บุบผาร้อยเสน่ห์ นิยาย บท 491

บทที่ 491 ข่าวลือในหมู่บ้าน

ระยะทางยาวไกลมาก ครั้งนี้กู้อ้าวเวยยังไม่เคยลิ้มรสของการที่ต้องกินอยู่อย่างลำบาก

แต่ซ่านจินจื๋อก็ไม่เป็นอย่างเมื่อก่อนแล้ว ในแต่ละวันก็จะมีแต่รอยยิ้มแหยๆ บนใบหน้า มีแต่ส่งจดหมายให้กัน

ปกติแล้วเวลาทั้งสองคนส่งจดหมายให้กันแล้ว พออ่านเสร็จก็จะเผาทิ้งหรือไม่ก็เอาไปชุบน้ำให้เสียหาย ไม่มีใครจริงใจต่อใคร กู้อ้าวเวยก็ออกตัวว่ายืนฝั่งองค์ชายสาม ส่วนซ่านจินจื๋อก็ยังคงยืนหยัดไม่ฆ่าซูพ่านเอ๋อ อย่างน้อยก็ต้องหาหลักฐานมาก่อน

ตลอดทาง ทั้งสองคนก็เรียนรู้ที่จะคุยกันปกติ

แต่ช่วงนี้หิมะตก ทางถูกปิดด้วยหิมะ ซ่านจินจื๋อไปหาห้องในโรงเตี๊ยมเก่าๆ ในเมือง ในพื้นที่กันดารเช่นนี้ จะหาเตียงนอนดีๆ สักอันถือว่ายากมาก

ทั้งสองคนนอนหันหลังให้กัน แต่ซ่านจินจื๋อก็ต้องตื่นขึ้นเพราะร่างกายขยับ

กู้อ้าวเวยข้ามตัวเขาออกมา เท้าเปล่าเหยียบพื้น แล้วตรงมาที่โต๊ะเพื่อดื่มน้ำที่มีกลิ่นน้ำชาผสมอยู่ เขาไม่ได้นั่งลง แต่เอามือคลำมัดเชือกที่เอวตนเอง

“เป็นอะไร?” ซ่านจินจื๋อลุกขึ้นมาจุดตะเกียง

แสงตะเกียงแทงตากู้อ้าวเวย แล้วก็ทำให้เขารู้สึกตัว แล้วก็ยกมือขึ้นมา “ไม่มีอะไร นอนอิ่มแล้วก็เลยลึกขึ้นมา”

“ตลอดทางไม่มีวันไหนนอนได้6ชั่วโมง” ซ่านจินจื๋อเดินหน้านิ่งๆ มาข้างกายนาง แล้วเอาชาที่เย็นชืดวางลง แล้วก็ก้มอุ้มนางขึ้นไปบนเตียง “เจ้านอนเสีย”

“นอนไม่หลับ” กว่ากู้อ้าวเวยจะอยู่ภายใต้อ้อมกอดเขา แต่ในสายตาก็มีความจริงใจ

ถูกวางไว้บนผ้านวมนุ่มๆ ซ่านจินจื๋อเพิ่งพบว่าบนหัวนางเหงื่อออก ส่วนมือก็เย็นมาก

“อีกกี่วันกว่าจะถึง?” กู้อ้าวเวยนอนตะแคง แล้วพูดเบาๆ

“รอผ่านเขานี้ไป เดินไม่กี่ชั่วยามก็ถึงแล้ว” ครั้งนี้ซ่านจินจื๋อไม่ได้นอนลงไป แต่นั่งข้างเตียง “ร่างกายเจ้าเย็นมาก แล้วยังมีเหงื่อ หรือจะเป็นเพราะว่าตอนนั้น..........”

“ไม่ใช่ทั้งหมด” กู้อ้าวเวยนอนหนุนผ้าห่มข้างๆ แล้วสัปหงก “เหงื่อออกกลางดึกก็เพราะว่าฝันร้าย ส่วนที่ตัวเย็นเพราะร่างกายข้าเอง ส่วนเรื่องอื่นก็เพราะความผิดเจ้ากับซูพ่านเอ๋อ”

นิ่งกันไป ซ่านจินจื๋อก็พูดไม่ออกว่าจะรู้สึกผิดหรืออะไร แต่รู้สึกลำบากใจ นิ่งไปสักพักแล้วหันมา แต่กู้อ้าวเวยไม่ได้หลับลงไป แต่มองเหม่อไปยังมุมห้อง

“ไม่ยักรู้ว่าเจ้าก็เคยใช้ชีวิตอยู่ในที่แบบนั้น” กู้อ้าวเวยคิดว่า ตลอดทางยิ่งเดินมายิ่งกันดาร

“พ่อข้าไม่ชอบข้า ในเมื่ออยากมีชีวิตรอด ก็ต้องเดินไปให้สุด” ซ่านจินจื๋อตอบอย่างไม่สบายใจ แล้วก็ดึงผ้าห่มให้กู้อ้าวเวย แล้วพูดว่า “บางที ถ้าครั้งนั้นข้าให้ซูพ่านเอ๋ออยู่ที่สำนัก ต่อมาก็คงไม่ทำร้ายเจ้า”

“ถ้าเจ้าไม่ออกมา แผ่นดินแคว้นชางหลานก็จะถูกแบ่งเป็น2แผ่น” กู้อ้าวเวยส่ายหน้า “ถึงแม้เจ้าจะเป็นคนเย็นชา ทำสงครามจนเคยตัว รวมๆ แล้วเจ้าทำไปก็ไม่ผิด”

ซ่านจินจื๋อนิ่งไปอีก กู้อ้าวเวยก็พลิกตัว นอนหงาย แล้วก็ยิ้มอย่างสะใจ

“ไม่ได้ตายบนเขา แต่ถูกฆ่าแล้วฝังไว้แต่นั่นเป็นเรื่องเล็ก แต่เขาที่ถล่มลงมาก็ไหลลงน้ำหมด คนทางใต้ของน้ำก็ล้มตายกัน เจ้าคิดว่าแปลกไหม?” พูดถึงที่นี่ ทั้งเฒ่าแก่เนี๊ยะและคนข้างๆ ก็ส่ายหัวหมด

กู้อ้าวเวยก็ตกใจ “คงจะเป็นยาพิษที่แรงมาก ถึงได้เป็นเช่นนั้น”

“เจ้าพูดถูก ตอนนั้นคนที่พิสูจน์ศพก็บอกอยู่ว่าเป็นเช่นนี้ ต่อมาทางการก็ส่งคนขึ้นเขาไปค้นได้ยาพิษมา ถ้าไม่ได้หมอคนนั้นเป็นคนถอนพิษ คงตายกันหมด”

“แพล้ง! ......”

แก้วในมือถูกบีบแตก น้ำชาทะลักออก

คนที่นั่งอยู่ก็ตกใจ แล้วก็มองมาทางชายหน้านิ่ง

กู้อ้าวเวยหันไปแปลกๆ แล้วก็เอาผ้ามาช่วยเขาเช็ด เห็นหน้าเขาเสีย แล้วก็โบกมือไล่เฒ่าแก่เนี๊ยะ “คนฝึกวิทยายุทธ แล้วควบคุมกำลังตนเองไม่ได้”

“อ๋อเหรอ.........” เฒ่าแก่เนี๊ยะกลืนน้ำลาย กู้อ้าวเวยปลอบเขา ก็พูดต่อว่า “พวกเราคิดว่าคนบนเขาจะเป็นคนดีหมด ตอนนี้เริ่มกลัว แล้วเรื่องศพที่ถูกฝังมานาน เพราะขาถูกตีจนหักบอกว่าถูกกระบี่ไม้ฟัน ตอนนั้นพ่อของเด็กก็นึกได้ ว่าคนบ้านบนเขา ว่ามีเด็กสาววิ่งเล่นถือกระบี่ไม้ตามพี่ชายไป .......”

ได้ยินดังนั้น สีหน้ากู้อ้าวเวยก็เปลี่ยนไป

นางก็รู้ได้ว่าทำไมซ่านจินจื๋อถึงกำแก้วแตก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์