บุบผาร้อยเสน่ห์ นิยาย บท 313

บทที่ 313 ทำการค้า

“แต่ว่า ท่านต้องปล่อยให้เขายังเหลือลมหายใจ จะดีร้ายอย่างไรก็เป็นบิดาข้า”

กู้อ้าวเวยเอื้อมมือคว้าข้อมือของซ่านจินจื๋อ เชิดคางของตนกลับมา

ซ่านจินจื๋อพลันเลิกคิ้ว เดิมทีเขาคิดว่ากู้อ้าวเวยจะพูดเพื่อกู้เฉิง กู้อ้าวเวยเป็นคนปากแข็งใจอ่อนมาตลอด ดูคล้ายไร้เมตตา แต่มีคุณธรรมน้ำมิตรมากกว่าใครในใต้หล้า ทั้งเป็นคนฉลาดในการใช้คนอย่างไม่ต้องสงสัย

““ข้าเดิมคิดว่าจะทำให้เจ้าต้องปวดใจเสียอีก ดังนั้นจึงได้ลองใจดู จะตำหนิข้าหรือไม่?” ซ่านจินจื๋อชักมือกลับพลางถอนหายใจเบาๆ

“ไม่ตำหนิหรอก หากท่านเพียงแต่รับปากว่าจะไม่ลงมือกำจัดเนื้อร้ายให้ข้า ข้าอาจจะไม่โกรธ” กู้อ้าวเวยลูบคางของตนอย่างลืมตัว “ท่านไม่จำเป็นต้องรักใคร่กลมเกลียวข้าในแบบเดียวกับซูพ่านเอ๋อร์ ข้าเห็นแก่สถานการณ์โดยรวมเป็นสำคัญ

ฟังคำของกู้อ้าวเวย ดวงใจซ่านจินจื๋อถูกเติมเต็มทีละน้อยๆ

ทว่าเขาลืมไปนานแล้วว่าควรจะรักใคร่ผู้อื่นอย่างไรนอกจากซูพ่านเอ๋อร์ กระทั่งบัดนี้การปฏิบัติตัวกับกู้อ้าวเวยก็ยังระมัดระวังด้วยซ้ำ

“ซูพ่านเอ๋อร์ละอายต่อกู้จี้เหยา”

“เช่นนั้นวันหน้าท่านก็ปฏิบัติดีกับนางมากหน่อย”กู้อ้าวเวยขมวดคิ้วมุ่นมองเขา นำมือของตนวางบนบ่าของเขาอย่างใจกล้า เอ่ยเสียงค่อย “นางแต่งเข้าจวนอ๋องแล้ว วันหน้าก็ออกไปไหนไม่ได้แล้ว หากแม้กระทั่งท่านไม่ชื่นชอบนาง นางครึ่งชีวิตที่เหลือย่อมพังทลายแล้ว”

“หากข้าดีกับนางมากขึ้น วันหน้าเจ้าจะช่วยข้าหรือ?” ซ่านจินจื๋อเป็นฝ่ายคว้ามือนางกลับ กลิ่นสุราชิงเหมยบนกายของนางคล้ายมีคล้ายไม่มี

“ย่อมได้ บิดาแม้ไม่รักถนอมพวกเรา แต่กู้จี้เหยาอย่างไรก็เป็นน้องสาวข้า”กู้อ้าวเวยพยักหน้าอย่างจริงจัง

“ได้ ข้ารับปากเจ้า” ซ่านจินจื๋อพยักหน้า เห็นบ่าวรับใช้นอกเรือนวิ่งเข้ามา เขาเพียงยืนขึ้นอุ้มกู้อ้าวเวยไปหลังฉากบังลม วางนางลงบนฟูกอย่างอ่อนโยน

กู้อ้าวเวยส่งยิ้มให้เขา พลางรั้งแขนเสื้อของเขาไว้ “ท่านให้ข้ากักบริเวณอยู่ในวิหารเฟิ่งหมิงแล้ว แล้วยังคิดจะนำตัวข้ากักบริเวณอยู่หลังห้องหนังสืออีกหรือ?”

“คืนนี้ค่อยลงโทษเจ้า” ซ่านจินจื๋อดีดหน้าผากนาง อ้อมฉากบังลมกลับมานั่งที่ตำแหน่งประธาน

เฉิงซานที่อารักขาอยู่ด้านข้างถอนหายใจโล่ง สภาพจิตใจขอท่านอ๋องในที่สุดก็ดีขึ้นเสียที

ขณะที่แอบอยู่หลังฉากบังลม กู้อ้าวเวยพลิกกายฟังเหล่าเสนาบดีด้านนอกที่พูดคุยเรื่องราวของราชสำนัก ทว่าภายในใจกลับมีวิจารณญาณเป็นของตนเอง

สักวันที่นางสามารถหลุดพ้นจากจวนอ๋องแห่งนี้ ในอนาคตบนโลกนี้จะไม่มีกู้อ้าวเวยคนนี้อีกต่อไป

เช่นนั้นแล้ว ซ่านจินจื๋อจะลืมตนหรือไม่?

คิดฟุ้งซ่านอยู่ชั่วครู่ นางก็หลับสนิทไป

รอจนกระทั่งหลังจากซ่านจินจื๋อสะสางเรื่องราวเสร็จ เห็นนางหลับสนิท จึงพานางกลับวิหารเฟิ่งหมิงอย่างเงียบๆโดยไร้สุ้มเสียง แล้วนอนหลับตามนางไป ทว่าในใจกลับคิดเรื่องราวบางอย่าง

หากตอนแรก คนที่เขารู้จักก่อนเป็นกู้อ้าวเวย มิใช่ซูพ่านเอ๋อร์ล่ะ

ตำแหน่งฮ่องเต้นี้ เขาไยมิใช่ไม่สนแล้ว?

นอนหลับในขณะที่ยังมีเรื่องราวในใจ ซ่านจินจื๋อกลับยากที่จะหลับลง

“พวกเจ้าคิดจะทำการใดกันแน่?”

“ฮ่องเต้ของประเทศเอ่อตาน จ่ายเงินก้อนใหญ่เพื่อให้พวกเราฆ่ากู้เฉิง” จื่อเหมิงชิงหลิ่วเอ๋อร์เอ่ยปากก่อน “พวกเราบอกไปว่าพวกเราไม่สามารถ จึงได้แต่ถอนตัวแล้วช่วยเหลือในโอกาสอื่น ฮ่องเต้เอ่อตานมิใช่คนจิตใจดี สมควรเตรียมการไว้ไม่น้อยเพื่อต้องการให้ดินกลบหน้าบิดาท่าน”

กู้อ้าวเวยตะลึงลานเล็กน้อย หรือฮ่องเต้เอ่อตานจะหลงใหลในตัวหยุนหว่านมากจริงๆ?

“รูปธรรมทำอย่างไร ทางด้านฮ่องเต้ก็ยังไม่อธิบาย ภารกิจของพวกเราถึงตรงนี้สมควรสิ้นสุดแล้ว”ขณะที่กล่าว หลิ่วเอ๋อร์หยิบตั๋วเงินสามพันตำลึงจากในย่าม “พูดแบบนี้ก็ไม่น่าฟังเท่าไร พวกเราทิงเฟิงโหลวทำธุรกิจรับจ้างสังหารซื้อขายชีวิตคน ท่านเองก็ทราบเรื่องนี้ดี เงินสามพันตำลึงนี้เป็นค่าปิดปากก็แล้วกัน”

“เช่นนั้นข้าก็ขอรับไว้แล้วกัน” ไม่เอาก็น่าเสียดาย กู้อ้าวเวยเองก็ทราบดี

เมื่อเป็นแบบนี้ กล่าวได้ว่าสุดท้ายแล้วฮ่องเต้เอ่อตานยังคงจัดการกับกู้เฉิง เพียงแต่เขาในฐานะที่เป็นฮ่องเต้เพราะเหตุใดจึงต้องการฉุดกู้เฉิงลงจากหลังม้าด้วย ในใจนางกลับกระวนกระวายอยู่เป็นนิจ

“ครั้นแล้วพวกเจ้าตอนนั้นจึงให้ความสนใจกับข้า ก็เป็นเพราะมีคนให้เงินพวกเจ้ากระทำเรื่องนี้?”กู้อ้าวเวยถามนาง

“ย่อมไม่ใช่แน่นอน ประมุขพวกเรากับหยุนหว่านฮูหยินเป็นสหายเก่ากัน เพียงแค่กำชับให้พวกเราเฝ้าดู วันหน้าหากประมุขพวกเราสุขภาพมีปัญหา เพียงจำต้องการท่านไปช่วยก็พอ” หลิ่วเอ๋อร์ยิ้มอ่อน “สำหรับพวกเราทิงเฟิงโหลว นอกจากที่ท่านเป็นสหายเก่าที่ดีของท่านประมุข คนอื่นๆที่ติดต่อล้วนเป็นคนทำมาค้าขายทั้งสิ้น

กู้อ้าวเวยยิ้มแย้ม “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่สู้ช่วยข้าทำมาค้าขายด้วยกันสักหน ข้าจ่ายสามพันตำลึง”

กล่าวจบ นางก็นำเงินสามพันตำลึงกองที่เบื้องหน้าพวกนาง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์