บุบผาร้อยเสน่ห์ นิยาย บท 509

บทที่ 509 ผ่อนคลาย

กู้อ้าวเวยเดิมทีคิดจะอยู่ต่ออีกสองวันจึงค่อยออกเดินทาง วันรุ่งขึ้นก็ได้หลับไปในช่วงรุ่งเช้า ได้ยินเสียงคนเปิดประตู จึงลืมตาตื่นขึ้นมาจากหลับใหล สวมเสื้อคลุมแล้วรีบออกประตูไป

ได้มองเห็นทหารประจำเมืองยืนอยู่หน้าประตู ล่ายเสวียนในชุดเรียบร้อยยืนอยู่หน้าสุด “รัชทายาทแห่งแคว้นเอ่อตานหวังว่าท่านจะกลับไปสักหน่อย”

พูดจบ ก็ได้ยื่นจดหมายฉบับหนึ่งส่งไปยังมือของนาง

กู้อ้าวเวยชำเลืองมองอย่างเร่งรีบ ตัวอักษรแต่ละบรรทัดมีแต่ความกังวลและคำตำหนิ

คิดดูแล้วนี่ไม่น่าจะเป็นสิ่งที่ฉูห้าวเป็นคนเขียนขึ้นมาแน่นอน จะต้องเป็นหยุนหว่านที่กังวลเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ จึงพยักหน้าอย่างเยือกเย็นไม่สะท้าน เปลี่ยนเครื่องแต่งกายแล้วตามล่ายเสวียนออกไป

กลัวว่าจดหมายฉบับนี้จะถึงมาเมื่อสองสามวันก่อน ฮ่องเต้จึงรอพบนางก่อนจึงจะตัดสินใจให้นางออกไปแบบนี้

น่าจะต้องมีเหตุผลอะไรบางอย่างเกี่ยวกับม้าศึกทั้งหนึ่งพันเป็นแน่ หากจะพูดถึงกองทหารม้าของแคว้นเจียงเยี่ยนแล้ว ถือว่าเป็นกำลังในการต่อสู้ที่ไม่น้อยเลย แม้ว่าการที่มอบสิ่งเหล่านี้ให้กับล่ายเสวียนจะเกิดความไม่พอใจ แต่อย่างไรก็ตามฮ่องเต้ก็ช่วยให้ล่ายเสวียนมีตำแหน่งเพื่อให้ตระกูลอ้ายอ่อนแอลง เพื่อเปิดทางให้มีการตรวจสอบและถ่วงดุล

กู้อ้าวเวยคาดการณ์ไว้ครึ่งทาง ส่วนยุทธการที่เหลือคงต้องให้กู้เฉิงเป็นผู้จัดการ

ตลอดเส้นทางมีล่ายเสวียนคอยคุ้มกัน อ้ายจือก็อยู่ข้างๆล่ายเสวียนอย่างว่าง่าย และก็ไม่ลืมที่จะกลับไปดูเมี่ยวหาร

อีกทั้งมีการกระเทือนตลอดเส้นทาง กู้อ้าวเวยจึงรู้สึกว่าในช่วงที่ผ่านมาจะมีอาการปวดหัวบ่อยครั้งขึ้น

แต่ไม่ว่าจะตรวจชีพจรหาสาเหตุอย่างไร ก็ไม่พ้นว่าตนเองพักผ่อนน้อยเกินไป และมีเรื่องมากมายที่คิดกังวลใจ

ถูกคุ้มกันพาไปส่งถึงแผ่นดินแคว้นเอ่อตาน กองทหารของฉูห้าวก็พานางไปยังดินแดนของเมืองที่ไม่เคยไปมาก่อน

ราษฎรที่นี่ดูเหมือนจะมีบุคลิกเป็นผู้คงแก่เรียนที่เข้มข้นสักหน่อย กู้อ้าวเวยถูกพาไปส่งถึงจวน ยังไม่เห็นใครเลยรอบกาย และด้วยยังเช้ามากจึงเผลอหลับไปในห้อง

จนกระทั่งหยุนหว่านและฉูหลี่เข้ามา ที่ด้านนอกประตูกุ่ยเม่ยทำท่าทางยกนิ้วจุ๊ปาก “นางกำลังหลับ”

ฉูหลี่ไม่พอใจอย่างมาก ต้องการที่จะสั่งสอนลูกสาวที่แสนจะประมาทคนนี้ หยุนหว่านที่อยู่ด้านข้างได้ผลักตัวเขาออกไป ลดเสียงพูดลง “เวยเอ๋อไม่ค่อยได้หลับให้สนิท อย่าไปกวนนางเลย”

ทั้งกุ่ยเม่ยและฉูหลี่มองไปยังนาง

ฮูหยินคนที่อยากจะสั่งสอนลูกสาวแสนดื้อคนเมื่อวานหายไปไหนแล้ว

หยุนหว่านโบกมืออย่างหยาบๆ ผลักประตูเข้าเบาๆแล้วเข้าไปด้านใน นั่งอยู่บนขอบเตียงรอให้นางตื่น

กุ่ยเม่ยรีบถอยกลับออกไป เมื่อได้เห็นใบหน้าที่แสนเศร้าของฉูหลี่ ก็อดจะถามไม่ได้ “ฝ่าบาทกำลังเป็นทุกข์เรื่องฮูหยิน หรือเพราะเวยเอ๋อ”

“ทั้งคู่นั้นแหละ” ฉูหลี่ถอนหายใจ “ทั้งแม่ทั้งลูกล้วนแต่ทำให้กังวลใจ แต่สุดท้ายแบบไหนถึงจะดี”

“หากเวยเอ๋อตื่นแล้ว รู้ว่าท่านได้สับซ่านจินจื๋อเป็นชิ้นๆไปแล้ว ไม่รู้ว่านางจะปฏิบัติต่อท่านอย่างไร” จู่ๆกุ่ยเม่ยก็สาดน้ำเย็นเข้าใส่

ฉูหลี่จ้องมองไปยังกุ่ยเม่ยด้วยความโกรธ จากนั้นก็หนีไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่อยากอยู่ร่วมกับเรื่องของคนในครอบครัว

“เขาคล้ายกับฝ่าบาทไหม” กู้อ้าวเวยใช้มือกุมหน้าของนางอย่างงุนงง คิดดูอย่างรอบคอบ คิดแล้วก็มีความคล้ายคลึงอยู่บ้าง และก็หัวเราะขึ้นมา “ข้ายังไม่เคยอยู่กับเขา เพียงแค่ช่วยกันแก้ไขภัยพิบัติเท่านั้น ท่านแม่ไม่ต้องกังวล”

ได้รับคำตอบจากลูกสาว หยุนหว่านก็สบายใจขึ้น ยังไม่ทันจะพูด ประตูก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง

ฉูหลี่เดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว เห็นสองแม่ลูกกำลังพิงอยู่บนเตียง ใจที่ตึงเครียดมาหลายปีก็คลายลงเช่นกัน แต่สุดท้ายก็รู้ดีว่าเหตุใดหยุนหว่านจึงไม่พูดอะไรมากกับลูกสาว กำลังรีบเดินเข้าไป แต่กลับถูกหยุนหว่านห้ามไว้ “เจ้ามาทำอะไร”

“ก็มาหาเวยเอ๋อนะสิ” ฉูหลี่พูดกับหยุนหว่านเบาๆ เมื่อได้เห็นท่าทางที่ไร้เดียงสาของลูกสาวอีกครั้ง จึงโกรธขึ้นมาและต่อว่าออกไป “เจ้าไปแคว้นเจียงเยี่ยนเพียงลำพัง ทำให้แม่ของเจ้าต้องเป็นกังวล วันหลังอย่าทำแบบนีอีกนะ”

กู้อ้าวเวยมองไปยังหยุนหว่านอย่างเงียบๆ แอบดึงชายเสื้อด้านหลังของนาง คล้ายจะมีคำถาม

หยุนหว่านรู้สึกว่าลูกสาวของนางไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงลุกขึ้นยืน เผชิญหน้ากับฉูหลี่ “ยังไม่ถึงตาเจ้าจะพูด เจ้าไม่ได้ทำหน้าที่ของพ่อมาหลายปีแล้ว ตอนนี้กลับมาตำหนิลูกสาว หรือเจ้าอยากจะผูกลูกเอาไว้ข้างกายเหมือนตอนนั้น ถึงจะพอใจ”

ตอนแรกรู้สึกว่ามันเป็นการพูดเรื่องเก่าๆ กู้อ้าวเวยจึงลุกขึ้นมาเพื่อจะห้าม แต่กลับเห็นฉูหลี่ยืนนิ่งถูหัวของเขาอย่างงุนงง และยังจะพูดซ้ำ ๆ “ข้านี่กล้าดียังไง เมื่อวานเจ้าบอกแล้วว่าให้พูดกับเวยเอ๋อดีๆ......”

“ข้าเพียงแต่พูดตามใจปาก ข้าเห็นว่าเจ้าต้องการจะสอนเวยเอ๋อ”

เมื่อสองคนได้พบกันก็เห็นอะไรอย่างหนึ่ง หยุนหว่านรู้สึกก้าวร้าวเมื่อได้เห็นฉูหลี่ ปกติแล้วฉูหลี่จะเป็นคนบงการ แต่ตอนนี้กลับได้แต่พยักหน้า

จนกระทั่งทั้งสองคนเถียงกันเสร็จสิ้น จึงได้พบว่าลูกสาวที่อยู่บนเตียงได้หายไป หยุนหว่านมองไปด้านข้าง “ต้องโทษเจ้า จะมาเสียงดังตอนไหนก็ไม่ทำมาเสียงดังตอนนี้”

“ความผิดข้าความผิดข้า” ฉูหลี่รีบปลอบใจ นี่เป็นความเสียหายที่ไม่เคยมีมาก่อน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์