้เพียงยอมรับว่าเธอเลือกเดินทางนี้ อีกทั้งยังหาเวลาว่างสอนเธอบางอย่าง
แต่ว่า เพื่อจะปกป้องเหลิ่งหยุน จึงไม่เคยให้เธอเข้าร่วมวิหารพญายม
สิบปีก่อนหน้า วิหารพญายมกับดอกไม้แห่งความมืดทำสงครามครั้งใหญ่ ตอนนั้นหลายคนคิดว่าเถ้าแก่ใหญ่ได้ตายไปแล้ว
รวมทั้งเหลิ่งหยุน
จากนั้น เธอจึงแก้แค้นให้กับเถ้าแก่ใหญ่อย่างบ้าคลั่งไปทั่วโลก
ถึงแม้ว่าจะไม่แน่ใจว่าฆาตกรเป็นใคร แต่ว่า เพียงแค่เคยเกี่ยวโยงกับวิหารพญายม หรือว่าหัวหน้ากองกำลังที่เกี่ยวข้องดอกไม้แห่งความมืด ต่างเป็นเป้าหมายของเธอ
ถูกเธอฆ่าตายไปไม่น้อยเลย
หลายปีนั้น หัวหน้ากองกำลังของสำนักต่างๆทั่วโลก ต่างสั่นคลอน ไม่รู้ว่าวันไหน จะถูกนักฆ่าลึกลับคนนี้จ้องมองมา
จนต่อมาได้พบเจอฉินเทียนโดยบังเอิญ
ตอนนี้ฉินเทียนกำลังติดต่ออยู่กับหัวหน้าสำนักหนึ่งที่เรียกว่า“สำนักหุ่นเชิด”
สำนักหุ่นเชิดนี้ ไปมาหาสู่กับดอกไม้แห่งความมืดที่ถูกทำลายไปแล้วอย่างสนิทสนม
ฉินเทียนใช้สถานะของลูกค้า เข้าใกล้หุ่นเชิด ต้องการตรวจสอบ สถานการณ์เบื้องหลังของดอกไม้แห่งความมืด
ตอนนั้น ได้รับการเชื่อใจจากผู้นำของหุ่นเชิดแล้ว เขารับปากว่าจะพาฉินเทียนไปหาผู้นำของดอกไม้แห่งความมืด
คืนนั้น ผู้นำของหุ่นเชิดได้จัดเตรียมหญิงสาวไว้ให้กับฉินเทียนคนหนึ่ง
หญิงสาวคนนั้นเป็นชาวเอเชีย พึ่งจะเข้ามา มองเห็นใบหน้าที่แสนเย็นชา งดงามราวกับเทพธิดา
แต่ว่า เมื่อเธอเดินตรงเข้ามาหาฉินเทียน สิ่งที่ฉินเทียนได้เห็น ก็คือไฟหนึ่งกอง
เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกสงสัยจากหุ่นเชิด เขาจึงตัดสินใจแล้วว่า จะยอมรับผู้หญิงคนนี้
จนถึงเวลาสำคัญ ในริมฝีปากสีแดงพ่นใบมีดออกมา เกือบจะปาดคอเขาเข้าแล้ว
ถึงแม้ว่าเสียงจะไม่ดัง แต่ว่า สำหรับมีดเย็นๆเล่มหนึ่งไม่ต้องสงสัยเลย
เหลิ่งหยุน อีกทั้งลูกน้องของเธอทั้งรัง ทั้งหมดสีหน้าเปลี่ยนไปแล้ว
แววตาของเหลิ่งหยุน มองมาบนใบหน้าของเถียหนิงซวง พูดออกมาอย่างเย็นชา:“คุณพูดว่าอะไรนะ?”
“คุณกล้าพูดอีกครั้ง?”
เถียหนิงซวงด้วยอารมรมณ์ของคุณหนูใหญ่ ไม่ตกหลุมพรางของเหลิ่งหยุนหรอก
เธอเห็นว่าเหลิ่งหยุนเป็นเพียงลูกน้องของฉินเทียน ยังกล้าพูดกับฉินเทียนแบบนี้ ดังนั้น อดที่จะโมโหความไม่ยุติธรรมไม่ได้
เธอและคนของคำสาปสวรรค์ทั้งหมด ถึงแม้ว่าปกติจะพูดคุยสนุกสนานกับฉินเทียน
แต่ว่าภายในใจของพวกเขา ฉินเทียนไม่ใช่สิ่งที่จะลบหลู่ได้
ภายนอกพวกเขาดูสนุกสนาน ความเคารพและนับถือนั้นมากมายมหาศาล
พูดความจริง ไม่ใช่เพียงแค่เถียหนิงซวง คนอื่นๆ ยกตัวอย่างเช่น เหมยหงเซว่ ถงชวน เถียปี้ ต่างมองลักษณะท่าทางอันนี้ของเหลิ่งหยุนไม่คุ้นชิน
เพียงแต่ว่าพวกเขากลั้นเอาไว้ไม่พูดออกมา
เวลานี้ กำลังปะทะกับแววตาอันแสนเยือกเย็นของเหลิ่งหยุน เถียหนิงซวงก็ไม่ได้อ่อนแอแม้แต่น้อย
เผยรอยยิ้มแสนเย็นชาพูดว่า:“ฉันพูดว่า——”
เถียหนิงซวงพึ่งจะเอ่ยปาก เหลิ่งหยุนที่อยู่เบื้องหน้า กลับได้หายไปแล้ว วินาทีต่อมา เธอรู้สึกว่าคอเย็นๆ ทั้งร่างนิ่งอึ้งไปทันที
เหลิ่งหยุนนำมีดสั้นเล่มหนึ่งที่สะท้อนแสงสีฟ้าจ่อไปที่คอของเถียหนิงซวง พูดอย่างเย็นชาว่า:“น้องสาว คุณพูดว่าอะไรนะ?”
เถียหนิงซวงอ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออก
“ปล่อยเธอ!”
ได้สติขึ้นมา เสียงโทนต่ำของหม่าหงเทา สะบัดมือแป๊บเดียว ชักดาบออกมา จ่อมาบนคอของเหลิ่งหยุนแล้ว
เหลิ่งหยุนวางมือลง ทีมเงามืด รีบร้อนวิ่งเข้ามา เผชิญหน้ากับคนของคำสาปสวรรค์
เหลิ่งหยุนยิ้มออกมาอย่างเย็นชา จ้องมองหม่าหงเทา พูดว่า :“ดาบไม่เลว”
“เพียงแต่ว่าคุณเชื่อหรือไม่ ถ้าฉันต้องการฆ่าคุณ เดิมทีคุณไม่มีโอกาสได้ชักดาบหรอก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...