“ที่แท้เป้าหมายของนายก็คือสุสานฮุนโหว!”
“นายเป็นใครกันแน่?”
เมื่อตระหนักได้ว่าก่อนหน้านี้ตนเองนั้นมองฉินเทียนผิดพลาดไป เกาชาวทั้งอายทั้งโกรธเคือง เขาไม่เคยได้รับความอัปยศเช่นนี้ ถูกคนอื่นปิดหูปิดตาและหลอกใช้ไปมาราวกับว่าเป็นลิงอย่างไรอย่างนั้น
หากว่าตอนนี้ในมือของเขากำลังถือปืน เขาจะยิงศีรษะของฉินเทียนอย่างไม่ลังเล
แต่ทว่าน่าเสียดาย เขากลับไม่สามารถทำอะไรได้เลย
“ตอนี้ นายไม่มีคุณสมบัติที่จะมาเอ่ยถามอะไรฉัน” ฉินเทียนเอ่ยอย่างเยือกเย็น มือของเขาเพิ่มแรงขึ้นอีกเล็กน้อย
เกาชาวกรีดร้องออกมาอีกครั้งอย่างน่าเวทนา
“หยุด!”
“ฉันพูด! ฉันจะพูดทุกอย่าง!”
แต่ไหนแต่ไรเขาไม่เคยรู้สึกว่าคอของเขาบอบบางเช่นนี้ ชีวิตของเขาก็ช่างเปราะบางเช่นกัน
มือของฉินเทียนนั้นเป็นเหมือนกับกรงเล็บของนรกอเวจี ลำคอที่น่าสงสารของเขาก็เหมือนฟางข้าวเส้นหนึ่ง สามารถแยกและขาดได้ทุกเมื่อ ทำให้ชีวิตของเขามลายหายไปได้ในทันควัน
บริเวณโดยรอบ เฝิงเปียวและคนอื่นต่างก็จะขว้างหนูก็กลัวจะไปกระทบของมีค่าที่อยู่ด้านข้าง[1] ไม่กล้าที่จะกระทำการผลีผลาม
เกาชาวทอดถอนหายใจและเอ่ย “เรื่องของสุสานฮุนโหว หลิวเสี่ยวเป่าเป็นคนแรกที่มาบอกฉันว่านั่นคือเรื่องจริง”
“แต่ทว่า เมื่อพิจารณาถึงความสำคัญของเรื่องนี้ ฉันเองก็ไม่กล้ากระทำการผลีผลาม เช่นนั้นจึงนำข่าวนี้ไปรายงานต่อพ่อของฉัน”
ฉินเทียนขมวดคิ้ว “กล่าวเช่นนี้ สุสานฮุนโหวนั้นถูกขุดโดยพวกนายสองคนพ่อลูกงั้นสิ?”
เกาชาวเอ่ยคำพูดพลางยิ้มอย่างขื่นขม “ฉันน่ะไม่ได้มีคุณสมบัตินั้นเลย จะบอกนายตามตรง พ่อของฉันนำข่าวนี้ไปรายงานต่อเบื้องบนของเขาทันที ราชาเปี้ยน หนึ่งในสองราชาแห่งเกาะตงไห่”
“คนที่เข้าร่วมการขุดนั้นเป็นคนของราชาเปี้ยน พ่อของฉันก็แค่คอยประสานงานอยู่ด้านข้างก็เท่านั้น”
“ส่วนฉันนั้นไม่มีแม้แต่คุณสมบัติที่จะไปยืนมอง”
“ระยะเวลาหนึ่งเดือนนั้นพวกเขาขุดพบอะไรบ้าง ฉันเองก็ไม่รู้เลยแม้แต่น้อย”
ฉินเทียนเอ่ยพลางยิ้มอย่างเยือกเย็น “ถ้างั้นทำไมนายถึงคิดที่จะค้นหาสมบัติแปลกประหลาดจากสุสานโบราณ? ไม่ใช่เพราะว่านายค้นพบสมบัติแปลกประหลาดจากฮุนโหว เช่นนั้นแล้วจึงทำให้นายต้องการที่ค้นหาสมบัติล้ำค่าเช่นนั้นเพิ่มเติมหรอกหรือ?”
ใบหน้าของเกาชาวแดงก่ำ เขากัดฟันแน่นและเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ราชาเปี้ยนนำกองกำลังคนไปด้วยตนเอง ผู้มีความสามารถจำนวนมากโอบล้อมโดยรอบสุสานฮุนโหว”
“ท้ายที่สุดแล้วพวกเขากลับไม่ได้สิ่งของโบราณกลับมาเลย แค่นี้ยังชัดเจนไม่พอเหรอ?”
“จากสถานะของพวกเขา สิ่งที่สามารถดึงดูดพวกเขาได้นั้นไม่ใช่สิ่งของโบราณของปุถุชนอย่างแน่นอน”
“สิ่งนั้นคืออะไร ฉันเองก็ไม่รู้ นายฆ่าฉันไปก็เปล่าประโยชน์ แต่ทว่าหากนายอยากรู้ นายสามารถกลับไปกับฉันได้”
“ฉันจะช่วยนายถามพ่อของฉันให้ เป็นไง?”
ฉวนซานรีบเอ่ยเสียงเบา “พี่เทียนระวังด้วย ผู้ชายคนนี้กำลังพยายามล่อลวงพวกเราให้ไปยังอาณาเขตของพวกเขา”
ไปพบนายพลเกา? นั่นไม่ใช่การหาเหาใส่หัวตนเองหรอกหรือ พวกเขามีเพียงแค่สี่คนเท่านั้น และที่นี่ก็เป็นเขตแดนของนายพลเกา
พละกำลังที่เกาชาวแสดงออกมานั้นไม่สามารถประมาทได้เลย ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงผู้อาวุโสที่เป็นพ่อของเขา
ภายในอาณาเขตนี้ นั่นคือบอสใหญ่ผู้อยู่เบื้องหลังที่แท้จริง
“ตอนนี้รู้จักกลัวแล้วงั้นเหรอ?” เมื่อเห็นท่าทางลังเลของฉินเทียน เฝิงเปียวหัวเราะเยาะอย่างภาคภูมิใจ
“ไอ้หนู พละกำลังและอำนาจของนายพลเกานั้นไม่ใช่สิ่งที่คนอย่างนายจะจินตนาการได้หรอกนะ”
“ปล่อยคุณชายของพวกเราและคุกเข่าขอโทษเดี๋ยวนี้ ฉันจะใจกว้างและปล่อยพวกนายไปอย่างมีชีวิตรอด”
“ไม่อย่างนั้น อีกประเดี๋ยวพวกนายจะถูกสับเป็นชิ้นและโยนลงทะเลไปเป็นอาหารปลา!”
เดิมทีฉินเทียนนั้นกำลังพินิจพิเคราะห์ เขาจะเผชิญหน้ากับนายพลเกาโดยตรงดีหรือไม่ มีวิธีการอื่นหรือไม่ที่จะสามารถหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าและได้รับข้อมูลข่าวสารภายในตามที่ตนต้องการ
เมื่อได้ยินคำพูดของเฝิงเปียว ฉับพลันความสงสัยของเขาก็ถูกกำจัดลง
ด้วยพละกำลังและอำนาจของนายพลเกาภายในอาณาเขตแห่งนี้ เกรงว่าเขานั้นไม่มีทางเลือกอื่น นอกเสียจากการเผชิญหน้าโดยตรง
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ดูเหมือนว่าความพยายามก่อนหน้านี้นั้นเปล่าประโยชน์
“ตกลง ฉันจะไปพบนายพลเกากับพวกนาย” เขาเอ่ยตอบอย่างผ่อนคลาย
“นายว่าอะไรนะ?”
“นายกล้าไปเจอพ่อของฉันพร้อมกับฉันงั้นเหรอ?” แม้แต่เกาชาวเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อ
ขณะเดียวกัน ภายในหัวใจของเขากำลังเยาะเย้ย ไอ้ผู้ชายฉินเทียนคนนี้ คิดว่าเมื่อถึงบ้านตระกูลเกาแล้วจะยังสามารถมีชีวิตรอดได้อยู่อีกงั้นหรือ?
ไม่เจียมตัวเองเลยจริงๆ!
เขาอยากไปดูให้เห็นกับตาตัวเอง ฉินเทียนนั้นจะคุกเข่าร้องขอความเมตตาราวกับสุนัขตกน้ำอย่างไร
…………..
หลังจากออกจากสุสานพระชายางู ฉินเทียน เกาชาวและคนอื่น ระยะทางตอนเดินออกนั้นไม่ได้ไกลเหมือนกับตอนที่เดินเข้ามา
ขณะที่พวกของเฝิงเปียวมานั้นเขาขับเฮลิคอปเตอร์มาสองลำ
พวกเขาขึ้นเฮลิคอปเตอร์ในทันใด ในไม่ช้าก็บินออกไปจากหุบเขาและผืนป่า
เมื่อมองจากด้านบน ฉินเทียนรู้สึกมากยิ่งขึ้นว่าภูเขาขนาดนั้นทั้งคดเคี้ยวและขดตัวเป็นรูปงูยักษ์ เป็นเสมือนอาณาเขตของงูยักษ์อย่างไรอย่างนั้น
เมื่อนึกถึงงูสองตัวในสุสาน เขายังคงกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของพวกมัน แต่ทว่าเหมยควนอยู่ที่นี่ หวังว่าลูกน้องของเขานั้นจะไม่เข้าไปวุ่นวาย
หลังจากนั้นประมาณสองชั่วโมง กลุ่มเมืองปรากฏขึ้นในระยะไกล เฮลิคอปเตอร์บินลัดฟ้าและบินตรงไปยังใจกลางเมือง
ในไม่ช้าเฮลิคอปเตอร์กำลังลดระดับความสูงอย่างเชื่องช้า บริเวณด้านล่างคฤหาสน์ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้น
คฤหาสน์ของนายพลเกา แม้จะอยู่ใจกลางเมืองหลวง แต่ทว่ามีพื้นที่มากกว่าหนึ่งร้อยไร่
ความสูงลดระดับต่ำลงมากยิ่งขึ้น สายตาสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น สามารถเห็นได้ว่าท่ามกลางคฤหาสน์นี้ มีพื้นที่จำลองของภูเขาและสายน้ำ ศาลาท่ามกลางสวน งดงามเป็นอย่างมาก
บนเฮลิคอปเตอร์ หลังจากที่เกาชาวได้รับอนุญาตจากฉินเทียน เขาได้โทรศัพท์และรายงานสถานการณ์แล้ว
ภายในสายโทรศัพท์ เขากล่าวอย่างตรงประเด็น กล่าวว่าตนเองนั้นถูกลักพาตัว
นายพลเการู้ว่าลูกชายของตนถูกลักพาตัว ความโกรธและความตกใจของเขาสามารถจินตนาการได้ เฮลิคอปเตอร์ลดระดับลงอย่างเชื่องช้า เมื่อชายชุดดำรอบคฤหาสน์ได้รับข่าวก็ออกปฏิบัติการทันใด ทุกคนต่างก็พุ่งตัวเข้ามา
ภายในเวลาเดียวกัน พวกเขาหยิบดาบยาวที่เหน็บไว้บริเวณเอวออกมา
คมดาบสว่างไสวภายใต้แสงสะท้อนของดวงอาทิตย์ ราวกับว่าเป็นเครื่องมือเก็บเกี่ยวความตาย
จะขว้างหนูก็กลัวจะไปกระทบของมีค่าที่อยู่ด้านข้าง[1] หมายถึง อุปมาว่า อยากจะโจมตีคนเลวก็กลัวไปกระทบคนดีที่อยู่ข้างๆเขา
ถ้ำเสือบึงมังกร[2] หมายถึง อุปมาถึงแหล่งสถานที่ที่เต็มไปด้วยอันตราย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...