บุบผาร้อยเสน่ห์ นิยาย บท 439

บทที่ 439 ไร้ความคิด

สามวันต่อมา องค์ชายสามนำทัพออกเดินทาง ผู้คนสองข้างทางของตลาดรู้สึกตื่นเต้น ความโดดเด่นของอ๋องจิ้งกำลังนำทัพออกไป

ฮ่องเต้และต้วนโฉงได้สั่งการเรียกแม่ทัพสองคนมาสั่งการเขาด้วยตนเอง ซ่านจินจื๋อก็เป็นหนึ่งในแม่ทัพที่ได้รับการคัดเลือกมาก่อนหน้านี้ด้วยเช่นกัน ให้หยูนเฉินเป็นที่ปรึกษาทางการทหาร ทำให้นางต้องนั่งอยู่ในรถม้า

ตลอดเส้นทางจะต้องเต็มไปด้วยความวุ่นวายแน่นอน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงความหนาวเหน็บในฤดูหนาว  

ถึงเวลาหยุดกลางทาง กู้อ้าวเวยยืนกรานที่จะอยู่ในกระโจมเดียวกับกุ่ยเม่ย ซ่านจินจื๋อจึงได้ให้คนจัดเตรียมเบาะผ้าปูไว้ โดยไม่มีเตียง ซึ่งการนอนบนเบาะผ้าปูก็จัดว่าเป็นสิทธิพิเศษแล้ว

นี่เป็นเพียงแค่ครึ่งทาง กู้อ้าวเวยก็ปวดหัวอย่างมาก ทั้งสองนั่งลงบนพื้น กุ่ยเม่ยนั่งอยู่ด้านหลังนาง นวดขมับให้นางเบาๆ และปวดหัวไปด้วย “นี่ก็เพราะจะตามให้ทันกับทัพของอ๋องจิ้ง ไม่อย่างนั้นก็ยังมีเวลาได้พักผ่อนอีกสองสามวัน”

“ข้ายังต้องการจะดูสถานการณ์ระหว่างทางต่อไป แต่ตอนนี้ซ่านจินจื๋อต้องการจะให้เข้าใกล้ความสำเร็จให้รวดเร็ว เร่งรัดอย่างมาก” กู้อ้าวเวยรู้สึกไม่สบายใจเมื่อนึกถึงซ่านจินจื๋อ

ตอนนี้ล้วนต้องแยกกันแล้ว ซ่านจินจื๋อคนนี้ก็ไม่สามารถทำให้ตนเองดีขึ้นได้จริง ๆ

มันเป็นเวรกรรมจริง ๆ   

“ยังปวดท้องอยู่หรือเปล่า” กุ่ยเม่ยจับมือไว้ข้างหนึ่ง ซุกถุงผ้าฝ้ายไว้ในอ้อมแขนของนาง นี่คือสิ่งของที่กู้อ้าวเวยตั้งใจทำและหมั่นใส่ฝ้ายเข้าไป ไม่อ่อนจนเกินไป เขาไม่ชอบมัน

กู้อ้าวเวยถือถุงผ้าฝ้ายนั้น รู้สึกว่าอาการปวดที่ช่องทองทุเลาลง  

ทันใดนั้นเสียงของเยว่ก็ดังออกมาจากข้างนอก “ท่านชายหยูน ข้านำยามาส่งให้เจ้า” 

“เข้ามา” กู้อ้าวเวยบีบคอเพื่อพูด เพื่อจะไม่เผยตัวตนใหทหารที่เฝ้าประตูรับรู้

เยว่แต่งกายเป็นทหารอารักขา แม้ว่าจะมีไม่กี่คนที่จะสามารถพาผู้หญิงเข้ามายังสนามรบอย่างอ๋องจิ้งได้ แต่เยว่มีวรยุทธ์แข็งแกร่ง ซ่านจินจื๋อได้รู้ตัวตนของนางว่านางกลับมาจากตระกูลที่เป็นวรยุทธ์ จึงให้นางคอยติดตามปกป้องเขา

เพียงแต่สายตาของพวกทหารที่มองนางนั้นแตกต่างกัน ในช่วงเวลานี้เยว่เองก็ไม่อยากจะอยู่ภายใต้สายตาของเหล่าทหารหนุ่มอายุน้อยเหล่านั้น

มาที่นี่ในตอนนี้ จะต้องมีเรื่องสำคัญอย่างแน่นอน  

เยว่วางยาต้มนั้นไว้บนโต๊ะเล็ก ๆ คุกเข่าครึ่งหนึ่งลงบนเบาะ เห็นหน้าที่ซีดเซียวของกู้อ้าวเวย แล้วพูดด้วยเสียงต่ำ “องค์ชายให้ข้ามาดูแลเจ้าแทนกุ่ยเม่ย อันที่จริงให้ชายหญิง......”

“เขาเป็นเหมือนญาติสนิทของข้า ไม่มีเรื่องเลอะเทอะอะไรเกิดขึ้นหรอก” กู้อ้าวเวยค่อยๆเงยหน้าขึ้น เหมือนจะจงใจให้เยว่เห็น ถือโอกาสเข้าไปใกล้อ้อมแขนของกุ่ยเม่ย

กุ่ยเม่ยก็ได้กอดคนที่แสนวุ่นวายไว้ในทันที และพยักหน้า  

เมื่อมองดูความสนิทสนมของทั้งสองคน เยว่ก็ยืนตัวแข็งทื่อ “มาที่นี่วันนี้ เยว่ก็เพียงแค่อยากจะถาม เจ้าทำไปเพื่อจะความยุติธรรมและการแก้แค้นจริงหรือ เจ้าไม่มีความคิดอื่นใดกับองค์ชายใช่ไหม” 

“หมายความว่าอะไร” กู้อ้าวเวยบีบถุงผ้าฝ้ายกดลงที่ท้องที่ปวดของนางอีกครั้ง กุ่ยเม่ยรู้สึกว่านางจะเคลื่อนไหวแรงเกินไป ค่อยๆกดไหล่ของนาง เพื่อไม่ให้นางขยับไปมา

“หากเรื่องต่าง ๆสำเร็จ องค์ชายก็จะอยู่เหนือผู้คนนับหมื่น เจ้าไม่ได้คิดอะไรเลยจริงหรือ” เยว่เงยหน้าขึ้นมองกู้อ้าวเวย ในใจไม่เคยเชื่อนางมาตลอด

“อืม ข้ารู้ว่าเจ้ายังระมัดระวังองค์ชายสาม” กุ่ยเม่ยรู้ชัดเจน นำเบาะของตนเองที่อยู่ไกลออกมา ขยับเข้ามา

นอนหลับสนิทตลอดคืน วันที่สองได้เพียงแต่ฝืนใจเดินทางต่อ  

ในระหว่างนี้กุ่ยเม่ยได้ออกไปส่งข่าวที่ทิงเฟิงโหลอย่างเงียบๆ และแน่นอนว่าจะต้องเก็บเรื่องนี้ของกู้อ้าวเวยไว้เป็นความลับ 

ในรถม้ากู้อ้าวเวยกำลังพลิกอ่านม้วนกระดาษ แม้ว่านางจะรู้สึกไม่สบายอยู่ตลอดทาง ด้วยอ่านหนังสือจำนวนมาก นอกรถม้ามีทหารวัยรุ่นสองคน กำลังพูดกันถึงเรื่องของสนามรบ ทำให้กู้อ้าวเวยอารมณ์เสีย

เดินทางจนเที่ยง ซ่านเซิ่งหานได้ให้คนมาบอกนาง “คืนนี้จะเข้าเมืองแล้ว และจะเข้าสบทบกับอ๋องจิ้งแล้ว” 

กู้อ้าวเวยปิดหนังสือลง พิงถุงผ้าของตนเองแล้วหลับลงอย่างสนิท เมื่อตื่นขึ้นมา ขบวนกำลังเข้าเมืองอย่างช้า ๆ องค์ชายสามและอ๋องจิ้งได้จัดเตรียมลานขนาดใหญ่ไว้ แม้ว่าง่ายที่จะถกเถียงกันไม่จบ แต่กลับสะดวกที่จะคุยเรื่องสำคัญกัน

กู้อ้าวเวยเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นที่เรียบร้อย จึงมาถึงยังห้องหนังสือเพียงลำพัง 

เมื่อผ่านประตูเข้าไป พบว่าทหารทั้งสองด้านกำลังจ้องมองกัน เห็นซ่านจินจื๋อกำลังเอามือทั้งสองค้ำบนโต๊ะ มองไปยังแผนที่ทราย “หากยังไม่ตัดเสบียงอาหารพวกเขา ฤดูหนาวนี้กลับต้องเป็นพวกเราที่ต้องขาดแคลนเสบียง”

“ในอีกไม่กี่วัน จะมีหิมะตกหนักที่ชายแดน การตัดเสบียงอาหารน่าจะไม่ใช่ความคิดที่ดี” ซ่านเซิ่งหานก็ขมวดคิ้ว ไม่พอใจที่อ๋องจิ้งมีความรีบร้อนอยากจะประสบความสำเร็จเกินไป

กู้อ้าวเวยหาที่ยืนที่ว่างอยู่ที่หนึ่ง มองดูแผนที่ทรายอยู่นาน แล้วยกคิ้ว “แทนที่จะคุยเรื่องเสบียงอาหาร เหตุใดไม่มาคุยกัน เรื่องแผนที่ทรายนี้ใครเป็นคนทำ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์