บุบผาร้อยเสน่ห์ นิยาย บท 394

บทที่ 394 คำพูดของผียายเฒ่า

“พระชายา หญ้าปู่เจิ้นนี้มีพิษแฝงอยู่ หากใช้เป็นเวลานานจะเป็นอันตรายต่อร่างกาย วิธีการรักษานี้จะกระทบต่อวันข้างหน้าได้” เสียงของหมอท่านหนึ่งกล่าวเตือนกู้อ้าวเวย

กู้อ้าวเวยโผเข้าไปมองดูอยู่ครู่หนึ่งคิดไปมาแล้วพูดว่า “มันก็ไม่ดีต่อร่างกายจริงๆ แต่หญ้าปู่เจิ้นกับตัวยาสองชนิดนี้เดิมทีก็ต่อต้านกันอยู่แล้ว เอาหญ้าปู่เจิ้นเข้าไปก่อน แล้วค่อยเอายาสองตัวนั้นเข้าไปเสริม พอรอจนทั้งหมดเสร็จสิ้น แล้วค่อยเอาวิธีการนี้มาปรับใช้ในวันข้างหน้า วันหลังก็จะได้ไม่เกิดการกำเริบขึ้น”

หลังจากฟังหมอทั้งสองคนพูดจบ ก็เกิดเป็นประเด็นการถกเถียงเรื่องนี้ขึ้นมาถึงแนวโน้มความเป็นไปได้

ซ่านจินจื๋อกับไทเฮาคุยกันอยู่สองสามประโยค ก็มาถึงข้างตัวของกู้อ้าวเวย จะพานางกลับตำหนัก นางก็เอาใบยาของตนมอบให้กับหมอสองท่าน อีกทั้งก็ยังเอาตำราสองสามเล่มของตำหนักหมอติดมือไปด้วย กลับไปจะค่อยๆ ดูสักหน่อย

นั่งอยู่บนรถม้า นางก็รอไม่ไหวที่จะพลิกตำราแพทย์ดู แต่กลับได้ยินซ่านจินจื๋อพุดว่า “ตามความคิดของเจ้า ความรู้วิชาแพทย์ดูเหมือนกับว่าจะสำคัญกว่าเรื่องอะไรใดๆ ทั้งหมด”

“เพียงแค่ความสนใจ ราวกับเพื่อนทหารชอบต่อสู้ ผู้มีปัญญาชอบความสง่างาม” กู้อ้าวเวยไม่เงยหน้า แต่สักครู่ก็ดูอย่างละเอียด

แต่กลับไม่ได้สนใจซ่านจินจื๋อที่อยู่ข้างกายที่จ้องมองหน้าด้านข้างของนางตลอด

พวกเขาสองคนเมื่อวานเข้าพิธีแต่งงานกันอีกครั้งหนึ่ง แต่ซ่านจินจื๋อรู้สึกว่ากู้อ้าวเวยตอนนี้เหมือนว่าจะเปลี่ยนไปเยอะเลย ความอ่อนโยนที่เกิดขึ้นและความรักใคร่ที่มากขึ้น ได้แค่ช่วยนางปาดผมยาวเหน็บเข้าที่ข้างหู แต่เมื่อเห็นกู้อ้าวเวยดึงสติกลับมา จ้องเขาอยู่เป็นเวลานาน

“ทำไมหรือ” ซ่านจินจื๋ออึ้งอยู่ชั่วครู่ ปลายนิ้วกลับยังพันอยู่ที่ปลายผมของนาง

“จู่ๆ ข้าก็นึกเรื่องหนึ่งออก” ในที่สุดกู้อ้าวเวยก็คิดถึงจดหมายสองสามฉบับเมื่อตอนนั้น คำพูดนี้ ความจริงแล้วควรจะถามออกไปเลยดีกว่า คิดไปคิดมา ก็พูดด้วยเสียงโทนต่ำว่า “เรื่องของตระกูลหยุนในตอนนั้น เจ้าว่าเป็นไปได้ไหมว่าฮ่องเต้จะเป็นคนจัดการ”

“ทำไมเจ้าคิดเช่นนี้ล่ะ” ซ่านจินจื๋อขมวดคิ้ว ทำไมถึงเอาเรื่องที่ผ่านไปแล้วมาพูดอีก

กู้อ้าวเวยที่จริงอยากจะหยั่งเชิงดู คิดทบทวนไปมาชั่วครู่ เอาตำราแพทย์ในมือส่งไปให้ข้างหน้าซ่านจินจื๋อ “ข้าว่าที่ตำหนักหมอก็มีตำราและวิชารักษาเยอะอยู่ ก็คิดอยู่ว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่าฮ่องเต้จะต้องการตำราลับของตระกูลหยุน ต่อมาหาไม่เจอจึงลดโทษให้ตระกูลหยุน สิ่งที่ต้องการก็คือตำราลับใช่หรือไม่”

ในตำราแพทย์มีแต่อะไรที่แน่นขนัดเต็มไปหมด ซ่านจินจื๋อจะไปดูเข้าใจได้อย่างไร

กู้อ้าวเวยสังเกตดูสีหน้าของซ่านจินจื๋ออย่างละเอียด เห็นสีหน้าของเขาไม่เปลี่ยนไป ไม่รู้ทำไมในใจจึงผ่อนคลายความกังวลลง

“วิธีการที่ข้าให้เจ้าครั้งก่อน ยังอยู่หรือไม่” กู้อ้าวเวยจับเขาอย่างเบามือ

“อยู่สิ เจ้าคิดจะทำอะไร” ซ่านจินจื๋อพยักหน้า

“เจ้าเอาวิธีลับนั่นไปมอบให้ฮ่องเต้เถอะ อย่างไรก็ตามในวิธีลับนั่นจำเป็นจะต้องใช้ถุงน้ำดีหงส์และเลือดมังกร (ต้นหญ้า) แน่นอน ตัวยาสองชนิดนี้หายากและมีน้อยนักบนโลก” กู้อ้าวเวยขยิบตาให้เขาอย่างขี้เล่น

ซ่านจินจื๋อพยักหน้ารับปาก เอาตำราแพทย์ในมือคืนกู้อ้าวเวยไป บนใบหน้าไม่ปรากฏข้อบกพร่องใดๆ เลย

ในใจของกู้อ้าวเวยก็ไม่รู้จะทำเช่นไร คิดมาครึ่งวันแล้ว ก่อนพิธีสมรสนางก็หายไปเป็นเวลานาน

แต่น่าเสียดายนางก้มหน้าลงดูหนังสือ แต่กลับไม่เห็นสีหน้าความเป็นกังวลของซ่านจินจื๋อ

หากเรื่องที่ตระกูลหยุนถูกใส่ร้ายเมื่อตอนนั้นโดนกู้อ้าวเวยสืบจนรู้ล่ะก็ ความรักใคร่ในวันนี้อาจจะแปรเปลี่ยนเป็นเมฆหมอกที่ผ่านตาไปก็เป็นได้

“เจ้าคิดว่าพวกเขาจะกรอกหูให้ข้าฆ่าเสด็จพี่หรือ” ซ่านจินจื๋อขมวดคิ้ว เขาจะไม่ทำสิ่งนี้แน่นอน เว้นแต่เขาจำเป็นต้องทำ

อาจจะตอนที่ยังเยาว์อยู่พวกเขาพี่น้องสองคนถูกคนยุยงปั่นป่วน แต่บัดนี้ ระหว่างพี่น้องทั้งสองมองเห็นทะลุปรุโปร่งมานานแล้ว

“ค่อนข้างที่จะไว้ใจไม่ได้ แม้แต่ลูกของตัวเองยังมอบให้คนอื่น แน่นอนว่าก็สามารถทำให้เจ้าใช้ทุกวิธีให้ได้มาซึ่งตำแหน่งมกุฎราชกุมาร หากไม่กำหนดเส้นตายของตัวเองให้เด็ดขาด ถึงตอนนั้นก็จะล้มทั้งกระดาน ไม่ไหวนะ” กู้อ้าวเวยรีบโบกมือไปมา

“นี่ก็แน่นอน สายตาของเสด็จพี่ทั่วไปทั้งเทียนเหยียน หากข้าคิดจะทำเรื่องนี้จริง ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องรู้ข่าวคราวบ้างล่ะ ปิดไม่มิดหรอก” ซ่านจินจื๋อพยักหน้า ตบไหล่ของกู้อ้าวเวยเบาๆ “พักผ่อนเถอะ อาหารเย็นข้าก็จะกลับมา”

“อืม” กู้อ้าวเวยอุ้มพุทรา (ชื่อแมว) พยักหน้ารับคำ

สองคนเดินไปคนละทาง กระทบไหล่และเดินผ่านไป แต่เรื่องทั้งหมดกลับมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างลับๆ

กลับถึงในห้อง นางก็นำจดหมายสามฉบับนั้นออกมาดูอย่างละเอียดอีกหนึ่งรอบ แต่นางกลับไม่เจอสิ่งผิดปกติอะไรในตัวของซ่านจินจื๋อเลย ในใจเริ่มรู้สึกสงสัยขึ้นมา

อีกทั้งตอนที่เห็นจดหมายฉบับนี้ เรื่องแรกที่นางนึกถึงกลับเป็นท่านแม่ของนางหยุนหว่าน

เมื่อก่อนการต่อสู้กันระหว่างทิงเฟิงโหลและกู้เฉิง พูดเรื่องภูตผีปีศาจออกมาไม่น้อยเลย แต่บนจดหมายฉบับนี้ที่อยู่ตรงหน้า มีประโยคหนึ่งบอกว่า คำพูดของผียายเฒ่า

ดังนั้นนางจึงให้องค์ชายสามไปสืบเรื่องของท่านแม่ บนโลกนี้ไม่มีภูตผีหรอก แต่กลับมีเรื่องบางอย่างที่ทำให้เกิดการพูดถึงภูตผีขึ้นมา

แต่ทำไม เรื่องที่เขียนถึงตระกูลหยุนและแผนลับของเจียงเย่น ก็บอกว่าจะเกี่ยวโยงกับภูตผีด้วย การเขียนเช่นนี้จะทำให้ฮ่องเต้มั่นใจมากยิ่งขึ้นในแรงจูงใจของตระกูลหยุนเช่นนั้นหรือ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์