บุบผาร้อยเสน่ห์ นิยาย บท 176

บทที่ 176 ไม่ทำตามสัญญา

ซ่านจินจื๋อ ข้าไม่ติดค้างอะไรท่านแล้ว ตาต่อตา ฟันต่อฟัน

ท่านสังหารกู้อ้าวเวย ข้าก็สังหารท่าน หนี้เลือดชดใช้ด้วยเลือด

เมื่อได้ยินเสียงดังขึ้นจากในป่าขณะลงจากเขากู้อ้าวเวยจึงตั้งใจเดินลดเลี้ยว นางย่นคิ้วขณะมองซ่านจินจื๋อ “ท่านไปหาเฉิงซานให้พวกเขามารับหม่อมฉันเถอะ มิเช่นนั้นตกกลางคืนพวกเราจะตายอยู่ที่นี่กันหมด”

“เจ้าอยู่ที่นี่คนเดียวก็คงกลายเป็นอาหารให้สัตว์ป่าแถวนี้น่ะสิ” ซ่านจินจื๋อแบกนางขึ้นหลังด้วยสีหน้าทะมึน

กู้อ้าวเวยรู้สึกเห็นท่าไม่ดี

ครู่ต่อมา ลูกศรลับดอกหนึ่งเกือบจะวาดเฉียดปลายจมูกของนาง ซ่านจินจื๋อหลบโดยการเหวี่ยงนางลงพื้นแล้วชักดาบยาวระวังรอบด้าน

ในมือของกู้อ้าวเวยยังคงกอดยาดองไว้ มองไปรอบๆเห็นคนชุดดำรุกคืบเข้ามาใกล้ได้แต่เหม่อลอยอยู่เงียบๆ

องค์ชายสามส่งคนมาลงมือตามที่คาด

“มานี่” ซ่านจินจื๋อรู้ตัวดีว่าเขาไม่มีทางปกป้องกู้อ้าวเวยรอบทิศทางได้ในเวลาเดียวกับที่ต้องรับมือคนมากมายขนาดนี้ จึงคว้านางแล้วหลบหนีออกไป กู้อ้าวเวยกัดฟันนึกอยากจะสลัดให้หลุด แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดนางที่ตามอยู่ด้านหลังซ่านจินจื๋อจึงยิ้มเย็นชา “ตำรับยาท่านก็มีแล้ว ตัวยาท่านก็มีแล้ว ตอนนี้เหตุใดท่านจึงใส่ใจความเป็นตายของหม่อมฉันเล่า?”

“เงียบซะ” ซ่านจินจื๋อส่งเสียงโกรธขึ้ง พานางพุ่งเข้าไปในดงป่าลึก

กู้อ้าวเวยหัวใจเต้นถี่รัว ความรู้สึกผิดและความละอายภายในใจเกือบจะทำให้นางหัวทิ่มพื้น เหตุใดท่านจึงยังห่วงใยชีวิตของข้าแบบนี้....

“มัวเซ่ออะไรอยู่ วิ่งเร็วเข้า!” ซ่านจินจื๋อคว้านางไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วพานางทะยานไปในดงพุ่มป่า

กู้อ้าวเวยกัดเรียวริมฝีปากแน่น นางยังกัดฟันสลัดออกจากมือของเขา “เป้าหมายของพวกมันคือท่าน ไม่ได้มาลงมือกับหม่อมฉัน ท่านรีบไปเสีย”

(เสียงในใจ) ไม่ กู้อ้าวเวย เจ้าควรจะฆ่าเขาสิ

“่ท่านตัวคนเดียวสามารถหลบหนีได้”

(เสียงในใจ) เขาฆ่ากู้อ้าวเวยนะ แล้วยังเคยทำร้ายเจ้าด้วย

“ทิ้งหม่อมฉันไว้”

คำพูดที่อยู่ในใจไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถกระทำได้ดั่งใจใจคิด

นางไม่อยากให้ซ่านจินจื๋อตาย ไม่ว่าจะด้วยสัญญาลับครั้งนั้นหรือช่วงเวลาเมื่อคืนท่ามกลางพายุหิมะ

นางยังคงโหดเหี้ยมไม่พอ

และบางทีนางอาจจะเสียใจกับเรื่องนี้ในภายหลัง

ซ่านจินจื๋อกลับไม่ทิ้งนางแล้วยังจูงนางหนีไป “ข้าไม่จำเป็นต้องพึ่งพาผู้หญิงเพื่อฝ่าวงล้อมหรอกนะ ทางลงภูเขาด้านหน้ามีแม่น้ำอยู่สายหนึ่ง”

“ไม่ไหวหรอก พวกเราไปไม่ถึงที่นั่นแน่”

กู้อ้าวเวยยังคิดจะสลัดมือของเขาออก แต่กลับไม่เป็นผล

คนชุดดำที่อยู่ด้านหลังเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ขณะที่ซ่านจินจื๋อถูกไล่ตามก็ได้บั่นศีรษะของคนกลุ่มนั้นโดยแค่การเหวี่ยงดาบ เขาผลักตัวกู้อ้าวเวยพุ่งไปด้านหน้า “กระโดดลงแม่น้ำไปหาเฉิงซาน”

กู้อ้าวเวยตกตะลึง ทำได้แค่รีบหลบหนี

ขณะที่พุ่งทะยานอยู่ภายในป่า อาศัยเพียงทิศทางที่ซ่านจินจื๋อบอกเพื่อหาสถานที่ของหน้าผานั้นดูเหมือนจะเป็นไปได้ยาก หัวใจนางเต้นดั่งรัวกลอง ปลายนิ้วกดขวดยาดองที่อยู่ในอ้อมกอดไว้แน่นโดยใช้เสื้อหนาวห่อและกอดไว้กับตัวตลอดเวลา

แต่ทั้งคู่ไม่กล้าจะรั้งอยู่นาน กู้อ้าวเวยเห็นขาของเขาได้รับบาดเจ็บและเมื่อมองข้ามไหล่ของซ่านจินจื๋อก็พบว่า

เหล่าองครักษ์ลับกำลังขัดขวางคนที่ไล่ตามมา

กู้อ้าวเวยอยากจะรออีกสักพัก แต่ซ่านจินจื๋อกลับหมดสติกลางอากาศกระทันหัน จนฉุดนางติดร่างแหตกไปยังด้านล่างชายเขา ซ่านจินจื๋อถูกกระแทกเข้าที่ศีรษะอย่างจังแล้วสลบไปโดยไม่รู้สึกตัว

“ค้นหาให้ข้าเดี๋ยวนี้!”

กู้อ้าวเวยถูกเสียงตวาดปลุกให้ตื่น ทว่าเมื่อนางตื่นขึ้นมาก็พบว่าทั้งคู่ได้เคลื่อนย้ายตำแหน่งแล้ว เหล่าองครักษ์ลับติดตามหลายนายกระซิบบอกอย่างกระหืดกระหอบ “พระชายาได้โปรดช่วยพาท่านอ๋องไปด้วย พวกกระหม่อมจะอยู่รั้งท้ายเอง”

“ตกลง” กู้อ้าวเวยลากซ่านจินจื๋อคลำหาเส้นทางในความมืด

เสียงกรีดร้องน่าอนาถหลายคนดังขึ้นมาจากด้านหลัง กู้อ้าวเวยที่ไม่สามารถมุ่งหน้าไปต่อได้เห็นบนพื้นมีซากศพมากมาย จึงใช้เข็มกับซ่านจินจื๋อและกับร่างกายตนโดยตรง และใช้เลือดคนตายทาละเลงบนร่างของทั้งคู่เพื่อแสร้งเสียชีวิต

คนที่องค์ชายสามส่งมาก็มีบาดแผลนับไม่ถ้วนบนร่างไม่ต่างกัน หลังจากที่สำรวจลมหายใจของซ่านจินจื๋อก็รีบจากไป เหลือเพียงสองคนที่ยังอยู่สำรวจลมหายใจของกู้อ้าวเวยแล้วกล่าวด้วยเสียงอันเบา “พระชายา พวกกระหม่อมล้วนคิดการเผื่อองค์ชายสามทั้งสิ้น”

กู้อ้าวเวยแปลกประหลาดอยู่ในใจ หรือว่าองค์ชายสามไม่รู้จริงๆว่าคนเหล่านี้ลงมือกับนาง?”

จนกระทั่งคนเหล่านั้นจากไปจนหมดนางจึงได้ฝืนปลดจุดฝังเข็ม ไม่เคยนึกเลยว่าคนมากขนาดนี้กลับไม่มีสักคนที่รอดชีวิต และทั้งสองฝ่ายล้วนประสบความสูญเสียอย่างหนัก ต่อมากู้อ้าวเวยพาซ่านจินจื๋อมาถึงบ้านโทรมๆหลังหนึ่งที่ตีนเขา บ้านพุพังที่กำแพงแทบจะหายไปหนึ่งฝั่ง เหนือศีรษะคือท้องฟ้าที่ไร้สิ่งปกคลุม แต่อย่างน้อยที่สุดก็ยังดีกว่าป่ากลางภูเขา

ซ่านจินจื๋อที่ได้รับบาดเจ็บยามนี้ไข้ขึ้นสูง และบาดแผลมีอาการติดเชื้อ

“ขอโทษด้วย” กู้อ้าวเวยกล่าวกระซิบ นึกไม่ถึงว่าตนจะยกก้อนหินมาทุ่มใส่เท้าของตัวเอง(อุปมาว่าหาเรื่องวุ่นวายใส่ตนเอง) ได้แต่พลิกหาสมุนไพรในกล่องอย่างสะเปะสะปะแล้วพอกยาให้เขาจนกระทั่งเสร็จ นางกลับได้ยินเสียงอันน่าหวาดกลัวดังจากในป่า สายตานับไม่ถ้วนในความมืดมิดจ้องมองมาที่พวกเขา

กู้อ้าวเวยลอบกลืนน้ำลาย เมื่อลองสูดดมกลิ่นเลือดบนร่างสีหน้าดำคล้ำในทันที “นี่ชักจะยุ่งแล้วสิ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์