ฉินเทียนขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาไม่ได้รู้สึกดีอะไรนักกับคนตระกูลซู
แต่ในเมื่อแม่ยายเขาเอ่ยปาก จึงโบกมือส่งสัญญาณให้ยามปล่อยซูยู่คุนเข้ามา
ซูเหวินเฉิงนำเข้าไปก่อน "พ่อครับ ดึกขนาดนี้แล้ว ทำไมถึงมาได้?"
"ที่บ้าน...ที่บ้านเกิดเรื่องใหญ่แล้ว! พ่อจึงต้องบากหน้ามาขอให้ฉินเทียนช่วย!"
ซูยู่คุนพูดพลางหายใจหอบ บนหน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อ
เห็นได้ชัดว่าเขารีบมาสุดๆ เหนื่อยจนลืมที่จะรักษาบุคลิกปกติ
"เรื่องใหญ่อะไร?"
"พ่อครับ คงจะไม่ใช่เพราะแม่ผมไม่สบายใช่ไหม?"
ซูเหวินเฉิงร้อนใจ เขาจากบ้านมานาน มาเป็นลูกน้องของซูซูที่มีความสุขจนลืมบ้านเกิดเมืองนอนของตน
ตั้งแต่ออกมาจนถึงตอนนี้ ยังไม่เคยโทรกลับบ้านไปถามไถ่สักครั้งเลย
แม้เขาจะไม่เป็นโล้เป็นพายอยู่บ้าง แต่ก็ยังเป็นลูกที่กตัญญู
ใส่ใจกับสุขภาพของพ่อแม่มาก
"ไม่ใช่แม่แก แต่เป็นปู่แก" ซูยู่คุนโบกมืออย่างร้อนใจ เห็นได้ชัดว่าไม่อยากจะพูดมาก "พอแล้ว ไม่ต้องถามแล้ว ฉันจะไปหาฉินเทียนก่อน"
"เดี๋ยวแกตามหลังฉันเพื่อช่วยพูด ถ้าหากฉินเทียนไม่ยอมช่วย จะต้องพูดดีๆให้เยอะๆก็พอ"
เกิดเรื่องกับคุณปู่แล้ว?
ใจของซูเหวินเฉิงดิ่งวูบทันที ตั้งแต่เล็กจนโตเขาถูกซูเป่ยซานมองว่าเป็นผู้สืบทอดในอนาคต จึงรักและเอ็นดูมากๆ
ทันทีที่ได้ยินว่าเกิดเรื่องกับซูเป่ยซานจึงร้อนใจสุดๆ
โชคดีที่เขาประคองซูยู่คุนเดินอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็เดินมาถึงตรงหน้าฉินเทียน
"ลุงรอง?" ฉินเทียนมีน้ำเสียงเย็นชาแล้วยื่นมือชี้เก้าอี้ข้างๆ "รีบมาดึกดื่นขนาดนี้ คนที่เดินทางมาไกลล้วนเป็นแขก ดื่มเหล้าสักแก้วก่อนเถอะครับ"
"ใช่ค่ะลุงรอง ตั้งแต่ที่พวกอาย้ายออกจากหลงเจียง หนูกับแม่ก็ไม่ได้เจอพวกอาตั้งนาน ไม่รู้ว่าตอนนี้อาสะใภ้กับคุณปู่ยังสบายดีอยู่ไหมคะ?"
ซูซูก็พูดขึ้นมาด้วย ยังไงซะเธอก็เป็นนายหญิง การต้อนรับแขกจึงดูแลได้อย่างทั่วถึงมาก
ซูยู่คุนถอนหายใจอย่างแรง "ซูซู ครั้งนี้ที่ลุงรองมาก็เพื่อขอร้องให้พวกเธอช่วย!"
"เรื่องไม่ดีที่เกิดขึ้นระหว่างเราก่อนหน้านี้ พวกเธอที่น้ำใจและความเมตตา อย่าได้ถือสาเลยนะ"
"ความผิดทั้งหมดเป็นเพราะตอนนั้นพวกเราเลอะเลือนไปเอง เราโลภและโง่เอง แต่ยังไงแล้วพวกเราก็เป็นครอบครัวเดียวกันไม่ใช่เหรอ?"
"ที่หักกระดูกที่ติดกับเส้นเอ็น ทำให้เราต้องเจอปัญหา พวกเธอจะต้องช่วยนะ"
ซูยู่คุนพูดคำพูดดีๆออกมาสารพัดเพื่อคอยสังเกตปฏิกิริยาตอบสนองของฉินเทียน
แต่ทว่าสีหน้าของฉินเทียนยังคงเป็นปกติ ไม่มีวี่แววว่าอยากจะช่วยเลย
นี่ทำเอาซูยู่คุนร้อนใจสุดๆ จึงรีบเตะเท้าซูเหวินเฉิงที่อยู่ข้างๆเพื่อส่งสัญญาณให้เขาช่วยพูดให้ชัด
ซูเหวินเฉิงเข้าใจ "ใช่ครับพี่ซูซู ตอนที่พวกเรายังเด็ก คุณปู่ก็รักและเอ็นดูพวกเรามาก"
"เมื่อกี้พอได้ยินพ่อบอกว่า เหมือนจะเกิดเรื่องกับคุณปู่ท่าน ผมร้อนใจจนแทบจะอยากบินกลับไปเยี่ยมที่บ้านเก่าเลยซะเดี๋ยวนี้"
"เกิดเรื่องกับคุณปู่?" ซูซูรีบมองซูยู่คุน "ลุงรอง คุณปู่ท่านเป็นอะไรกันแน่?"
แม้ว่าซูซูจะหมดความเชื่อใจต่อคนในตระกูลเหล่านี้มานานแล้ว แต่ยังไงซะก็มีสายเลือดเดียวกัน
โดยเฉพาะซูยู่คุนที่มาหาตอนดึกดื่นโดยไม่ได้นัด แสดงถึงความอ่อนแอพอแล้ว
เธอไม่ใช่คนที่ซ้ำเติมคนอื่น ไม่เพียงไม่หัวเราะเยาะ แต่กลับถามถึงสถานการณ์ของซูเป่ยซานอย่างจริงใจ
ซูยู่คุนคอยสังเกตปฏิกิริยาตอบกลับของทุกคนอย่างระมัดระวัง ฉินเทียนและหยางยู่หลันยังคงไม่สนใจ เห็นได้ชัดว่ากำลังคร้านที่จะยุ่งเรื่องที่ไม่ควรยุ่ง
มีเพียงซูซูที่ยอมถามเพิ่มสองประโยค ดูเหมือนว่าถ้าอยากจะขอให้ฉินเทียนขยับจะทำได้เพียงแค่เริ่มจากที่ซูซู
เธอมองซูยู่คุนที่ตกอับจนถึงขั้นต้องตบหน้าตัวเอง ความโกรธแค้นหนักในตอนนั้นก็เปลี่ยนเป็นเสียงถอนหายใจยาวหนึ่งที
"ฉินเทียน ลูกฝืนใจช่วยพวกเขาสักครั้งเถอะ"
สิ่งที่ซูยู่คุนรอก็คือประโยคนี้จึงรีบพยักหน้าแรงๆ "ใช่ฉินเทียน ยังไงนายก็เป็นลูกเขยของตระกูลซูของเรา ช่วยพวกเราสักครั้งเถอะ!"
ฉินเทียนถึงจะเอ่ยปากอย่างไม่ใส่ใจ "ดังนั้นพอถึงตอนใช้ประโยชน์ผม ก็ยอมรับผมเป็นลูกเขยตระกูลซูแล้วเหรอ?"
"พี่เทียนครับ ตอนนั้นพวกเรามีตาหามีแววไม่ ดูไม่ออกว่าพี่เก็บซ่อนความสามารถที่แท้จริงไว้ ถึงได้ทำเรื่องที่นำความขายหน้ามาสู่ตนมากมาย"
ถึงอย่างไรซูเหวินเฉิงก็ทนเห็นพ่อของตนถูกเย้ยหยันไม่ได้จึงรีบช่วยพูด "พวกเราได้รับบทเรียนแล้ว รู้และสำนึกความผิดของตนแล้ว พี่ก็ช่วยเราสักหน่อยเถอะ!"
ฉินเทียนหน้าเคร่งไม่ยอมเอ่ยปากรับคำ
ความเป็นความตายของซูเป่ยซานเกี่ยวอะไรกับเขา?
ตอนนี้เขาแค่อยากจะคอยอยู่ข้างๆซูซู ปกป้องพวกเธอแม่ลูกให้ปลอดภัย จะไม่ไปไหนทั้งนั้น
ในบรรดาผู้คนที่นั่งอยู่ ไม่มีใครเข้าใจความคิดนี้ของฉินเทียนเท่าซูซูแล้ว
ถึงแม้จะพูดได้ว่าจนถึงตอนนี้เธอยังคงปล่อยวางเรื่องในตอนนั้นยังไม่ได้ แต่สุดท้ายแล้วเลือดก็ข้นกว่าน้ำ อีกครั้งยังถูกซูยู่คุนมาขอร้องถึงที่
ตามหลักความรู้สึกและเหตุผลแล้วก็ไม่ควรทำเรื่องนี้ให้ต้องหมางใจกัน
คิดอยู่ครู่หนึ่ง ซูซูมองฉินเทียน "เหิงหลิ่งห่างจากที่นี่ก็นับว่ายังไม่ไกล ตอนเด็กๆทุกปิดเทอมฤดูหนาวและฤดูร้อน ฉันมักจะกลับไปอยู่ที่บ้านเก่าสองสามวัน"
"ช่วงนี้รู้สึกอึดอัดมาก หรือว่าเรากลับไปเที่ยวหน่อยไหม?"
"จากนั้นก็ถือโอกาสเยี่ยมคุณปู่ ถ้าช่วยได้ก็ช่วยสักหน่อย ถ้าช่วยไม่ได้จริงๆก็เป็นเรื่องที่ช่วยอะไรไม่ได้"
ซูยู่คุนพยักหน้าราวกับกำลังจิกกินข้าว "ใช่ๆๆ ซูซูไม่ได้กลับบ้านเก่าตั้งนานแล้ว จะได้ให้ฉินเทียนกลับไปผ่อนคลายเป็นเพื่อนพอดี การท่องเที่ยวเป็นผลดีต่อทารกในครรภ์"
"เพียงแค่พวกเธอรับปากว่าจะกลับบ้านแน่ๆ อาการป่วยของคุณปู่ก็มีหวังแล้ว!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...