บทที่183 อยู่เป็นเพื่อนข้า
ดูเหมือนว่าตอนนี้ คนรอบกายไม่ใช่ทั้งหมดที่เป็นคนดี
จิตใจของคนรอบกายกำลังเปลี่ยนแปลง ในเมื่อก่อนหน้านี้กู้อ้าวเวยเคยเชื่อใจลี่วาน ดังนั้นตอนนี้นางไม่มีทางเชื่อใจอีก
กู้เหยียนจือที่อยู่ข้างกายมองไปทางกู้อ้าวเวยด้วยความกระอักกระอ่วนใจ: “ปกติแล้วพระชายาองค์ชายสี่ก็ไม่เป็นเช่นนี้ ดีกับข้าไม่น้อย และยังดูแลเอาใจใส่องค์ชายสี่……”
”ข้ารู้ นางเพียงแค่สงสัยในตัวข้าแต่เพียงผู้เดียว”
กู้อ้าวเว้ยพยักหน้าอย่างจริงจัง อีกเรื่องหนึ่งคือ ตอนนี้หยุนชิงหยางก็เสียไปแล้ว นางจะต้องหาวิธีที่ดีที่สุดเพื่อช่วยให้ตระกูลหยุนเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น ตอนนี้ตระกูลหยุนเป็นดั่งต้นไม้ใหญ่ที่ต้องลม ทางที่ดีที่สุดในตอนนี้ก็คือหยุดทะเลาะวิวาทจะดีที่สุด
”เพราะเหตุใด?” กู้เหยียนจือไม่เข้าใจ
กู้อ้าวเวยเคาะเบาๆที่หัวของเขา: “ในเวลานี้แน่นอนเจ้าต้องคิดด้วยหัวสมองของตนเองแล้ว ถ้าต้องถามข้าทุกๆเรื่อง จะทำอย่างไรเมื่อถึงเวลาที่เจ้าพาทหารไปสู้รบ?”
”ปกติแล้วน้อยมากที่ข้าจะได้อ่านตำรา……” กู้เหยียนจือทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย
ในตอนนี้กู้อ้าวเวยถึงนึกขึ้นได้ ถึงแม้กู้เหยียนจือจะเป็นคนของตระกูลกู้ แต่ถ้าหากเป็นที่เอ็นดูคิดว่าก็คงจะไม่ถูกส่งไปให้กับผู้อื่น บางทีก่อนหน้านี้กู้เหยียนจืออาจไม่เคยได้ศึกษาเล่าเรียนมาก่อน ปกติแล้วก็เพียงแค่ฝึกกระบี่ เพียงเพื่อรับใช้บ้านเมืองเท่านั้น
“ช่วงนี้ท่านพ่อได้พูดอะไรกับเจ้าบ้าง?” กู้อ้าวเวยพลันนึกถึง
”พ่อบุญธรรมไม่เคยพูดคุยอะไรกับข้าเลย เพียงแค่รับสั่งให้ข้าไปทำเรื่องบางอย่างเป็นครั้งคราว คุ้มกันให้บางคน” กู้เหยียนจือเพียงแค่เล่าทุกเรื่องราวที่ได้ทำก่อนหน้านี้
ที่แท้ช่วงเวลาที่เขาหายตัวไป กู้เหยียนจือช่วยทำงานให้กู้เฉิงไม่น้อย เพียงแต่ว่าเรื่องทั้งหมดล้วนไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก แม้กระทั่งให้กู้เหยียนจือไปช่วยส่งสินค้า แต่สินค้าเหล่านั้นคืออะไรกันแน่ นางกลับไม่กล้าคิดต่อแล้ว
”คราวหลังถ้าท่านพ่อต้องการให้เจ้าช่วยทำอะไรอีก เจ้าต้องบอกข้าทุกอย่าง ข้าจะบอกเจ้าให้ว่าจะแยกแยะความสำคัญของสิ่งเหล่านี้อย่างไร เพื่อที่วันหน้าเจ้าต้องนำทหารไปสู้รบ ก็สามารถใช้ประโยชน์ได้” กู้อ้าวเวยพูดด้วยเสียงเบา อีกด้านหนึ่ง นางเห็นแล้วว่าในห้องของกู้เหยียนจือไม่มีตำราแม้แต่เล่มเดียวจริงๆ จึงได้ยืนขึ้น: “นอกจากนี้ ข้าจะไปขอตำรายุทธพิชัยสงคราม สองสามวันนี้เจ้าก็ตั้งใจศึกษาดีๆ ข้าจะอยู่กับเจ้า”
”ช่างดียิ่งนัก ท่านพี่เพียงแต่ว่า……ท่านจะให้ข้าไปกับท่านหรือไม่?” กู้เหยียนจือรู้สึกไม่ค่อยไว้วางใจเท่าไหร่
กู้อ้าวเวยหยุดชะงักเท้า หมัดที่กำแน่นค่อยๆคลายออก ลังเลสักครู่ ถึงได้ผ่อนลมหายใจออกมา พูดด้วยเสียงต่ำ: “ขอเพียงพวกเจ้าทุกคนอยู่ดีมีสุข ก็คืออยู่เป็นเพื่อข้าแล้ว”
อยู่ที่นี่ ไม่มีสถานที่ใดที่นางสามารถร้องไห้ได้
คิดถึงตรงนี้ นางเพียงแค่ไปหาซ่านเซียนหยวนขอตำราเกี่ยวกับกลยุทธ์ทางการทหารมาให้กับกู้เหยียนจือ ซ่านเซียนหยวนเมื่อเห็นนางอารมณ์ไม่ดี ผ่านไปสักครู่เหมือนว่าจะคิดอะไรขึ้นมาได้ จึงพูดเสียงต่ำ: “ก่อนหน้านี้เรื่องที่ท่านหายตัวไป แม้แต่หลิ่วเอ๋อของทิงเฟิงโหลก็ยังใส่ใจ และก็เป็นนางที่บอกพวกข้าเรื่องที่ท่านหายตัวไป ตอนนี้ท่านกลับมาแล้ว ก็สามารถไปที่นั่นผ่อนคลายๆ”
ในทิงเฟิงโหลหญิงสาวพูดคุยด้วยกันล้วนรู้ใจกัน ซ่านเซียนหยวนเพียงแค่หวังว่านางสามารถระบายออกมาได้บ้าง
”เข้าใจแล้ว” กู้อ้าวเวยพยักหน้ารับรู้ หยิบถ้วยขึ้นมากลับมีบางอย่างไม่เข้าใจ
แต่วันนี้นางยังไม่ได้ตรงไปที่ทิงเฟิงโหล แต่เขียนใบสั่งยาให้ชิงต้ายส่งกลับไปยังลานที่ซูพ่านเอ๋อพักอยู่ ให้เมี่ยวหารต้มยาทุกวันตามใบสั่งยา
เพียงแค่เมื่อถึงกลางคืน ซูพ่านเอ๋อดื่มยาเพียงแค่หนึ่งถ้วยก็นอนไม่หลับแล้ว ทั่วทั้งร่างกายไม่มีส่วนไหนที่สบายตัวเลย เหงื่อออกท่วมตัว
”พระชายา” คนรับใช้ในตำหนักองค์ชายสี่เมื่อเห็นหน้าต่างบานใหญ่เปิดอยู่ ก็ถือโคมไฟเดินเข้ามาด้วยความรวดเร็ว มองเห็นกู้อ้าวเวยที่ใส่เสื้อตัวบางนั่งอยู่ตรงหน้าต่าง จึงได้รีบพูดว่า: “สายฝนในช่วงเวลากลางคืนค่อนข้างเย็น ร่างกายของท่านก็ยังไม่ค่อยดีนัก ควรจะรีบไปพักผ่อน”
”ไม่จำเป็น ข้าคนเดียวนอนไม่หลับ” กู้อ้าวเวยเพียงโบกๆมือ หลังจากบอกให้หญิงสาวนั่นถอยออกไปแล้ว กลับยิ่งนอนไม่หลับ
มือทั้งสองข้างเริ่มสั่นเบาๆ หยุนชิงหยางยอมใช้พิษกระดิ่งเหล็กเพื่อกระตุ้นให้นางไปที่หลิ่งหนานตระกูลหยุนโดยเร็วที่สุด กลับปฏิเสธที่จะบอกความจริงกับเขา แม้แต่สิ่งของสักชิ้นล้วนไม่หลงเหลือไว้
หยุนชิงหยางเป็นคนเดียวที่รู้ว่านางไม่ได้เป็นกู้อ้าวเวย
”โอ้สวรรค์ ข้ายังมีเวลามารำลึกอยู่ที่นี่เชียวหรือ? ข้านอกจากต้องเดินต่อไปข้างหน้าแล้ว ไม่มีวิธีอื่นอีกแล้ว” นางปิดใบหน้าตนด้วยความเจ็บปวด ไหล่บางสั่นไหวไม่หยุด
เสียงสายฝนนอกหน้าต่างดูเหมือนว่าดังยิ่งขึ้น และเสียงฝนด้านในหน้าต่างก็ไม่หยุดเช่นกัน
รอจนกระทั่งเทียนที่เหลืออยู่ไหม้จนหมด คนที่ร้องไห้ไม่หยุดกลับไม่ได้ขึ้นไปบนเตียง เพียงแค่จ้องมองที่มือทั้งสองข้างอย่างเหม่อๆ ไม่ปริปากพูดสักคำ
เงาข้างกำแพงหายไปอย่างรวดเร็ว ครึ่งชั่วยามต่อมา กุ่ยเม่ยที่เปียกโชกไปทั้งตัวก็คุกเข่าอยู่ตรงหน้าซ่านจินจื๋อแล้ว นำสิ่งที่เห็นก่อนหน้านี้รายงานต่อซ่านจินจื๋อทั้งหมด
”ให้นางใช้เวลาพักอยู่ในตำหนักองค์ชายสี่มากขึ้น พ่านเอ๋อยังต้องการปรับสภาพร่างกาย” ซ่านจินจื๋อนิ่งชะงักเป็นเวลานานก่อนที่จะกลับไปจัดการงานในมือต่อ
ตอนนี้รัชทายาทใกล้ถึงเวลาถูกปลด ห้องโถงในวังนี้ เกรงว่าจะหลีกเลี่ยงพายุฝนไม่ได้
“ฝ่าบาท วันปกติอาจจะอยู่ข้างกายเป็นเพื่อนพระชายา?ดูเหมือนว่าพระชายากับแมวทั้งสองตัวเข้ากันไม่ได้” กุ่ยเม่ยเอ่ยปากพูดอย่างกล้าหาญ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์
นางเอกเหมือนจะเก่งแต่ก็ยอมให้ผัวทำร้ายร่างกายตลอด...
บางคำแปลแบบ งงๆ อ่านแล้วเหนื่อยเรื่องนี้ พักก่อน...
สรุปแล้วใครคือพระเอก อ๋องจิ้งไม่เหมาะเลย ขอเป็นคนอื่นแทนได้ไหม...